ford Ford Everest Ford Ranger Ford Ranger Raptor ฟอร์ด ฟอร์ด เรนเจอร์ ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ รถใหม่ เปิดตัวรถใหม่

Ford ยกทัพ Next-Gen Ranger / Everest / Ranger Raptor สเปคไทยอย่างเป็นทางการ

ฟอร์ดเผยโฉมเรนเจอร์ เอเวอเรสต์ และเรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจนเนอเรชันใหม่ ครั้งแรก พร้อมแนะนำนวัตกรรมการดูแลลูกค้าแบบ ‘พร้อมเสมอ’ ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43

Home / AUTO / Ford ยกทัพ Next-Gen Ranger / Everest / Ranger Raptor สเปคไทยอย่างเป็นทางการ

ฟอร์ด ประเทศไทย นำทัพรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุด ได้แก่ ฟอร์ด เรนเจอร์ / ฟอร์ด เอเวอเรสต์ และฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจนเนอเรชันใหม่ เผยโฉมให้ลูกค้าชาวไทยได้สัมผัสตัวจริงเป็นครั้งแรก ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 พร้อมเปิดรับจองรถได้ง่า ยๆ ผ่านช่องทางออนไลน์บนเว็บไซต์ฟอร์ด ควบคู่กับการรับจองภายในงานมอเตอร์โชว์ และที่ผู้จำหน่ายฟอร์ดทั่วประเทศ

นอกจากการเผยโฉมรถฟอร์ด เจนเนอเรชันใหม่แล้ว ฟอร์ดยังตอกย้ำความมุ่งมั่นในการยกระดับประสบการณ์ลูกค้าด้วยบริการแบบ ‘พร้อมเสมอ’ หรือ ‘Always-On’ โดยนำเสนอผ่านนวัตกรรมบริการในรูปแบบดิจิทัล เช่น แอปพลิเคชันฟอร์ดพาส และนวัตกรรมด้านบริการอื่น ๆ อีกมากมาย เพื่อยกระดับประสบการณ์ในการเป็นเจ้าของรถยนต์ฟอร์ดไปอีกขั้น 

Next-Gen Ford Ranger

Ford Ranger

รถกระบะที่ชาญฉลาดที่สุด อเนกประสงค์ที่สุด และสมบุกสมบันที่สุดในตระกูลฟอร์ด เรนเจอร์ ได้รับการพัฒนาให้เป็นรถคู่ใจของลูกค้าที่สามารถไว้วางใจได้ในทุกเส้นทางของชีวิต เป็นรถที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ขบขี่ออกไปใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่แบบไม่มีขีดจำกัด ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การใช้ชีวิตกับครอบครัว หรือการเดินทางท่องเที่ยวพักผ่อน

ทีมวิศวกรและนักออกแบบฟอร์ดให้ความสำคัญสูงสุดกับลูกค้า และได้นำข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าจากทั่วโลกมาสร้างสรรค์องค์ประกอบอันยอดเยี่ยมสำหรับรถกระบะที่แม้แต่ลูกค้าเองก็อาจยังนึกไม่ถึง ฟอร์ด เรนเจอร์ เจนเนอเรชันใหม่ อัดแน่นด้วยฟีเจอร์และเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่จะช่วยให้ลูกค้าใช้ชีวิตแบบ ‘Live the Ranger Life’ ได้อย่างเต็มที่ที่สุด

ด้วยรูปลักษณ์ที่แข็งแกร่งและปราดเปรียว Ford Ranger ใหม่ ก้าวข้ามขีดจำกัดของการออกแบบภายนอกแบบเดิม ๆ ด้วยกระจังหน้าโฉมใหม่อันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ และไฟหน้าใหม่รูปตัว C เสริมภาพความดุดัน สะท้อนนิยาม ‘เกิดมาแกร่ง’ อย่างชัดเจน และเป็นครั้งแรกที่ฟอร์ดมาพร้อมไฟหน้าแบบเมทริกซ์ แอลอีดี และบันไดเหยียบข้างกระบะท้ายบริเวณด้านหลังล้อหลัง ทำให้การขึ้นกระบะท้ายสะดวกสบายยิ่งกว่าเคย

