BMW Group เดินหน้าสร้างความยั่งยืนให้กับแบรนด์ BMW และ MINI อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้ประกาศเปลี่ยนไปใช้ล้ออะลูมิเนียมที่ได้รับการผลิตด้วยพลังงานหมุนเวียน และล้ออะลูมิเนียมรีไซเคิลที่ใช้กรรมวิธีเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
Joachim Post หัวหน้าฝ่ายจัดซื้อและเครือข่ายซัพพลายเออร์ของ BMW กล่าวว่า “พลังงานสีเขียวเป็นหนึ่งในกลไกที่สำคัญที่สุดในการลดการปล่อย CO2 ในห่วงโซ่อุปทานของเรา เราได้ลงนามในสัญญามากกว่า 400 ฉบับกับซัพพลายเออร์ของเรา รวมถึงซัพพลายเออร์ล้อ และอลูมิเนียม โดยกำหนดให้พวกเขาใช้พลังงานสีเขียว”
ด้วยการใช้พลังงานสีเขียวในกระบวนการผลิตล้ออะลูมิเนียมใหม่ จะช่วยลดรอยเท้าคาร์บอนของกระบวนการอิเล็กโทรลิซิสที่ใช้ในการผลิตอะลูมิเนียม และในขั้นตอนการสร้างการหล่อด้วยล้อ ซึ่งทาง BMW Group ไดคาดการณ์ว่ามาตรการเหล่านี้จะร่วมช่วยลดการปล่อย CO2 ได้ 500,000 ตันต่อปี
นอกจากนี้ ทางบริษัทฯ ยังได้วางแผนที่จะนำล้ออะลูมิเนียมเก่า และเศษอะลูมิเนียมเก่ามาทำการหลอมเป็นล้อใหม่ ผ่านกระบวนการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ การใช้พลังงานหมุนเวียน 100% ซึ่งจะช่วยลด CO2 จากกระบวนการผลิตได้มากถึง 80%
ผลิตภัณฑ์ล้ออะลูมิเนียมใหม่นี้จะประกอบไปด้วยวัสดุอะลูมิเนียมรีไซเคิลมากถึง 70% โดยจะประเดิมใช้งานใน MINI Countryman เป็นรุ่นแรกในปี 2023 และจะกระจายไปสู่รถรุ่นอื่น ๆ ในอนาคต ซึ่งจะช่วยให้บริษัทฯ ประหยัดค่าใช้จ่ายได้เป็นจำนวนมาก
เนื่องจาก BMW Group ซื้อล้ออัลลอยประมาณ 10 ล้านล้อต่อปี ซึ่ง 95% ของล้อทำมาจากอะลูมิเนียมหล่อ ดังนั้น การสร้างความมั่นใจว่าพวกเขาสร้างผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนยานยนต์พลังงานสีเขียวแม้จะเป็นกระบวนการที่ซับซ้อน แต่กระบวนการนี้จะช่วยให้ BMW สามารถยกระดับพันธกิจในการเป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
เครดิตข้อมูลจาก carscoops.com