Honda Motor ประเทศญี่ปุ่น ประกาศกลยุทธ์ใหม่สำหรับทศวรรษหน้า โดยให้คำมั่นว่าจะลงทุน 5 ล้านล้านเยน (1.3 ล้านล้านบาท) ในด้านระบบไฟฟ้าและซอฟต์แวร์ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ามากถึง 30 คันทั่วโลกภายในปี 2030 รวมถึงรถสปอร์ตไฟฟ้า 2 คัน
แผนการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่
ไฮไลท์สำคัญของงานครั้งนี้คือการเปิดเผยความคืบหน้าของรถยนต์ไฟฟ้าในรูปแบบรถสปอร์ต ซึ่งได้เผยออกมาด้วยกัน 2 รุ่น ทั้งรุ่นพิเศษ และรุ่นเรือธง ที่มุ่งมั่นในการส่งต่อ “ความสุขในการขับขี่” สู่ยุคไฟฟ้า แม้จะไม่ได้เผยผ้าคลุม แต่คาดว่าจะเป็น Honda/Acura NSX
ซึ่งทั้งสองรุ่นก็เป็นรถสปอร์ตที่นำเสนอขุมพลังอนาคตจากขุมพลังไฮบริดที่ได้รับการยอมรับจากแฟน ๆ ทั่วโลก แต่ในครั้งนี้จะมาพร้อมกับขุมพลังไฟฟ้า 100%
สำหรับแผนการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าทั้ง 30 รุ่นนั้น จะเป็นการเปิดตัวรถที่จำหน่ายในแต่ละภูมิภาค อาทิ ในอเมริกาเหนือจะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าทั้ง 2 รุ่น ในปี 2024 ซึ่งได้รับการพัฒนาร่วมกับเจนเนอรัล มอเตอร์ส (GM) ได้แก่ Honda Prologue และ Acura ที่ยังไม่เปิดชื่อในเวลานี้
ในปี 2024 เอง ก็จะมีการเปิดตัว mini-EV LCV ในญี่ปุ่น ซึ่งจะเป็นรถยนต์ขนาดเล็กราคา 1 ล้านเยน และรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กรุ่นอื่น ๆ ในญี่ปุ่น และในประเทศจีนเองก็จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าให้ครบอีก 10 รุ่น ภายในปี 2027
ด้วยแผนยุทธศาสตร์การเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้านั้น ส่วนหนึ่งจะได้รับการพัฒนาบนแพลตฟอร์ม EV-dedicated ใหม่ที่พัฒนาร่วมกับ GM เรียกว่า Honda e: Architecture ที่จะได้รับการเปิดตัวในปี 2026 โดยผสมผสานฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ล่าสุดเข้าด้วยกัน จากนั้น จะเปิดตัวในปี 2027 ในฐานะรถ EV ราคาไม่แพง โดยทางบริษัทฯ แนะนำว่ารุ่นเหล่านี้จะสามารถแข่งขันกับรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซินทั้งในด้านราคาและระยะการขับขี่
ลงทุนสายการผลิตที่ครบวงจร
Honda ประกาศเตรียมสร้างสายการผลิต EV เฉพาะในอเมริกาเหนือ ควบคู่ไปกับโรงงาน EV ใหม่ 2 แห่งในประเทศจีน ทั้งในกวางโจวและในหวู่ฮั่น เพื่อรองรับเป้าหมายการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 2 ล้านคันต่อปี
ซึ่งการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเหล่านั้น ฮอนด้าต้องการแบตเตอรี่จำนวนมาก ดังนั้นจึงเป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้กับพันธมิตรภายนอก ในอเมริกาเหนือ ฮอนด้าจะจัดหาแบตเตอรี่ Ultium จาก GM ในขณะเดียวกันก็สำรวจกิจการร่วมค้าใหม่ ๆ สำหรับการผลิตแบตเตอรี่ นประเทศจีน ผู้ผลิตรถยนต์จะกระชับความร่วมมือกับ CATL ขณะที่ในญี่ปุ่น รถ Mini EV จะใช้แบตเตอรี่จาก Envision AESC
และทางฮอนด้าก็จะลงทุนด้านแบตเตอรี่แบบ Solid-State ด้วยมูลค่าสูงถึง 43 พันล้านเยน (1.15 พันล้านบาท) โดยจะเริ่มการผลิตสาธิตในฤดูใบไม้ผลิปี 2024 และรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกที่ใช้แบตเตอรี่นี้จะเปิดตัวครึ่งทศวรรษหลังเป็นต้นไป ซึ่งค่าใช้จ่ายในการวิจัย และพัฒนาทั้งหมดในทศวรรษหน้าตั้งเป้าไว้ที่ 8 ล้านล้านเยน
นอกจากนี้ ทางฮอนด้า ยังได้วางกลยุทธ์ “โซลูชั่นที่หลากหลายสำหรับผลิตภัณฑ์โมบายล์ทั้งหมด” ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในด้านอื่น ๆ อาทิ การพัฒนารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าแบบสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้, การยกระดับพัฒนาเทคโนโลยีไฮโดรเจนฟิวเซล, เชื้อเพลิงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นต้น เพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางของคาร์บอนสำหรับผลิตภัณฑ์ทั้งหมดและกิจกรรมขององค์กรภายในปี 2050
เครดิตข้อมูลจาก carscoops.com