Ford Ranger

สำหรับลูกค้าในประเทศไทย ฟอร์ด เรนเจอร์ เจนเนอเรชันใหม่ มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ 2 ตัวเลือก ได้แก่ เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบคู่ 2.0 ลิตร หรือเทอร์โบเดี่ยว 2.0 ลิตร ทำงานคู่กับเกียร์ธรรมดาหรือเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และตัวเลือกเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ด้วยโครงสร้างและกันชนอันแข็งแกร่ง บนฐานล้อที่มีความยาว และความกว้างเพิ่มขึ้นอีก 50 มิลลิเมตร ที่พร้อมพาคุณไปได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในชีวิตประจำวัน หรือตะลุยเส้นทางสุดสมบุกสมบัน

Ford Ranger

ภายในห้องโดยสารของ Ford Ranger ใหม่ ได้รับการปรับโฉมใหม่ให้สะดวกสบายไปอีกขั้น อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย และฟังก์ชันการใช้งานที่ดียิ่งขึ้น ตกแต่งด้วยวัสดุที่หรูหรา และพื้นที่จัดเก็บสัมภาระมากกว่าเดิม แผงหน้าปัดใหม่ช่วยให้ภายในห้องโดยสารดูกว้างขวาง หรูหรา

ชาญฉาดยิ่งขึ้นด้วยระบบเชื่อมต่อการสื่อสารที่ช่วยให้คุณควบคุมและใช้งานอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้สะดวกกว่าเดิมผ่านหน้าจอสัมผัสแนวตั้งขนาด 10.1 หรือ 12 นิ้ว ที่เชื่อมกับกล้อง 360 องศา รวมถึงระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC 4A® ซึ่งเป็นระบบความบันเทิงรุ่นล่าสุดของฟอร์ด และแผงหน้าปัดดิจิทัลใหม่ที่ยกระดับประสบการณ์การขับขี่ด้วยการแสดงผลข้อมูลเกี่ยวกับรถอย่างเต็มรูปแบบตามความต้องการของผู้ใช้งาน

Ford Ranger

ฟอร์ด เรนเจอร์ เจนเนอเรชันใหม่ ตอบโจทย์ทุกความต้องการใช้งานของลูกค้าได้อย่างเหนือชั้น ด้วยความกว้างที่เพิ่มขึ้นทำให้มีพื้นที่ระหว่างซุ้มล้อมากขึ้น กระบะท้ายจึงบรรทุกสัมภาระได้มากกว่าเคย พร้อมการออกแบบที่ช่วยให้ผู้ขับขี่จัดเก็บสิ่งของให้เป็นระเบียบได้หลากหลายรูปแบบและหลายขนาด และยังมีช่องจ่ายไฟในกระบะท้ายที่มาพร้อมช่องต่อไฟแบบ AC รองรับกำลังไฟถึง 400 วัตต์ ให้คุณใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าอย่าง หม้อหุงข้าว หรือเตาอบขนาดเล็กได้ง่าย ๆ เพียงเสียบปลั๊กกับตัวรถ

นับเป็นครั้งแรกที่ Ford Ranger มีโหมดการขับขี่ให้เลือกถึง 6 โหมด ได้แก่ โหมดปกติ โหมดประหยัด โหมดลากจูง[1] และบรรทุก โหมดถนนลื่น โหมดโคลน และโหมดทราย ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ก่อนหน้านี้มีเฉพาะในเรนเจอร์ แร็พเตอร์

นี่เป็นตัวอย่างบางส่วนของความพิเศษที่ทำให้เรนเจอร์เป็นรถที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ขับขี่ทำในสิ่งที่ตนรักได้มากกว่าเดิม ด้วยฟีเจอร์ที่เชิญชวนให้ผู้ขับขี่ออกไปสร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ ๆ

