Brabus สำนักแต่งรถยนต์ระดับไฮเอนด์จากเยอรมนี ได้ร่วมกับ KTM ในการนำเสนอมอเตอร์ไซค์คัสตอมระดับไฮเอนด์รุ่นแรกของแบรนด์ด้วย Brabus 1300 R ซูเปอร์เนคเก็ทที่ผสมผสานทั้งสมรรถนะการขับขี่จาก KTM และการออกแบบชิ้นส่วนตกแต่งคุณภาพสูงจาก Brabus โดยจะผลิตจำนวนจำกัดเพียง 154 คันเท่านั้น
Brabus 1300 Rได้รับการอัปเกรดบนพื้นฐานจากซูเปอร์เนคเก็ทระดับเรือธง KTM 1290 Super Duke R Evo โดยได้ปรับปรุงทั้งรูปลักษณ์ดุดัน ล้ำสมัย และการขับขี่ใหม่ที่โดดเด่นยิ่งขึ้นในทุก ๆ ด้าน ในสไตล์ของ Brabus ด้วยโทนสีเข้มที่สปอร์ตร้อนแรง แต่คงความสุขุมสไตล์สุภาพบุรุษ
ด้วยความโดดเด่นของบุคลิกภายนอกทึ่มาจากการปรับปรุงและออกแบบชิ้นส่วนใหม่ ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้า LED ทรงกลม พร้อมครอบโคมไฟหน้าคาร์บอนไฟเบอร์, สกู๊ปข้างคาร์บอนไฟเบอร์ขนาดใหญ่, ถังน้ำมัน 16 ลิตร, ชุดท่อไอเสียสีดำด้านดีไซน์พิเศษ, ล้อฟอร์จ Brabus Monoblock Z หุ้มยาง Bridgestone S22 BATTLAX hypersport
กระจกมองข้างตรงแฮนด์, เบาะตัดเย็บพิเศษ, เรือนไมล์ TFT จาก KTM แต่ปรับกราฟฟิกแสดงผลใหม่ในสไตล์ Brabus รวมถึงชิ้นส่วนตกแต่งคาร์บอนไฟเบอร์หลายรายการ เช่น บังโคลนล้อหน้า บังโคลนล้อหลัง อกไก่ ส่วนหางท้าย เป็นต้น
ด้านองค์ประกอบทางเทคนิคนั้นยังคงยกมาจาก 1290 Super Duke ทั้งชุดเฟรมรถน้ำหนักเบา ที่รับกับการติดตั้งเครื่องยนต์ V-twin ความจุ 1,301 ซัซี สมรรถนะสูงสุด 180 แรงม้า ที่ 9,500 รอบ/นาที แรงบิด 140 นิวตันเมตร ที่ 8,000 รอบ/นาที ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. เพียง 3.2 วินาที
ด้านช่วงล่าง จะได้รับโช้คอัพหน้าหัวกลับแบบ Semi-active และโมโนโช้คล้อหลังจาก WP APEX พร้อมวาล์วแบบอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถปรับระดับได้ตามโหมดขับขี่ และโหมดช่วงล่าง 6 โหมด ได้แก่ Comfort, Street, Sport, Track, Advanced รวมถึงโหมด Auto ที่จะสามารถปรับการยุบและคายตัวได้ตามกำลังเครื่องยนต์ และสภาพถนนแบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ได้รับชุดกันสะบัด WP APEX PRO 7117 ด้วย
ด้านระบบเบรก จะได้รับดิสก์เบรกหน้า 320 มม. หลัง 240 มม. พร้อมคาลิเปอร์เบรก 4 สูบล้อหน้าจาก Brembo Stylema และคาลิเปอร์เบรกหลัง 2 สูบจาก Brembo
และยังได้รับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะรอบคัน ไม่ว่าจะเป็นระบบเบรก ABS ที่รองรับการเข้าโค้ง และ Supermoto ABS จาก Bosch, Traction Control, ระบบป้องกันล้อหน้ายก, Quickshifter+ เป็นต้น ซึ่งระบบพวกนี้ได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อการตอบสนองที่ดีเยี่ยม และสามารถตั้งค่าได้ผ่านจอ TFT
และด้วยการออกแบบชิ้นส่วนตกแต่งใหม่ ส่งผลให้น้ำหนักรถเปล่ามีเพียง 194 กก. เท่านั้น แต่ถ้ารวมน้ำมันเชื้อเพลิงและของเหลวต่าง ๆ จะหนักเพียง 205 กก. เท่านั้น
สำหรับจำนวน 154 คัน แบ่งออกเป็นสีแดง Magma Red จำนวน 77 คัน และสีดำ Signature Black จำนวน 77 คัน ซึ่งตัวเลข 77 คันนั้นอิงจากปีก่อตั้งสำนักแต่ง Brabus ที่สร้างชื่อเสียงในการปรับแต่งรถ Mercedes-Benz ระดับไฮเอนด์เมื่อปี 1977 นั่นเอง
Brabus 1300 R จะเปิดจองในเยอรมนีในวันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้เป็นต้นไป (ตามเวลาท้องถิ่น)
เครดิตข้อมูลจาก brabus.com