ความรู้เรื่องรถ ระบบปรับอากาศ แอร์รถยนต์

รวมเทคนิคเปิดแอร์รถยนต์รับซัมเมอร์ เย็นไว ลดกลิ่น ประหยัดน้ำมัน และถนอมแอร์

การได้รู้จักเทคนิคเปิดแอร์ในรถยนต์ นอกจากจะช่วยให้เย็นสบายแล้ว ยังทำหน้าที่เป็นส่วนเสริมที่ช่วยเพิ่มความสะดวก และความอุ่นใจในระหว่างขับรถได้

Home / AUTO / รวมเทคนิคเปิดแอร์รถยนต์รับซัมเมอร์ เย็นไว ลดกลิ่น ประหยัดน้ำมัน และถนอมแอร์

ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางทำงานทุกวัน หรือการขับรถทางไกล การเปิดแอร์ภายในรถนั้นเป็นสิ่งที่ทำกันเป็นเรื่องปกติ ด้วยอากาศที่เย็นสบายที่พัดออกจากช่องแอร์ ช่วยให้คุณขับรถได้อย่างสบายกาย และสบายใจ แต่หากรู้หรือไม่ว่า การได้รู้จักเทคนิคเปิดแอร์ในรถยนต์ นอกจากจะช่วยให้เย็นสบายแล้ว ยังทำหน้าที่เป็นส่วนเสริมที่ช่วยเพิ่มความสะดวก และความอุ่นใจได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากต้องเจอสถานการณ์แย่ ๆ ตอนระหว่างขับรถ เช่น เย็นไม่ทันใจ เกิดฝ้าในกระจก ไล่กลิ่นไม่พึงประสงค์ ประหยัดน้ำมัน และถนอมแอร์ให้ใช้งานได้ยาวนาน ซึ่งวิธีดังกล่าวคุณเองสามารถทำได้อย่างง่าย ๆ

เทคนิคเปิดแอร์รถยนต์ที่ให้มากกว่าแค่ความเย็น

1)เทคนิคเย็นไว แม้รถจอดตากแดด

วิธีที่เบสิกในการทำให้แอร์เย็นไวอย่างการเร่งแอร์เมื่อสตาร์ทรถ สิ่งที่ถูกต้องก็คือ เมื่อสตาร์ทรถแล้วให้เปิดเปิดพัดลมเบอร์แรงสุดราว ๆ 1 นาที ก่อนกดปุ่ม A/C เพื่อไล่ความร้อนสะสมในช่องแอร์ เมื่อได้เวลาก็กดปุ่ม A/C โดยที่ไม่ต้องเปิดสุดเบอร์ และเปิดระบบหมุนเวียนอากาศภายในรถ เพื่อทำให้อุณหภูมิภายในเย็นลงอย่างรวดเร็ว

ในกรณีที่รถจอดตากแดดนาน ๆ ให้เพิ่มการเปิดหน้าต่างครึ่งหนึ่ง หรือหากมีซันรูฟ ก็เปิดออก 1 ใน 3 แล้วเปิดพัดลมเบอร์แรงสุด และปรับช่องแอร์ขึ้นข้างบนราว ๆ 1 นาที จากนั้นให้ปิดหน้าต่างกับซันรูฟให้สนิท กดปุ่ม A/C เปิดระบบหมุนเวียนอากาศภายในรถ และปรับช่องแอร์ลงตามลำดับเช่นเดียวกัน

หากใช้วิธีดังกล่าวแล้วยังเย็นไม่เร็วพอ คงต้องดูว่าระบบแอร์รถยนต์มีปัญหาหรือไม่ อาทิ ฝุ่นจับไส้กรองหนาหรือไม่ หรือมีวัตถุอะไรบังอยู่หน้าแอร์รถหรือไม่ หากแก้แล้วไม่หายอาจต้องนัดช่างมาตรวจสอบแอร์ดู

AC in Car

2)เย็นฉ่ำ พร้อมลดกลิ่นไม่พึงประสงค์

ก่อนถึงที่หมายใน 3 – 5 นาที ควรปิดระบบ A/C เพื่อหยุดการทำงานของคอมเพรสเซอร์ พร้อมกับเปิดพัดลมแอร์ที่เบอร์แรงสุดเพื่อไล่ไอน้ำและฝุ่นละอองออกจากคอยล์เย็น ลดการสะสมสิ่งสกปรก และกลิ่นอับจากเชื้อราได้

แต่หากมีกลิ่นอับออกจากแอร์ ควรปิดระบบ A/C แล้วเปิดพัดลมแทน ซึ่งอาจจะต้องเปิดหน้าต่างหรือซันรูฟบานใดบานหนึ่งเล็กน้อยเพื่อไล่กลิ่นอับชั่วคราว แต่การเปิดหน้าต่างไล่กลิ่นไม่พึงประสงค์ จะไม่เหมาะสำหรับการขับรถในเมือง

พวกน้ำหอม หรือสเปรย์ปรับอากาศภายในรถ แม้จะช่วยลดกลิ่นอับภายในรถได้ แต่ไม่ควรใช้บ่อยเกินไป เนื่องจากสารที่ระเหยจะไปยึดจับซอกคอยล์เย็นจนมีความเหนียวพอให้ฝุ่นติดได้ ซึ่งจะส่งผลต่อการสะสมกลิ่นอับ แบคทีเรีย และเชื้อราจนทำให้เกิดกลิ่นอับ และแอร์เย็นช้าลงได้

