Toyota Motor สหรัฐอเมริกา และ Toyota Gazoo Racing (TGR) ประกาศเปิดตัว Toyota GR Corolla สปอร์ตแฮทช์แบ็ครุ่นใหม่ล่าสุดที่ได้รับการอัปเกรดทั้งรูปลักษณ์และสมรรถนะขั้นสุด โดยได้เปิดตัวรอบปฐมทัศน์ที่ลองบีช แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ก่อนงานเปิดฤดูกาลแรกของรายการแข่งขัน Formula Drift
รูปลักษณ์ใหม่ สปอร์ตเข้มทุกมุมมอง
ตัวรถได้รับการเสริมชุดแต่งใหม่จาก Gazoo Racing เพื่อเสริมภาพลักษณ์ให้สปอร์ตขึ้น และควบคุมการไหลของอากาศให้เหมาะสมกับหลักอากาศพลศาสตร์ทั้งเพิ่มการยึดเกาะถนน ลดการต้านลม และช่วยระบายความร้อนเครื่องยนต์และระบบเบรก
อาทิ ออกแบบกระจังหน้าใหม่, กันชนหน้าพร้อมตะแกรงดักอากาศ, ซุ้มล้อใหม่ ช่องระบายอากาศที่ซุ้มล้อ, สเกิร์ตข้าง พร้อมปั๊มนูนต่ำ GR-Four สะท้อนถึงออพชั่นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อในรุ่นนี้, สปอยเลอร์ท้ายใหม่, กันชนท้ายพร้อมแผงดิฟฟิวเซอร์
รวมถึงท่อไอเสียสแตนเลสแบบ 3 ปลายท่อที่ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษ เพื่อช่วยลดแรงดันไอเสียและเสียงรบกวนจากภายนอก
มิติตัวถัง Toyota GR Corolla ประกอบด้วยความยาว x กว้าง x สูง ที่ 4,410 x 1,850 x 1,455 มม. ระยะฐานล้อ 2,640 มม. ระยะห่างระหว่างล้อหน้า – หลัง ที่ 1,590 – 1,620 มม. ส่วนความจุถังน้ำมันอยู่ที่ 50 ลิตร
สำหรับน้ำหนักรถแม้จะมีน้ำหนักมากถึง 1,474 กก. แต่ตัวรถได้รับการควบคุมน้ำหนักด้วยการใช้ชิ้นส่วนน้ำหนักเบาทดแทน อาทิ ฝากระโปรงหน้าและบานประตูหน้าอะลูมิเนียม, เสริมความแข็งแกร่งให้กับแพลตฟอร์ม TNGA-C ด้วยการเพิ่มจุดเชื่อม รวมถึงใช้กาวยึดโครงสร้างแบบพิเศษเพิ่มความแข็งแรงให้กับรอยต่อชิ้นส่วนประกอบ
เมื่อเข้าสู่ภายใน จะพบกับเรือนไมล์จอดิจิทัลขนาด 1.23 นิ้ว มาพร้อมจอแสดงข้มูลความเร็วรอบ, แรงดันเทอร์โบ, ตำแหน่งเกียร์ปัจจุบัน และโหมดขับเคลื่อนสี่ล้อที่เลือกไว้, จออินโฟเทนเมนต์ขนาด 8 นิ้ว พร้อมระบบ Toyota Audio Multimedia, ระบบนำทางบนคลาวด์ และผู้ช่วยอัจฉริยะที่สามารถสั่งการผ่านเสียงได้
เบาะนั่งหุ้มผ้า, ตกแต่งภายในด้วยโทนสีดำ พร้อมตะเข็บด้ายสีเทา, โลโก้ GR กระจายตามจุดต่าง ๆ, พวงมาลัยสปอร์ตหุ้มหนัง, แป้นเหยียบอะลูมิเนียม, ลำโพง 6 ตำแหน่ง
ด้านระบบความปลอดภัยจะได้รับ Toyota Safety Sense 3.0 ควบคู่กับสมัครแพ็คเกจ Toyota Safety Connect ฟรีหนึ่งปี ซึ่งจะแจ้งเตือนการชนอัตโนมัติ บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน และบริการระบุตำแหน่งรถที่ถูกขโมย
ขุมพลังใหม่เล็กพริกขี้หนู
