Royal Enfield ยุโรป ประกาศวางจำหน่ายรถรุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 120 ปีของแบรนด์ ด้วย Interceptor 650 และ Continental GT650 ที่ได้รับการรังสรรค์ความงดงามเหนือระดับ สะท้อนถึงความสำเร็จของแบรนด์ และการครองใจแฟน ๆ มาอย่างยาวนาน โดยจะจัดจำหน่ายในวันจันทร์ที่ 7 มีนาคมนี้เป็นต้นไป เฉพาะในยุโรป และสหราชอาณาจักรเท่านั้น
ซึ่งโควต้ารถรุ่นพิเศษนี้ จะจำหน่ายแบบ Flash Sale…มาก่อนได้ก่อน โดยจะผลิตจำนวนจำกัดเพียง 120 คัน แบ่งเป็น รุ่นละ 60 คันสำหรับจำหน่ายในยุโรป
โดยรถรุ่นนี้ได้รับการเผยโฉมครั้งแรกในงาน EICMA 2021 เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งสอดคล้องเดือนเดียวกันกับที่ Royal Enfield เปิดตัวรถจักรยานยนต์คันแรกในรอบ 120 ปีที่ผ่านมา ตลอดระยะเวลาแห่งความอดทน ปรับตัว เผชิญความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ และมอบความสนุกสนานในการเดินทางที่มากยิ่งขึ้น ส่งผลให้แบรนด์นี้สามารถครองใจผู้ใช้รถในทั่วทุกมุมโลก ทุกไลฟ์สไตล์ ทุกชั่วอายุคน
ความพิเศษของรุ่นนี้ จะมาพร้อมกับถังน้ำมันสี Black Chrome ซึ่งเป็นสีที่ได้รับการพัฒนาและผลินเป็นครั้งแรกในโรงงานที่เจนไน ประเทศอินเดีย เมื่อปี 1950 สะท้อนถึงความคลาสสิก หรูหรา และยังมาพร้อมกับกรรมวิธีการชุบด้วยไตรวาเลนต์โครเมียมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและยั่งยืน และสวยงามทนทานเหนือกาลเวลา ลงตัวไปกับชิ้นส่วนเครื่องยนต์ ท่อไอเสียพร้อมท่อเก็บเสียงที่สมบูรณ์แบบ และเฟรมสีดำ
รวมถึงได้รับการ์ดใต้ท้องรถ, กระจกมองข้างสีดำ, เบาะหนังสีน้ำตาล, ปลอกแฮนด์หุ้มหนังสีน้ำตาล และชุดแต่งที่คัดสรรเป็นพิเศษอีกมากมาย
ไฮไลท์พิเศษของรถรุ่นนี้อยู่ที่ตราทองเหลืองที่ติดอยู่ด้านข้างถังน้ำมัน ที่ได้รับการร่วมมือจากครอบครัวช่างฝีมือเครื่องทองเหลือง Sirpi Senthil ในเมือง Kumbakonam รัฐทมิฬนาฑู ประเทศอินเดีย ที่ขึ้นชื่อในด้านผลิตเครื่องทองเหลือง และประติมากรรมรูปเคารพบูชามายาวนานหลายชั่วอายุคน เปี่ยมไปด้วยความประณีต สวยงาม เหนือกาลเวลา
บนถังน้ำมันได้รับการลงสีทองด้วยมืออย่างประณีตงดงาม และการ์ดข้างตัวถังมาพร้อมดีคอลรุ่นฉลองครบรอบ 120 ปี ของแบรนด์ และเลขลำดับการผลิตที่มอบความเอ็กซ์คลูซีฟในตัว
สำหรับราคาจำหน่ายของรุ่นพิเศษนี้ประกอบด้วย Interceptor 650 รุ่นพิเศษราคา 8,150 ปอนด์ และ Continental GT 650 รุ่นพิเศษราคา 8,350 ปอนด์ หรือราว ๆ 3.52 และ 3.60 แสนบาทตามลำดับ
ทั้งนี้ รถรุ่นฉลองครบรอบ 120 ปีนี้จะผลิตเพียง 480 คัน โดยจะแบ่งออกเป็นภูมิภาคละ 120 คัน อาทิ อินเดีย ยุโรป อเมริกา และเอเชีย
เครดิตข้อมูลจาก royalenfield.com และ motorcyclenews.com