คาร์โร (CARRO) ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการนำเทคโนโลยีมาสร้างประสบการณ์ซื้อ-ขายรถยนต์มือสอง เพื่อตอบสนองความสะดวกสบาย และรองรับไลฟ์สไตล์ทันสมัยของคนรุ่นใหม่ เปิดตัว คาร์โร ออโตมอลล์ (CARRO Automall) สาขาดอนเมือง แฟลกชิปแห่งแรก ที่ใช้เทคโนโลยีและนำเสนอบริการครบครัน ซึ่งช่วยยกระดับประสบการณ์ (Customer Experience) การซื้อ-ขายรถยนต์มือสองของผู้บริโภคในตลาดประเทศไทยได้อย่างไร้รอยต่อ
อรรณพ เกษตระทัต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คาร์โร (ประเทศไทย) กล่าวว่า สถานการณ์โควิดได้สร้างมิติใหม่ให้กับตลาดรถมือสองของโลก ส่งผลปัจจัยบวก ได้แก่ ความต้องการใช้รถยนต์ส่วนตัวแทนการใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะ นอกจากนี้ ด้วยบริการของคาร์โรที่ตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคในยุค New Normal ทำให้คาร์โร ประเทศไทย ได้รับผลตอบรับที่ดี และมีผลประกอบการเป็นที่น่าพอใจ ด้วยการเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก (Double Digit) ในช่วงกรกฎาคมถึงกันยายน พ.ศ. 2564 เทียบกับเดือนเมษายนถึงมิถุนายนในปีเดียวกัน โดยธุรกิจในส่วนรีเทลเติบโตขึ้นเป็นตัวเลข 2 หลัก ในช่วงเวลาเดียวกัน
เพื่อต่อยอดความสำเร็จสู่การเป็นผู้นำอันดับหนึ่งบนแพลตฟอร์มซื้อ-ขายรถยนต์มือสองออนไลน์ใประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คาร์โร จึงเร่งดำเนินการพัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ทั้งการพัฒนาเทคโนโลยีภายในแพลตฟอร์มให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงและตรวจสอบรถยนต์ที่ตรงความต้องการมากที่สุดด้วยตนเองที่บ้าน
การร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ อาทิ 724 มาร์เก็ต (724 Market) บริษัทนายหน้าประกันภัยออนไลน์ในเครือศรีกรุง โบรคเกอร์ เพื่อเสริมกำลังในการเข้าบริการตรวจสอบสภาพรถของผู้ที่ต้องการขายรถผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ของคาร์โรให้เข้าถึงจุดตรวจสภาพรถได้ง่ายขึ้น
ซึ่งรวมไปถึงการเปิดตัว คาร์โร ออโต้มอลล์ แฟลกชิปแห่งแรกที่ดอนเมือง ที่เรียกว่าเป็น ออโต้มอลล์แห่งแรกในประเทศไทย ที่มี “พื้นที่” มอบประสบการณ์การซื้อ-ขายรถยนต์มือสองที่ใหญ่ ครบครัน และไร้รอยต่อตลอด Customer Journey
โดย คาร์โร ออโต้มอลล์ สร้างสรรค์จากแนวคิดที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric) เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุด ในการซื้อ-ขายรถยนต์มือสองให้กับลูกค้า ด้วยการเชื่อมต่อ Ecosystem ของคาร์โร แบบไร้รอยต่อ (Seamless) อีกทั้งยังตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต้องการตรวจสอบรถยนต์จริงด้วยตัวเอง พร้อมให้บริการลูกค้าตั้งแต่ต้นจนจบ
ความโดดเด่นของแฟลกชิปแห่งแรกเน้นการสร้างพื้นที่ที่สามารถมอบประสบการณ์ในการซื้อ-ขายรถมือสองที่ตอบโจทย์ทุกลูกค้ามากที่สุด เริ่มตั้งแต่พื้นที่ต้อนรับที่เป็นมากกว่าพื้นที่ต้อนรับ ด้วยการพัฒนาและออกแบบให้สะท้อนถึงจุดเด่นของคาร์โร ในการใช้เทคโนโลยีแบบไร้รอยต่อด้วยเส้นสายพลังงาน (Energy Flow) และการเคลื่อนที่ของยนตกรรมด้วยความเร็ว เพิ่มเติมพื้นที่ให้บริการส่งมอบรถยนต์ให้กับลูกค้าที่สวยงาม
เสริมประสบการณ์การรับมอบรถยนต์ให้พิเศษมากขึ้น ไม่ใช่การส่งมอบรถยนต์แบบเดิม ๆ อีกต่อไป โดยลูกค้าสามารถถ่ายภาพกับรถยนต์คันใหม่ลงโซเชียลมีเดียได้ทันที ด้วยวัสดุผิวเมทัลลิคและวัสดุที่ช่วยเน้นความโดดเด่นของการออกแบบแสง ซึ่งได้นำมาใช้เป็นองค์ประกอบหลักในการออกแบบเช่นกัน