Ford Ranger

ฟอร์ดได้นำฟอร์ด เรนเจอร์ เจนเนอเรชันใหม่ รุ่นไวลด์แทรค และรุ่นสปอร์ต มาจัดแสดงในงานมอเตอร์โชว์และเปิดให้ลูกค้าจองผ่านช่องทางออนไลน์บนเว็บไซต์ฟอร์ด

ฟอร์ด เรนเจอร์ เจนเนอเรชันใหม่ รุ่นไวลด์แทรค มาพร้อมตัวเลือกภายนอก 6 สี ได้แก่ สีเงิน อลูมิเนียม เมทัลลิก, สีเทา เมทิออร์ เกรย์, สีดำ แอบโซลูท แบล็ก, สีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล, สีเหลือง ลักซ์ เยลโลว์ และสีส้ม เซโดนา ออเรนจ์ ในราคาเริ่มต้นที่ 999,000 บาท

สำหรับฟอร์ด เรนเจอร์ เจนเนอเรชันใหม่ รุ่นสปอร์ต มาพร้อมตัวเลือกสีภายนอก 5 สี ได้แก่ สีเงิน อลูมิเนียม เมทัลลิก, สีเทา เมทิออร์ เกรย์, สีดำ แอบโซลูท แบล็ก, สีขาว อาร์กติก ไวท์ และสีส้ม เซโดนา ออเรนจ์ ในราคาเริ่มต้นที่ 929,000 บาท

Next-Gen Ford Everest

Ford Everest

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจนเนอเรชันใหม่ เป็นรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ที่ผสานสมรรถนะเพื่อการผจญภัยเข้ากับความสะดวกสบายอันเหนือระดับ มาพร้อมเทคโนโลยีเพื่อผู้ขับขี่มากมาย ทำให้รถคันนี้ครบครันทั้งความพร้อมลุย หรูหรา และขับสนุกในทุกการเดินทาง

ภายนอกของฟอร์ด เอเวอเรสต์ มาพร้อมการออกแบบที่สมบุกสมบัน โดยที่ยังคงความเรียบหรู ระยะฐานล้อที่กว้างขึ้น 50 มิลลิเมตร และระยะระหว่างล้อหน้าและหลังที่เพิ่มขึ้น สร้างรูปลักษณ์ที่ดูล้ำสมัยและบึกบึนกว่าเดิม และยังมอบการควบคุมบนทางเรียบได้ดียิ่งขึ้น ขณะที่การปรับแต่งโช้คอัพใหม่ช่วยเพิ่มความสนุกเร้าใจในการขับขี่และช่วยให้การควบคุมรถทั้งบนทางเรียบและออฟโรดทำได้ง่ายกว่าที่เคย

ด้านระบบส่งกำลังและแรงบิด ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจนเนอเรชันใหม่ มาพร้อมตัวเลือกเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบเดี่ยว หรือเทอร์โบคู่ ทำงานร่วมกันกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด หรือเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีดอันทรงประสิทธิภาพ

Ford Everest

ภายในห้องโดยสารของฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจนเนอเรชันใหม่ ให้ความรู้สึกกว้างขวาง แผงหน้าปัดดิจิทัลและคอนโซลกลางวางเต็มความกว้างของพื้นที่ พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมายอาทิ แท่นชาร์จแบบไร้สาย และระบบเบรกมือไฟฟ้า เบาะนั่งแถวที่ 2 และ 3 ออกแบบมาให้พับได้ราบสนิทเพื่อการบรรทุกสัมภาระขนาดยาวได้อย่างปลอดภัย

เทคโนโลยีใหม่ยังทำให้ลูกค้าเชื่อมต่อการสื่อสารได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส ผ่านหน้าจอระบบสัมผัสแนวตั้งความละเอียดสูงขนาดใหญ่ 10.1 หรือ 12 นิ้ว พร้อมแผงหน้าปัดดิจิทัล 8 หรือ 12.4 นิ้ว ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่ ยังมาพร้อมระบบเชื่อมต่อการสื่อสาร SYNC 4A® เวอร์ชันล่าสุดของฟอร์ด รวมถึงการติดตั้งโมเด็มมาจากโรงงาน ทำให้ลูกค้าเชื่อมต่อกับรถได้ง่าย ๆ ผ่านแอปพลิเคชันฟอร์ดพาส™

