บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว NEW MG HS และ NEW MG HS PHEV ภายใต้แนวคิด REFINEMENT โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย พร้อมรูปโฉมใหม่ที่ผสานความหรูหราทันสมัยและความสปอร์ตอย่างลงตัว ติดตั้งระบบความปลอดภัยขั้นสูง 26 ระบบ และฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกสบายที่ครบครัน โดยมีให้เลือกทั้งแบบเครื่องเบนซินเทอร์โบ และปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid)
REFINED EXTERIOR: รูปลักษณ์ใหม่ สปอร์ต ล้ำสมัย
NEW MG HS ทุกรุ่น มาพร้อมกับการปรับดีไซน์ภายนอกใหม่ด้วยดีไซน์เฉพาะตัว ผสานความล้ำสมัยไปกับความหรูหรา ภายใต้แนวคิด BRIT DYNAMIC เริ่มจากกระจังหน้าใหม่ดีไซน์ Digital Burning Grille, กันชนหน้า กันชนท้ายดีไซน์ใหม่ พร้อมท่อไอเสียคู่, ไฟหน้า Quard LED Projector, ไฟตัดหมอก LED, ไฟท้าย Full LED
สปอยเลอร์หลังพร้อมราวหลังคา, ฝากระโปรงท้ายระบบไฟฟ้า มีฟังก์ชั่นปรับระดับสูง-ต่ำ พร้อมสั่งการผ่านทางรีโมทคอนโทรล, ล้ออัลลอย Bi-Color ขนาด 18 นิ้ว
สำหรับมิติตัวถัง ประกอบด้วยความยาว x กว้าง x สูง ที่ 4,574 x 1,876 x 1,664 มม. กับระยะฐานล้อ 2,720 มม.
REFINED INTERIOR & UTILITY: ภายในที่ครบครันทั้งความสะดวกสบาย ล้ำสมัย
NEW MG HS มาพร้อมภายในที่ปรับปรุงใหม่ ร่วมกับการใช้วัสดุบุนุ่มแบบ Soft Touch ให้ความรู้สึกหรูหราและพรีเมี่ยมในทุกรายละเอียดพร้อมฟังก์ชั่นที่ให้ทั้งความสะดวกสบายและคุณค่าระหว่างการขับขี่ที่ครบครัน
ด้วยเบาะหนังคู่หน้าแบบ Sport Bucket Seat ใช้วัสดุ Alcantara, เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง และเบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น พร้อมระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift)
บริเวณแผงคอนโซลหน้าจะได้รับทั้งหน้าจอแสดงผลอัจฉริยะ Full Virtual Dashboard ขนาด 12 นิ้ว, หน้าจอกลาง แบบ Multi-Function Touchscreen ขนาด 10 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อมัลติมิเดีย Apple CarPlay และสมาร์ทโฟนระบบ Andriod
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แบบ Dual Zone พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ควบคู่กับเสริมระบบกรองอากาศ PM 2.5
กระจกมองหลังตัดแสงแบบอัตโนมัติ, หลังคา Panoramic Sunroof ขนาดใหญ่, Interactive Ambient Light ในห้องโดยสาร ปรับได้ 64 เฉดสี, ระบบเสียง Surround เหนือระดับด้วย BOSE 8.1 Sound System, ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Key) พร้อมปุ่ม Push Start, NVH Luxury Silence Space และแผ่นซับเสียงภายในห้องโดยสาร
พร้อมสีภายในที่มีให้เลือกทั้งสี 2-Tone Monaco Blue และสีดำ (เฉพาะตัวถังภายนอกสีดำ (Black Knight) สีเทา (Metal Ash Grey) และสีแดง (Scarlet Red))
REFINED PERFORMANCE & EFFICIENCY: สองขุมพลัง แรงล้ำ และประหยัด
เริ่มจาก NEW MG HS PHEV ขับเคลื่อนด้วยระบบ Plug-in Hybrid ผสานกำลังระหว่างเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร และมอเตอร์ไฟฟ้า ให้พละกำลังสูงสุด 284 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร
ขับขี่อย่างต่อเนื่องได้ด้วยระบบเกียร์แบบ EDU II – 10 Speeds ทำอัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายในเวลา 7.5 วินาที และสามารถขับขี่ด้วยไฟฟ้า 100% ได้ถึง 67 กิโลเมตร
รายละเอียดขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด
- เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร 162 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตร
- มอเตอร์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงแบบ Hairpin Winding Technology ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า แรงบิด 230 นิวตันเมตร
- ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว (Liquid Coolant System)
- แบตเตอรี่ Lithium-Ion แบบ 6 โมดูล ขนาด 16.6 kWh
- แบตเตอรี่มาตรฐานความปลอดภัย AMERICAN UL2580 และมาตรฐาน IP67 ในการป้องกัน น้ำและฝุ่น
- รูปแบบการขับขี่ 5 รูปแบบ ได่แก่ โหมด EV โหมด Eco โหมด Normal โหมด Sport และโหมด Super Sport
- ระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) 3 ระดับ
- ระบบการบริหารพลังงานไฟฟ้าและสร้างกระแสไฟฟ้าจากเครื่องยนต์กลับสู่แบตเตอรี่ (Battery Management System)
และ NEW MG HS มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์ TST (Twin Clutch Sportronic Transmission) แบบ 7 สปีด ให้พละกำลังสูงสุดถึง 162 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 250 นิวตันเมตร ในรอบที่ต่ำเพียง 1,700 รอบ/นาที มีรูปแบบการขับขี่ 4 รูปแบบ ได่แก่ โหมด Normal โหมด Eco โหมด Sport และโหมด Super Sport
ด้านช่วงล่างทุกรุ่น ประกอบด้วย ระบบช่วงล่างหน้า MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง และระบบช่วงล่างหลังแบบ Multi-link พร้อมเหล็กกันโคลงทั้งหน้าและหลัง, ดิสก์เบรกหน้าพร้อมช่องระบายความร้อน และดิสก์เบรกหลัง
REFINED SAFETY: เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยรอบคัน
NEW MG HS และ NEW MG HS PHEV มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ครบครัน ทั้งระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย (Full Space Frame) ระบบช่วงล่างแบบ EURO TUNING SUSPENSION และมีระบบ ความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป Advanced Synchronized Protection System มากถึง 26 ระบบ โดยแบ่งออกเป็นระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันก่อนเกิดอุบัติเหตุที่ช่วยทั้งเรื่องระบบเบรก และช่วยรักษาเสถียรภาพในการขับขี่ จำนวน 14 ระบบ
และระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ Advanced Driver Assistance System (ADAS) หรือระบบช่วยควบคุมการขับขี่ และลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุทั้งด้านหน้าและด้านท้ายรถ ซึ่งเทียบเท่ากับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัตืระดับที่ 2 (Autonomous Level 2) รวมกันกว่า 12 ระบบ ได้แก่
- ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection)
- ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
- ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู DOW (Door Open Warning)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)
- ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถจะออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าในขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning)
- ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-Beam Control)
- ใหม่ล่าสุด! ระบบช่วยเบรกฉุกเฉืนอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Brake) ที่เพิ่มเติมเข้ามาในโฉมล่าสุดนี้
นอกจากนี้ ยังเสริมอุปกรณ์ความปลอดภัย อาทิ จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX, ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ (Speed Sensing Door Lock), เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และ ม่านถุงลมนิรภัย, กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ (3D Around View Monitor), พร้อมสัญญาณเตือนระยะถอยหลัง ระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer,ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง และระบบ ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์
REFINED TECHNOLOGY: สมาร์ทไปอีกขั้นด้วยฟีเจอร์ใหม่ล่าสุด
