ไบร์ทลิ่ง (Breitling) และ ไทรอัมพ์ (Triumph) ประกาศการร่วมมือครั้งสำคัญที่เต็มไปด้วยความน่าตื่นเต้นด้วยการนำรถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์ระดับชั้นนำ รุ่นสปีด ทวิน (Speed Twin) และ นาฬิกาไบร์ทลิ่งรุ่นท็อป ไทม์ (Top Time) อันโดดเด่น มาสร้างสรรค์เป็นรถจักรยานยนต์และนาฬิการุ่นลิมิเต็ด อิดิชัน สำหรับปี 2022 ซึ่งทั้งสองผลิตภัณฑ์จะได้รับการออกแบบให้เต็มไปด้วยความพรีเมียมและเอกลักษณ์ที่สวยงามเฉพาะตัว
โดยทั้งสองแบรนด์นับเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกทั้งในด้านความแม่นยำ คุณภาพ และสไตล์ ตลอดจนทั้งสองแบรนด์ต่างก็เป็นผู้สร้างนวัตกรรมอันโดดเด่นในแบบฉบับของตนเอง โดยไบร์ทลิ่ง (Breitling) เป็นแบรนด์ที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนานาฬิกาโครโนกราฟสมัยใหม่ ซึ่งผสมผสานกันได้อย่างลงตัวกับไทรอัมพ์ (Triumph) แบรนด์ที่มีความมุ่งมั่นในการสร้างวิวัฒนาการของรถจักรยานยนต์อย่างไม่หยุดนิ่ง
ด้วยมรดกอันเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่มีใครเทียบได้ และความมุ่งมั่นในความเป็นเลิศด้านวิศวกรรม สมรรถนะและความงามของทั้งสองแบรนด์ การร่วมมือครั้งใหม่นี้จึงเผยให้เห็นถึงจุดมุ่งหมายร่วมกันของไบร์ทลิ่ง (Breitling) และ ไทรอัมพ์ (Triumph) ในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มุ่งเน้นความสมบูรณ์แบบของการเคลื่อนไหว เพื่อให้สอดรับกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
โดย Triumph Breitling Edition รุ่นพิเศษนี้เกิดขึ้นจากปรัชญาที่มีร่วมกันของทั้งสองแบรนด์ ในการนำคุณลักษณะอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งสไตล์ดั้งเดิม และพรสวรรค์ในการสร้างงานฝีมือที่ประณีต มาบรรจบกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ
TRIUMPH SPEED TWIN BREITLING LIMITED EDITION
เริ่มจากตัวรถรุ่นพิเศษที่ใช้พื้นฐานจากรุ่น 2021 Speed Twin ที่ได้รับการตกแต่งโทนสีฟ้าโพลีโครมาติกบลู (Polychromatic Blue) เป็นสีที่ผสมขึ้นแบบคัสตอม และมีการลงสีด้วยมือ มีสไตล์ และโดดเด่นของไบร์ทลิ่ง
เข้ากับสีดั้งเดิมของไทรอัมพ์รุ่นธันเดอร์เบิร์ด 6ที (Triumph Thunderbird 6T) ปี 1951 ประกอบกับ มาร์ลอน แบรนโด (Marlon Brando) ทำให้รถรุ่นนี้กลายเป็นตำนานที่เป็นอมตะจากภาพยนตร์นักขี่ชื่อดังเรื่อง ‘The Wild One’ ที่สร้างขึ้นในปี 1953
พร้อมมอบลุคที่พิเศษไม่เหมือนใคร ด้วยเส้นคาดตัวถัง (Coach Line) ที่วาดด้วยมือ พร้อมเก็บรายละเอียดด้วยมืออย่างประณีต โดยฝีมือของ Gary Devine หัวหน้าทีมสีของไทรอัมพ์ ทั้งในบริเวณแผงด้านข้างและโคมไฟหน้าจะใช้สีเจ็ทแบล็ก (Jet Black)
ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะตัวรถยังได้รับการเสริมชิ้นส่วนตกแต่งงระดับพรีเมียมอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งได้รับการออกแบบเฉพาะตัวเข้ากับนาฬิกาข้อมือรุ่นพิเศษอย่างลงตัว อาทิ หน้าเรือนไมล์แบบสั่งทำพิเศษที่ออกแบบมาจากดีไซน์ของนาฬิกา, เบาะหนังสีดำเจาะรูที่มีเอกลักษณ์ พร้อมเย็บตะเข็บ, รายละเอียดเครื่องยนต์ที่กลึงขึ้นรูปแบบ Billet และยังได้รับชุดกันสะเทือนหลังใช้โช้คคู่สเปคสูงของ Öhlins แบบปรับได้ พร้อมสปริงสีดำเงาอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของรุ่นสปีด ทวิน ไบร์ทลิ่ง
ด้านขุมพลังของรถรุ่นนี้ มาพร้อมเครื่องยนต์บอนเนวิลล์สองสูบ แบบ SOHC 8 วาล์ว ความจุ 1,200 ซีซี ระบายความร้อนด้วยของเหลว สมรรถนะสูงสุด 100 แรงม้า ที่ 7,250 รอบ/นาที 112 นิวตันเมตร ที่ 4,250 รอบ/นาที จับคู่เกียร์ 6 สปีด มาตรฐานไอเสียระดับ Euro 5