Ford Everest

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจนเนอเรชันใหม่ มาพร้อมเทคโนโลยีช่วยขับขี่อัจฉริยะใหม่ ๆ มากมาย เพื่อมอบความปลอดภัยให้แก่ผู้ขับขี่และครอบครัว อาทิ

ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ (Active Park Assist) 2.0 ช่วยให้เข้าจอดแบบอัตโนมัติได้ทั้งการจอดขนานและถอยเข้าช่องจอด ทำให้ผู้ขับขี่จอดรถในพื้นที่แคบได้อย่างปลอดภัยเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส

ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติใหม่จนกระทั่งรถหยุดนิ่ง (Adaptive Cruise Control with stop and go) เสริมความมั่นใจให้ผู้ขับขี่ได้มากขึ้น

ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางผสานระบบตรวจจับขอบถนน ระบบช่วยหักพวงมาลัยเพื่อเลี่ยงการปะทะ และระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง

Ford Everest

ฟอร์ดจัดแสดงและเปิดให้ลูกค้าจอง Ford Everest ใหม่ 2 รุ่น ได้แก่ รุ่นไทเทเนียม+ และรุ่นสปอร์ต

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจนเนอเรชันใหม่ รุ่นไทเทเนียมพลัส มาพร้อมตัวเลือกสีภายนอก 6 สี ได้แก่ สีเงิน อลูมิเนียม เมทัลลิก, สีเทา เมทิออร์ เกรย์, สีดำ แอบโซลูท แบล็ก, สีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล, สีน้ำตาล เอควิน็อกซ์ บรอนซ์ และสีส้ม เซโดนา ออเรนจ์ ในราคา 1,854,000 บาท มาพร้อมห้องโดยสารภายในโทนเข้มสีดำเป็นมาตรฐาน และโทนอ่อนสีครีมพราลีนเป็นตัวเลือกเสริม

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจนเนอเรชันใหม่ รุ่นสปอร์ต มาพร้อมตัวเลือกสีภายนอก 7 สี ได้แก่ สีเงิน อลูมิเนียม เมทัลลิก, สีเทา เมทิออร์ เกรย์, สีดำ แอบโซลูท แบล็ก, สีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล, สีน้ำตาล เอควิน็อกซ์ บรอนซ์, สีส้ม เซโดนา ออเรนจ์ และสีน้ำเงิน บลู ไลท์นิ่ง ในราคา 1,464,000 บาท

Next-Gen Ford Ranger Raptor

Ford Ranger Raptor

ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ รุ่นที่สองได้รับการออกแบบและพัฒนาโดยทีมฟอร์ด เพอร์ฟอร์แมนซ์ ให้เป็นที่สุดแห่งรถกระบะที่มาพร้อมเทคโนโลยีที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น เพื่อควบคุมการทำงานของตัวถังที่แข็งแกร่งและเหนือชั้นยิ่งขึ้น ยกระดับสมรรถนะด้านออฟโรดให้เหนือมาตรฐานสำหรับผู้หลงใหลการขับขี่ออฟโรดตัวจริง

Ford Ranger Raptor

Next-Gen Ford Ranger Raptor อัดแน่นด้วยฟีเจอร์ใหม่เพื่อพิชิตทุกเส้นทางออฟโรดสุดหฤโหด ด้วยขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบคู่ 3.0 ลิตร EcoBoost V6 เป็นครั้งแรก มอบพละกำลังถึง 397 PS ที่ 5,650 รอบต่อนาทีและแรงบิด 583 นิวตันเมตร ที่ 3,500 รอบต่อนาที ปรับแต่งโดยทีมฟอร์ด เพอร์ฟอร์แมนซ์ เพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ทั้งบนทางเรียบและเส้นทางออฟโรด ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ที่ปรับจูนตามมาตรฐานของฟอร์ด เพอร์ฟอร์แมนซ์ เครื่องยนต์ใหม่นี้จึงส่งกำลังการขับขี่ได้อย่างเต็มพิกัดทั้งบนทางกรวด ดิน โคลน และทราย