NEW MG HS ทุกรุ่น มาพร้อมระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i–SMART สุดล้ำ พร้อมเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด AR NAVIGATION ที่ประเดิมใช้งานในรุ่นนี้เป็นรุ่นแรกของรถยนต์ MG
Smart Check หรือ ระบบตรวจเช็กอัจฉริยะ ประกอบไปด้วย
- ระบบตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่และการชาร์จ รวมถึงการค้นหาสถานีชาร์จ
- ตรวจสอบสถานะของประตูรถ
- ตรวจสอบตำแหน่งของรถ พร้อมบอกเส้นทางไปยังรถยนต์ผ่านฟังก์ชั่น FIND MY CAR
- ตรวจสอบความผิดปกติ และแจ้งสถานะการทำงานของรถ เช่น เครื่องยนต์ ลมยาง และถุงลมนิรภัย
- ระบบแจ้งเตือนเมื่อความผิดปกติเกิดขึ้นกับระบบการทำงาน หรืออุปกรณ์ของรถ
- ระบบขอบเขตอิเล็คทรอนิกส์
- ระบบช่วยค้นหาศูนย์บริการ นัดหมาย และบันทึกการดูแลรักษารถยนต์ตามระยะ
Smart Command หรือ ระบบสั่งการอัจฉริยะ ประกอบไปด้วย
- กุญแจดิจิตอล
- ระบบสั่งการผ่านคำสั่งเสียงภาษาไทย
- ควบคุมการทำงานของระบบปรับอากาศผ่านทางสมาร์ทโฟน
- โทรออก – รับสายจากจอทัชสกรีน
- ระบบโทรอัตโนมัติกรณีฉุกเฉิน เมื่อถุงลมนิรภัยทำงาน(Emergency Call)
- ระบบ i-CALL ที่สามารถติดต่อ MG Call Centre เพื่อสอบถามข้อมูล หรือขอรับจุดน่าสนใจ (Point Of Interest) ด้วยปุ่มลัดบนพวงมาลัย
- ค้นหาข้อมูลจุดท่องเที่ยวน่าสนใจ และวางแผนการเดินทาง Travel Plan จากสมาร์ทโฟนส่งเข้าหน้าจอทัชสกรีนของรถได้
Smart Connect หรือ ระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ ประกอบไปด้วย
- ระบบนำทางอัจฉริยะ แสดงเส้นทางพร้อมภาพเสมือนจริงจากกล้องหน้ารถ (AR NAVIGATION) ครั้งแรกในรถยนต์เอ็มจี กับเทคโนโลยีที่มอบความสะดวกและความแม่นยำในการขับขี่บนทุกเส้นทาง
- ระบบนำทาง Navigation พร้อมรายงานการจราจรแบบ Real Time
- ระบบช่วยค้นหาร้านอาหาร และที่พักบนแผนที่นำทาง
- ระบบเล่นเพลงออนไลน์แบบสตรีมมิ่ง
- ระบบเรียกดูข้อมูลข่าวสาร เหตุการณ์ปัจจุบัน และอัพเดทข้อมูลพยากรณ์อากาศ
- อัปเกรดระบบต่าง ๆ ผ่านออนไลน์ (FOTA)
*อุปกรณ์ที่ติดตั้งจะแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น
NEW MG HS ทั้งรุ่นเครื่องยนต์สันดาป และรุ่น PHEV มีให้เลือกทั้งหมด 5 รุ่นย่อย แบ่งออกเป็น
รุ่นที่เป็นเครื่องยนต์สันดาปจำนวน 3 รุ่น ได้แก่
- รุ่น C ราคา 939,000 บาท
- รุ่น D ราคา 1,089,000 บาท
- รุ่น X ราคา 1,159,000 บาท
และรุ่นที่ขับเคลื่อนด้วยระบบปลั๊กอินไฮบริดจำนวน 2 รุ่น ได้แก่
- รุ่น PHEV D ราคา 1,299,000 บาท
- รุ่น PHEV X ราคา 1,379,000 บาท
พร้อมสีตัวถังทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีขาว (Arctic White) สีดำ (Black Knight) สีเทา (Metal Ash Grey) และสีแดง (Scarlet Red)
สำหรับผู้ที่จอง NEW MG HS และ NEW MG HS PHEV ตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม ถึงวันที่ 3 เมษายนนี้ จะได้รับข้อเสนอพิเศษ ดังนี้
NEW MG HS
- ดาวน์เริ่มต้นที่ 5% หรือดอกเบี้ยพิเศษ 0.90 % นาน 4 ปี
- ฟรีประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. ความคุ้มครอง 1 ปี
- ประกันคุณภาพรถยนต์นาน 5 ปี หรือ 150,000 กม.
NEW MG HS PHEV
- ดาวน์เริ่มต้นที่ 5% หรือดอกเบี้ยพิเศษ 0.90 % นาน 4 ปี
- ฟรีประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. ความคุ้มครอง 1 ปี
- ประกันคุณภาพรถยนต์นาน 5 ปี หรือ 150,000 กม.
- ฟรี MG Home Charger พร้อมค่าติดตั้ง
- แบตเตอรี่แรงดันสูงรับประกันนาน 8 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
พบกับ NEW MG HS และ NEW MG HS PHEV อย่างใกล้ชิด และจับจองเป็นเจ้าของพร้อมกันได้ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 ระหว่างวันที่ 23 มีนาคม – 3 เมษายนนี้ หรือ ที่โชว์รูมเอ็มจีกว่า 150 แห่งทั่วประเทศ