รวมถึงยังใส่เทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่อย่างจัดเต็ม อาทิ โหมดขับขี่ 3 โหมด ได้แก่ ได้แก่ ถนน (Road) ฝนตก (Rain) และสปอร์ต (Sport), ระบบการควบคุมการยึดเกาะถนนแบบเปิด–ปิดได้ (Traction Control), ระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง (TPMS) เป็นต้น
BREITLING TOP TIME TRIUMPH CHRONOGRAPHS
และที่ขาดไม่ได้สำหรับแคมเปญสุดเอ็กซ์คลูซีฟนี้ ด้วยการนำเสนอนาฬิกาไอคอนนิคแห่งยุคปี 1960 ด้วยนาฬิกาโครโนกราฟสไตล์สปอร์ต Breitling Top Time ซึ่งรุ่นพิเศษนี้จะได้รับการคัสตอมพิเศษที่เข้ากันกับ TRIUMPH SPEED TWIN BREITLING LIMITED EDITION อย่างลงตัว โดยจะผลิตออกมาสองเวอร์ชั่น ประกอบด้วย
ผู้ที่ซื้อ สปีด ทวิน ไบร์ทลิ่ง ลิมิเต็ด อิดิชัน จะมีหน้าปัดแบบ Sunrey ที่เปล่งประกาย พร้อมสลักหมายเลขรถจักรยานยนต์ของตนลงบนตัวเรือน
และรุ่น core-collection ที่จำหน่ายทั่วไปโดดเด่นด้วยหน้าปัดสีเหลือบดีไซน์แบบขัดเงาในแนวตั้งตัดกัน
ไฮไลท์ของนาฬิกาทั้งสองรุ่นคือสีไอซ์บลูที่เป็นเอกลักษณ์บนหน้าปัด ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจาก สีโพลีโครมา ติกบลูของไทรอัมพ์ ธันเดอร์เบิร์ด 6ที จากปี 1951 และหน้าปัดสีฟ้าที่หายากของ ไบร์ทลิ่ง ท็อป ไทม์ Ref.815 จากปี 1970
ฟีเจอร์ต่างๆที่ใส่มาในนาฬิการุ่นนี้ ได้แก่ สายหนังลูกวัวในสไตล์เรียบหรูที่ช่วยขับความเปล่งประกายของโลโก้ Breitling และโลโก้ Triumph ที่หน้าปัดในตำแหน่ง 12 และ 6 นาฬิกาตามลำดับ ปุ่มกดจับเวลาขนาดใหญ่ที่ช่วยในการควบคุม การจับเวลาได้ง่ายทั้งฟังก์ชันเริ่ม-หยุด และรีเซ็ต พร้อมด้วยสเกลวัด Tachymeter แบบคอนทราสต์สูงที่ช่วยทำให้การอ่านค่าความเร็วชัดเจนยิ่งขึ้น ตัวนาฬิกาขับเคลื่อนด้วยกลไกจาก Breitling Calibre 23 ซึ่งเป็นโครโนมิเตอร์ที่ได้รับการรับรองจาก COSC โดยมีพลังงานสำรองได้ประมาณ 48 ชั่วโมง
สำหรับฟีเจอร์อื่น ๆ ที่นักสะสมจะต้องหลงรัก คือฝาหลังของนาฬิกาที่ถูกสลักด้วยภาพสเกตช์รูปเครื่องยนต์สูบคู่ที่เป็นเอกลักษณ์ของไทรอัมพ์ โดยการวางตำแหน่งของภาพนี้เป็นการวางที่แสดงให้เห็นถึงการลงลึกในรายละเอียดในตัวรถจักรยานยนต์ ซึ่งผู้ที่เป็นเจ้าของและมีความใกล้ชิด หรือผู้ที่มีความรู้อย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับรถจักรยานยนต์รุ่นดั้งเดิมเท่านั้นที่จะได้เห็น
ผลิตเพียง 270 คันทั่วโลกเท่านั้น
TRIUMPH SPEED TWIN BREITLING LIMITED EDITION จะผลิตอย่างจำกัดเพียงแค่ 270 คันทั่วโลก ตามองศาข้อเหวี่ยง 270 องศาของ เครื่องยนต์สูบคู่ สปีด ทวิน ที่ได้รับการยกย่อง โดยแต่ละคันจะมีหมายเลขกำกับที่ปะกับแฮนด์และจะมาพร้อมกับใบรับรองที่มีลายเซ็นของ มร.นิค บลอร์ (Nick Bloor) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ และ มร.จอร์จส เคิร์น (Georges Kern) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของไบร์ทลิ่ง
นอกจากนี้ผู้เป็นเจ้าของ สปีด ทวิน ไบร์ทลิ่ง ลิมิเต็ด อิดิชัน ทุกคนจะได้รับโอกาสพิเศษในการซื้อนาฬิกาโครโนกราฟรุ่น ไบร์ทลิ่ง ท็อป ไทม์ ไทรอัมพ์ พร้อมหมายเลขกำกับที่สั่งทำพิเศษเพื่อให้ตรงกับหมายเลขลำดับของรถ (เมื่อได้รับความต้องการของลูกค้าภายในวันที่ 22 สิงหาคม 2022 จากเจ้าของคนแรก)
โดยแฟน ๆ ชาวไทย สามารถเป็นเจ้าของ TRIUMPH SPEED TWIN BREITLING LIMITED EDITION ได้ในราคา 749,000.00 บาท