ระบบไอเสียแบบแปรผันควบคุมไฟฟ้าครั้งแรกในรถกระบะ ช่วยให้ผู้ขับขี่ตั้งค่าเสียงของฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ได้ด้วยระดับความดัง 4 โหมด ได้แก่ โหมดเงียบ โหมดปกติ โหมดสปอร์ต และโหมดบาฮา

Ford Ranger Raptor

เพื่อให้การขับขี่กลางทะเลทรายเป็นไปได้อย่างเต็มสมรถนะ ระบบป้องกันการรอรอบ (Anti-Lag System – ALS) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโหมดบาฮา จะรักษาการหมุนของเทอร์โบชาร์จเจอร์ที่ความเร็วสูงต่อไปอีกถึง 3 วินาที หลังจากผู้ขับขี่ปล่อยคันเร่ง รถจึงคืนความเร็วได้ทันใจขณะเร่งออกจากทางโค้ง หรือระหว่างการเปลี่ยนเกียร์

ทีมฟอร์ด เพอร์ฟอร์แมนซ์ ยังร่วมมือกับ FOX™ ในการผสานการใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในงานด้านวิศวกรรม และการทดสอบรถในสถานการณ์จริง เพื่อปรับแต่งการทำงานของสปริงไปจนถึงการกำหนดความสูง การปรับแต่งวาล์ว และการออกแบบระดับการยืด-ยุบของโช้ค เพื่อสร้างความสมดุลที่สมบูรณ์แบบที่สุด ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจนเนอเรชันใหม่ มาพร้อมระบบช่วงล่างที่ปรับแต่งใหม่ด้วยโช้คอัพ FOX แบบไลฟ์ วาล์ว Internal Bypass ขนาด 2.5 นิ้ว ซึ่งล้ำสมัยที่สุดเท่าที่เคยใช้ในฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ด้วยความสามารถในการปรับการทํางานได้แบบเรียลไทม โดยใช้เซ็นเซอร์รอบคัน ทําให้โช้คปรับค่าความหน่วงจากจุดปะทะต่างๆ ได้มากถึง 500 ครั้งต่อวินาที

Ford Ranger Raptor ใหม่ มาพร้อม 7 โหมดการขับขี่ ประกอบด้วย โหมดปกติ โหมดสปอร์ต และโหมดถนนลื่นสำหรับทางเรียบ และโหมดการขับขี่ออฟโรดอย่างโหมดหิน โหมดทราย โหมดโคลน และโหมดบาฮา

Ford Ranger Raptor

ห้องโดยสารโฉมใหม่ได้รับการออกแบบมาเพื่อคอออฟโรดตัวจริง การตกแต่งรายละเอียดด้วยสีส้ม ‘โค้ด ออเรนจ์’ ตามแบบฉบับของฟอร์ด เพอร์ฟอร์แมนซ์ บนแผงหน้าปัด การตัดขอบชิ้นส่วนหลัก ๆ ในห้องโดยสาร รวมถึงบนเบาะที่นั่งแบบสปอร์ต ซึ่งจะดูโดดเด่นยิ่งขึ้นเมื่อเปิดไฟส่องสว่างสีอำพันอบอุ่นภายในห้องโดยสาร เบาะนั่งทั้งด้านหน้าและหลังได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด โดยได้รับแรงบันดาลใจจากเครื่องบินรบ F-22 Raptor มอบความกระชับและสบายในการเดินทางไม่ว่าจะบนทางเรียบหรือเส้นทางออฟโรด