ในกรณีเจอรถติด ควรใช้ระบบหมุนเวียนในอากาศแทนการดึงอากาศภายนอกเข้าเพื่อป้องกันไม่ให้ไอเสียรถยนต์เข้ามา

สำคัญที่สุด หมั่นทำความสะอาดภายในรถ เก็บขยะออกจากรถ ไม่กินอาหารบนรถจนเป็นนิสัย และตรวจสอบความสะอาดของช่องแอร์ สามารถช่วลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ภายในรถได้เป็นอย่างมาก

3)เปิดแอร์ไล่ฝ้า สบายใจเมื่อเจอฝน

ในกรณีที่เกิดฝนตกกระทัน จนทำให้เกิดฝ้าจากข้างในห้องโดยสารเนื่องจากอุณหภูมิภายในเย็นกว่าภายนอก ผู้ขับขี่ หรือผู้โดยสาร ควรปรับอุณหภูมิแอร์ให้ใกล้เคียงกับภายนอกรถ โดยต้องให้อุณหภูมิภายนอกและภายในสัมพันธ์กัน หรือเปิดระบบดึงอากาศจากภายนอกรถเพื่อควบคุมอุณหภูมิ หากไม่ได้ผลก็ให้ปรับช่องแอร์ไม่ให้โดนกระจกรถ หรือหากรถคุณมีระบบไล่ฝ้าที่กระจกหน้าก็ช่วยได้ดีทีเดียว

แต่ถ้าหากต้องขับรถลุยน้ำท่วม ควรปิดแอร์รถยนต์ไว้ก่อน เพื่อป้องกันไม่พัดลมแอร์ดูดน้ำเข้าไปทำลายชิ้นส่วนตู้แอร์ได้

สำหรับในช่วงฤดูหนาว ก็สามารถทำให้เกิดฝ้าหรือหยดน้ำที่หน้ารถได้เช่นกัน ดังนั้นควรปิดแอร์ และเปิดระบบไหลเวียนภายนอกแทน

4)เเย็นสบาย ประหยัดน้ำมัน

การเปิดแอร์ในรถยนต์จะมีการดึงน้ำมันรถมาใช้เป็นพลังงานในการทำงานด้วยเช่นกัน หากต้องการลดการใช้น้ำมัน ควรเปิดพัดลมให้แรงแทนการเร่งอุณหภูมิแอร์ให้ต่ำลง ซึ่งจะช่วยลดการทำงานหนักของระบบตู้แอร์ ลดการสิ้นเปลืองน้ำมัน แถมเย็นสบายไม่แพ้กัน

แต่หากขับรถตอนน้ำมันใกล้หมดแล้วหาปั๊มไม่ทัน ควรปิดแอร์ เปิดเฉพาะพัดลม ห้ามเปิดหน้าต่างรถ แล้วหาปั๊มน้ำมันที่ใกล้ที่สุด เพราะการเปิดหน้าต่างพร้อมกับขับรถด้วยความเร็วสูง จะทำให้เกิดลมปะทะเข้าข้างในจนเกิดแรงต้าน ทำให้ต้องดึงน้ำมันมากขึ้นเพื่อเร่งเครื่อง ซึ่งแทบไม่ช่วยอะไรเลย

แม้เทคโนโลยีในรถยนต์สมัยใหม่จะช่วยลดการใช้น้ำมันมากขึ้น มีปั๊มน้ำมันหลากหลายยี่ห้อ และกระจายตัวมากขึ้น ซึ่งวิธีนี้เหมาะสำหรับรถรุ่นเก่า หรือการเดินทางไกลมาก ๆ และหาจังหวะเข้าปั๊มน้ำมันไม่ได้ แม้จะช่วยเซฟน้ำมันที่เหลืออยู่ได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็ช่วยได้จริง ๆ


AC in Car

สุดท้ายนี้ เพื่อการใช้แอร์รถยนต์ได้เต็มประสิทธิภาพ เย็นสบายต่อเนื่อง ใช้งานได้ยาวนานไม่ต้องซ่อมบ่อย และให้อากาศที่บริสุทธิ์สดชื่น ควรปิดแอร์ทุกครั้งหลังจอดรถและดับเครื่อง, หมั่นตรวจเช็คแอร์ทุก ๆ 3 เดือน หรือ 5,000 กิโลเมตรเพื่อดูสิ่งผิดปกติอยู่เสมอ, เช็คไส้กรองแอร์ทุก ๆ 10,000 กิโลเมตร และควรเปลี่ยนหากฝุ่นจับหนาเกิน, หมั่นทำความสะอาดช่องแอร์

รวมถึงนำรถไปตรวจสภาพแอร์รถยนต์ประจำปี เพื่อรับบริการล้างตู้แอร์ ซ่อมแซมคอมเพรสเซอร์-คอยล์เย็น-ชิ้นส่วนต่าง ๆ และเติมน้ำยาแอร์ให้พร้อมใช้งานอย่างต่อเนื่อง เดินทางได้เพลินใจ เย็นสบายทุกฤดู