นอกจากนี้ ยังเน้นการออกแบบพื้นที่เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรกับลูกค้า คือพื้นที่ “Customer Service” ในบรรยากาศที่อบอุ่น ด้วยการเน้นไม้สีอ่อนเป็นหลัก และสะกดสายตาด้วย เฟอร์นิเจอร์สีส้มซึ่งเป็นอัตลักษณ์ของคารโร และยังจัดเตรียมพื้นที่ “Relax & Private” เป็นทางเลือกให้กับลูกค้าได้ผ่อนคลายในคาร์โร ออโต้มอลล์ แห่งนี้อีกด้วย
คาร์โร ยังนำเทคโนโลยีมาเสริมให้ประสบการณ์การซื้อ-ขายรถยนต์ของลูกค้าดียิ่งขึ้น ด้วย Digital Interaction ที่มอบประสบการณ์การดูรถยนต์แบบเสมือนจริง ซึ่งสามารถเข้าถึงระบบ CARRO Market Place เพื่อชมรถยนต์ทุกคันในระบบของคาร์โรได้ทันที พร้อมด้วยเทคโนโลยีที่ทำให้ลูกค้าได้ชมรถยนต์มือสองได้คมชัดที่สุดจากเทคโนโลยี “360 Turntable & Sound Engine” เป็นการถ่ายภาพรถยนต์แบบ 360 องศา ทั้งด้านนอก ด้านใน พร้อมเสียงเครื่องยนต์
รวมถึงยังมีเทคโนโลยีสนับสนุนฝ่ายขาย ทั้ง Digital Device ที่เชื่อมต่อกับ Digital Screen เพื่อนำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ รวมถึงยังจัดการเรื่องเอกสารให้กับลูกค้าได้ตั้งแต่ต้นจนจบ และ Online Viewing Service ที่ลูกค้าสามารถใช้วิดีโอคอลเพื่อตรวจสอบสภาพรถยนต์มือสองที่สนใจได้แบบเรียลไทม์ ส่วนลูกค้าที่ต้องการขายรถ ก็สามารถรับบริการตั้งแต่ต้นจนจบในที่บ้าน แค่โทรหา คาร์โร
เพื่อให้ลูกค้าของคาร์โร มั่นใจว่าจะพร้อมรับรถยนต์มือสองในสภาพที่ยอดเยี่ยม ได้รับบริการรวดเร็วและแม่นยำที่สุด คาร์โร ยังใช้เทคโนโลยี AI Inspection เพื่อช่วยในการมองหาร่องรอยต่าง ๆ เป็นการช่วยที่มากกว่าการใช้แค่คนตรวจ และ บริการตรวจสภาพรถยนต์ด้วยแอปพลิเคชันตรวจสภาพรถยนต์ หรือ Inspection Application ที่สามารถตรวจสอบผ่านระบบดิจิทัลได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย ทันสมัย ครอบคลุมกว่า 200 จุด
นอกจากนี้ ลูกค้า ยังมั่นใจว่าจะได้รับรถยนต์ที่ตรงใจและมีคุณภาพที่ดีที่สุด ด้วยบริการต่าง ๆ ทั้งการปรับสภาพ (Car Reconditioning) ด้วยทีมช่างมืออาชีพที่ได้รับการผึกอบรมมาตรฐานคาร์โรที่มีมากกว่า 40 คน พร้อมรับบริการลุกค้าได้อย่างรวดเร็ว กว่า 20 คันต่อวัน
มอบความสบายใจและมั่นใจให้ลูกค้าด้วยบริการคัดคุณภาพรถ (Inspection grading) ใบรายงานการตรวจสภาพรถยนต์ (Inspection report) รวมถึงการรับประกัน 1 ปี หรือสูงสุด 30,000 กม. (CARRO Quality Assurance) นอกจากนี้ ยังมีรับประกัน CARRO ASSURE และ CARRO ASSURE+ ที่ผ่านการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ให้ลูกค้ามั่นใจในทุกการขับขี่ และได้การรับประกันที่ดีที่สุด
สำหรับช่วงเปิดตัวแฟลกชิปแห่งแรกของคาร์โร ซึ่งใกล้ช่วงปลายปีพอดี จึงขอมอบโปรโมชั่นส่วนลดพิเศษ รับส่วนลดสูงสุด 50,000 บาท พร้อมแจก CASH BACK มูลค่ารวมกว่า 800,000 บาท และยังสามารถเลือกรับความคุ้มค่าได้อีกต่อ กับดอกเบี้ยต่ำ 2.69% หรือผ่อน 0% นานสูงสุด 6 เดือน ที่ทำให้มั่นใจว่าการซื้อรถยนต์มือสองกับคาร์โรง่ายและสะดวก
อรรณพ เสริมว่า “ในการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า นอกจากคาร์โร ออโตมอลล์แล้ว เรายังมี CARRO Customer Experience Center บนพื้นที่ค้าปลีกยอดนิยมต่าง ๆ เพื่อให้ความสะดวกกับลูกค้าตามแผนการขยายธุรกิจรีเทล โดยได้เปิดให้บริการที่ Lotus’s สาขาบางกะปิเป็นแห่งแรกอีกด้วย”
ล่าสุดในเดือนที่ผ่านมา คาร์โรได้รับเงินลงทุนเพิ่มจากการระดมทุนมากถึง 105 ล้านดอลล่าร์สหรัฐจากกลุ่มบริษัทฯ นักลงทุนชั้นนำ อาทิ กลุ่มเทมาเส็ก เป็นต้น