ด้านขุมพลังน่าสนใจไม่แพ้กัน โดย Toyota GR Corolla ได้ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ เทอร์โบ รหัส G16E-GTS ที่พัฒนาขึ้นมาเป็นพิเศษด้วยความกว้างกระบอกสูบ และระยะช่วงชักที่ 87.5 x 89.7 มม. อัตราส่วนกำลังอัดที่ 10.5
สามารถมอบสมรรถนะสูงสุด 304 แรงม้า (PS) ที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 370 นิวตันเมตร ที่ 3,000-5,550 รอบ/นาที หรือให้กำลังเกือบสองเท่าจากรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร 168 แรงม้า ที่วางจำหน่ายในปัจจุบัน
ด้านระบบส่งกำลังได้ใช้เกียร์ธรรมดา iMT 6 สปีด และระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออิเล็กทรอนิกส์ GR-Four ที่สามารถแบ่งกำลังสู่ล้อหน้า และล้อหลังได้ตั้งแต่ 60:40, 50:50 และ 30:70 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่ในระหว่างเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง
อัปเกรดช่วงล่างแบบรถสปอร์ตโดยเฉพาะ
Toyota GR Corolla มาพร้อมระบบกันสะเทือนที่ปรับปรุงใหม่เป็นพิเศษ เริ่มจากระบบกันสะเทือนหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัทที่เสริมสปริง โช้คอัพ และเหล็กกันโคลงสมรรถนะสูงเพื่อการเกาะถนนที่ดีขึ้น, ระบบกันสะเทือนหลังแบบดับเบิลวิชโบนที่ช่วยสนับสนุนความคล่องตัวและความสเถียรสูงสุดให้กับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ รวมถึงติดตั้งเฟืองท้ายลิมิเต็ดสลิปด้านหน้าและด้านหลังด้วย
ส่วนระบบหยุดรถ จะได้รับดิสก์เบรกล้อหน้า 18 นิ้ว พร้อมคาลิเปอร์เบรก 4 สูบ ดิสก์เบรกหลังขนาด 16 นิ้ว กับคาลิเปอร์เบรก 2 สูบ และที่ขาดไม่ได้ ล้ออัลลอยดำเงาขนาด 18 นิ้ว หุ้มยาง Michelin Pilot Sport 4 ขนาด 235/40R18
Toyota GR Corolla “Circuit Edition”
ต้อนรับการเปิดตัว Toyota GR Corolla ด้วยรุ่น Circuit Edition ที่ได้รับการเสริมบุคลิกแบบรถแข่งเต็มตัว อาทิ ฝากระโปรงหน้าพร้อมช่องระบายอากาศ, หลังคาคาร์บอนไฟเบอร์แบบหลอม, ปีกสปอยเลอร์ท้ายขนาดใหญ่, แผงดิฟฟิวเซอร์ท้ายขนาดใหญ่, คาลิเปอร์เบรกสีแดง
ภายในจะได้รับเบาะนั่งแบบสปอร์ตหุ้มหนังกลับ Brin Naub และหนังสังเคราะห์พร้อมตาข่ายสีแดง และเย็บตะเข็บสีแดง, ปุ่มเปลี่ยนเกียร์ที่มีลายเซ็นของ “Morizo” ซึ่งเป็นชื่อแทนของประธาน Toyota Akio Toyoda ในฐานะนักแข่งรถ
รวมถึงได้รับออพชั่นเพิ่มเติมหลายรายการ อาทิ เบาะนั่งคู่หน้าแบบปรับอุณหภูมิ, พวงมาลัยแบบปรับความร้อนได้, ชุดเสียงระดับพรีเมียม JBL แปดลำโพง, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ และแท่นชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย
Toyota GR Corolla จะเปิดเผยราคาเพิ่มเติมในเร็ว ๆ นี้ ส่วนที่ญี่ปุ่นจะเริ่มจำหน่ายในช่วงครึ่งปีหลังนี้เป็นต้นไป
ลงข่าวเรียบร้อยแล้วครับ global.toyota