การเลือกซื้อ รถยนต์มือสอง นั้น นอกจากเอกสารที่เราจะต้องเช็คดูอย่างละเอียดแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องเช็คให้ละเอียดเช่นกันก็คือ การเช็คสภาพรถ ว่าเคยผ่านการชนหรือประสบอุบัติเหตุหนักๆมาหรือไม่ ซึ่งในส่วนนี้อาจจะมีข้อสังเกตให้เช็คได้บ้างไม่มากก็น้อย แต่อีกสิ่งหนึ่งที่น่ากลัวไม่แพ้กันเลย แถมยังอาจจะน่ากลัวกว่าการผ่านการชนมาก็คือ การเช็ครถที่เคยผ่านการ จมน้ำ จากเหตุ น้ำท่วม มานั่นเอง
การเช็ครถที่ผ่านการจมน้ำมานั้น อาจจะดูยากกว่ารถที่เคยผ่านการชนมาเสียอีก ซึ่งสิ่งที่ว่าดูยากนั้นก็คือ รถที่ผ่านการชนมาเราอาจจะเช็คจากโครงสร้างหรืออุปกรณ์ต่างๆของตัวรถที่อาจจะมีการบิดเบี้ยวได้ แต่ในกรณีของการเช็ครถที่เคยผ่านการจมน้ำหรือโดนน้ำท่วมมาทั้งคันนั้น เราไม่สามารถเช็คจากโครงสร้างได้เลย แล้วแบบนี้เราจะสามารถเช็คได้ยังไงว่ารถมือสองคันนี้เคยผ่านการจมน้ำมา วันนี้ทางทีมงาน Auto MThai ก็มีเทคนิคเบื้องต้นมาบอกกัน ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้น ลองมาดูกันเลย
- กลิ่นอับภายในรถ สิ่งแรกๆเลยที่น่าจะสัมผัสกันได้ก็คือ กลิ่นอับภายในรถ ที่เกิดจากอุปกรณ์ต่างๆในห้องโดยสารเช่น กลิ่นจากพรม ช่องแอร์ หรือเบาะผ้าที่เกิดจากการหมักหมมมานั่นเอง สำหรับคนที่จมูกดีๆ เชื่อว่าเพียงแค่เปิดประตูมาก็สามารถสัมผัสกับกลิ่นนี้ได้แล้ว นอกจากนี้กลิ่นอับที่อยู่ภายในรถนั้น ยังเป็นกลิ่นที่ยากจะกำจัดออกไปอีกด้วย บางทีสเปรย์ดับกลิ่นยังไม่สามารถกำจัดกลิ่นเหล่านี้ออกไปได้เลย
- รางเบาะ ในส่วนนี้อาจจะเช็คได้ง่ายหน่อย เพราะเนื่องจากอุปกรณ์ที่เป็นเหล็ก ถ้าแช่น้ำนานๆ สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือ สนิมนั่นเอง ดังนั้นเราสามารถเช็คจากรอยคราบสนิมได้เลย
- ระบบไฟฟ้า หรือระบบอิเล็คทรอนิคภายในรถ เช็คระบบไฟของหน้าปัดว่ามีการแสดงผลเป็นปกติหรือไม่ กระจกไฟฟ้า รวมไปถึงระบบล็อครถ ว่ามีการทำงานปกติดีหรือเปล่า ติดขัดบ้างไหม ถ้าการทำงานผิดปกติ สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่ารถคันนั้นอสจจะเคยผ่านการจมน้ำมาก่อน
- วัสดุซับเสียง ตรงส่วนนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่สามารถยืนยันได้เช่นกัน เพราะถ้าเป็นรถที่เคยผ่านการจมน้ำมาก่อน วัสดุซับเสียงจะเปื่อย และมีสีคล้ำ ซึ่งยากที่จะทำให้กลับมาเหมือนเดิมได้ นอกจากว่าเต๊นท์รถจะเปลี่ยนใหม่
- ห้องเครื่องยนต์ ในกรณีที่น้ำท่วมรถแบบทั้งคัน บางทีอาจจะต้องมีการรื้อระบบเครื่องยนต์ออกมาทำความสะอาด แล้วประกอบเข้าไปใหม่ ดังนั้นเราสามารถสังเกตได้จาก น็อตยึดอุปกรณ์ต่างๆ รวมไปถึงคราบน้ำ และคราบสนิม ที่อาจจะทิ้งร่องรอยไว้ด้วยเช่นกัน
ภาพประกอบจาก partsmarket , witf , autoblog