ห้องโดยสารของ Ford Ranger Raptor ใหม่ ทำงานด้วยระบบดิจิทัลทั้งหมด ด้วยแผงหน้าปัดความละเอียดสูงขนาด 12.4 นิ้ว และหน้าจอแบบสัมผัสตรงกลางขนาด 12 นิ้ว แสดงผลการเชื่อมต่อและระบบความบันเทิงผ่านระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC 4A® อีกทั้งยังมีฟีเจอร์อีกมากมาย อาทิ ช่องต่อพ่วงอุปกรณ์ออฟโรด (Upfitter Switch) และหน้าจอแสดงผลสำหรับการขับขี่แบบออฟโรด

Ford Ranger Raptor

ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจนเนอเรชันใหม่ มาพร้อมตัวเลือกสีภายนอก 4 สีสุดเร้าใจ ได้แก่ สีดำ แอบโซลูท แบล็ก, สีขาว อาร์กติก ไวท์, สีส้ม โค้ด ออเรนจ์ และสีเทา คองเคอร์ เกรย์ ในราคาเริ่มต้นที่ 1,869,000 บาท

Ford Ranger ใหม่ จะผลิตที่โรงงาน ออโต้ อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย (เอเอที) และโรงงานฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอร์ริ่ง (เอฟทีเอ็ม) ในจังหวัดระยอง ส่วน Ford Ranger Raptor จะผลิตที่เอฟทีเอ็ม และ Ford Everest จะผลิตที่เอเอที

โดยเมื่อไม่นานมานี้ ฟอร์ดได้ลงทุนเพิ่มถึง 2.8 หมื่นล้านบาท หรือ 900 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งนับเป็นมูลค่าลงทุนในประเทศไทยครั้งใหญ่ที่สุดของฟอร์ด เพื่อรองรับและยกระดับการผลิตให้ล้ำสมัย พร้อมทั้งขับเคลื่อนกลยุทธ์ฟอร์ด พลัส เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับบริษัท


ยกระดับประสบการณ์ลูกค้าแบบพร้อมเสมอ หรือ ‘Always-On’ ด้วยบริการแบบเฉพาะบุคคล

Ford ยกระดับประสบการณ์การเป็นเจ้าของรถฟอร์ด ด้วยการมอบบริการแบบ ‘พร้อมเสมอ’ หรือ ‘Always-On’ พร้อมทั้งตอกย้ำความมุ่งมั่นที่จะดูแลลูกค้าเสมือนคนในครอบครัว ด้วยนวัตกรรมบริการใหม่ ๆ ที่แตกต่าง ผ่านแอปพลิเคชันฟอร์ดพาสบนสมาร์ทโฟนที่ช่วยให้ลูกค้าเชื่อมต่อสื่อสารกับรถฟอร์ดของตนเองได้ตลอดเวลา

ฟังก์ชันและบริการหลัก ๆ ได้แก่ การแจ้งเตือนเมื่อถึงกำหนดเช็คระยะโดยอัตโนมัติ โดยใช้ระบบเชื่อมต่อข้อมูลรถอัจฉริยะที่ติดตามการใช้งานรถ ทำให้ลูกค้าไม่ลืมกำหนดเข้ารับบริการต่าง ๆ นอกจากนี้ แอปพลิเคชันฟอร์ดพาสยังมอบความสะดวกสบายให้เจ้าของรถสตาร์ทรถจากระยะไกล เพื่อให้แน่ใจว่าอุณหภูมิภายในรถจะเย็นสบายเมื่อขึ้นรถ

ทั้งนี้ นวัตกรรมด้านบริการต่าง ๆ ที่จะมาพร้อมกับรถยนต์ฟอร์ด เจนเนอเรชันใหม่ ประกอบด้วย

ผู้เชี่ยวชาญผลิตภัณฑ์ฟอร์ด พร้อมให้คำแนะนำ คำปรึกษา และให้ข้อมูลเกี่ยวกับสเปกรถยนต์ เทคโนโลยี และฟังก์ชั่นการใช้งาน รวมถึงการแนะนำรุ่นรถที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในแบบของคุณในวัน-เวลาที่คุณสะดวก โปรแกรม ‘รอบรู้รถยนต์ฟอร์ด’ ให้ความรู้ลูกค้าแบบเฉพาะบุคคล เพื่อช่วยให้ลูกค้ารู้จักและคุ้นเคยกับอุปกรณ์เทคโนโลยีต่าง ๆ ของรถผ่านหลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชัน ฟอร์ดพาส เว็บไซต์ฟอร์ด รวมถึงจัดการเรียนรู้และขับขี่ภาคสนาม เพื่อให้ลูกค้าใช้งานรถฟอร์ดได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุด บริการนัดหมายผ่านช่องทางออนไลน์ การบริการรับรถเข้าศูนย์บริการและส่งคืนถึงบ้าน รวมถึงบริการให้ยืมรถใช้ในระหว่างที่รถของลูกค้าอยู่ในศูนย์บริการ ล้วนเป็นนวัตกรรมด้านบริการใหม่ ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่เจ้าของรถฟอร์ด

ทีมงานลูกค้าสัมพันธ์ฟอร์ด พร้อมให้บริการ 24 ชั่วโมงเพื่อให้คำปรึกษาอย่างทันท่วงทีเมื่อลูกค้าต้องการความช่วยเหลือจากฟอร์ดทุกเมื่อ


เป็นเจ้าของ Next-Gen Ford ก่อนใคร

Ford Everest

ลูกค้าสามารถจองรถฟอร์ด เจนเนอเรชันใหม่ผ่านช่องทางออนไลน์บนเว็บไซต์ www.ford.co.th นอกจากนี้ ฟอร์ดยังได้ยกระดับประสบการณ์การซื้อรถผ่านช่องทางออน์ไลน์ โดยการใช้เทคโนโลยีอิมเมอร์ซีฟ เอดจ์ ที่มอบประสบการณ์การชมรถเสมือนจริงผ่าน 3D และ AR เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจซื้อรถผ่านอุปกรณ์มือถือได้ง่าย โดยเทคโนโลยีนี้เป็นความร่วมมือระหว่างฟอร์ดและกูเกิ้ล

ฟอร์ดเข้าใจว่าลูกค้าชาวไทยชื่นชอบในการแต่งรถให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยลูกค้ารถยนต์ฟอร์ด เจนเนอเรชั่นใหม่ สามารถเลือกแพคเกจและอุปกรณ์เสริมเพื่อเพิ่มเทคโนโลยีช่วยในการขับขี่ และอุปกรณ์เสริมที่ได้รับการรับประกันจากโรงงาน เพื่อปรับแต่งรถฟอร์ดคันใหม่ให้ตรงใจตามสไตล์และตอบโจทย์การใช้งาน ผ่านการจองทั้งบนช่องทางออนไลน์หรือที่ผู้จำหน่ายฟอร์ดทั่วประเทศ

ฟอร์ดยังพร้อมเปิดรับจองรถฟอร์ด เจนเนอเรชันใหม่เฉพาะรุ่น ในงานมอเตอร์โชว์ และที่ผู้จำหน่ายฟอร์ดทั่วประเทศ

รถยนต์ฟอร์ด เจนเนอเรชันใหม่ ทุกรุ่นมาพร้อมการรับประกันคุณภาพรถใหม่จากโรงงานนาน 5 ปี หรือ 150,000 กม. และฟรีประกันภัยชั้นหนึ่งในปีแรก


หมายเหตุ:

  • แอปพลิเคชันฟอร์ดพาส จะมีการเปิดให้ดาวน์โหลดได้ทาง App store และ Play store ในระยะถัดไป
  • ระบบช่วยหักพวงมาลัยเพื่อเลี่ยงการปะทะไม่ได้เป็นการควบคุมการบังคับพวงมาลัย
  • ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ 2.0 มีเฉพาะในรถรุ่นที่ติดตั้งเกียร์อัตโนมัติแบบ Electronic Shifter เท่านั้น