หลังจากที่ Subaru ประเทศญี่ปุ่น ได้เปิดตัว 2022 Subaru Forester รุ่นปรับโฉมใหม่อย่างเป็นทางการ ล่าสุด ก็ได้เดินทางสู่ตลาดอเมริกาอย่างเป็นทางการ ควบคู่กับการเพิ่มรุ่นพิเศษต้อนรับการปรับโฉมใหม่ที่เอาใจสายออฟโรดเอ็กซ์สตรีมด้วยรุ่น Wilderness Edition
Subaru Forester รุ่นปรับโฉมใหม่ จะมาพร้อมกับการปรับดีไซน์กระจังหน้า ไฟหน้า ขอบไฟตัดหมอก และแผงเรือนไมล์แบบใหม่ ซึ่งจะได้รับรายละเอียดที่แตกต่างตามรุ่นย่อย ได้แก่ Base, Premium, Sport, Limited, Touring และ Wilderness Edition
สำหรับรายละเอียดออพชั่นแต่ละรุ่น เริ่มจาก Base มาพร้อมจออินโฟเทนเมนต์ขนาด 6.5 นิ้ว ที่รองรับการเชื่อมต่อกับ Apple CarPlay และ Android Auto, อัปเกรดเทคโนโลยี EyeSight ให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น ตรวจจับในมุมมองที่กว้างยิ่งขึ้น, เพิ่มพอร์ท USB 2 ช่อง ที่บริเวณคอนโซลหน้า, ไฟส่องภายใน LED เป็นต้น ทั้งนี้ลูกค้าสามารถเลือกเพิ่มแพ็คเกจล้ออัลลอย 17 นิ้ว และราวหลังคาพร้อมที่ยึดอุปกรณ์
สำหรับรุ่น Premium จะได้รับระบบอุ่นเบาะนั่ง พร้อมเบาะปรับไฟฟ้า, กระจกมองข้างพร้อมระบบไล่ฝ้า, กระจกหน้ารถพร้อมระบบละลายหิมะ, ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว, หลังคามูนรูฟ, ราวหลังคาพร้อมที่ยึด เป็นต้น ทั้งนี้ลูกค้าสามารถเลือกเพิ่มแพ็คเกจเสริม ด้วยระบบชะลอลงทางลาดชันแบบ X-Mode, ระบบตรวจจับจุดบอด และระบบแจ้งเตือนจุดบอดด้านหลังรถ
สำหรับรุ่น Sport จะได้รับระบบความปลอดภัยขั้นสูงครบครัน, จออินโฟเทนเมนต์ขนาด 8 นิ้ว, มออบบคุลิกโดดเด่นด้วยชิ้นส่วนตกแต่งภายนอกเฉพาะรุ่นนี้เท่านั้น, ประตูท้ายไฟฟ้า, ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติที่ด้านหลัง
สำหรับรุ่น Limited จะได้รับออพชั่นจากรุ่น Premium และ Sport แบบครบครัน (ยกเว้นชุดแต่งจาก Sport) โดยจะได้รับล้ออัลลอย 18 นิ้ว, จออินโฟเทนเมนต์ขนาด 8 นิ้ว พร้อมระบบนำทางจาก TomTom, ระบบพับเบาะหลังแบบ One-Touch, แผงเรือนไมล์แบบใหม่, ระบบสั่งการผ่านเสียง, ลำโพง Harman Kardon และพวงมาลัยอุ่น
และรุ่นท็อปสุด Touring จะได้รับระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ DriverFocus พร้อมระบบสั่งการผ่านการออกท่าทาง, กระจังหน้าสีดำ, ชิ้นส่วนตกแต่งสีดำเงาที่เสา B และเสา C, ราวหลังคาสีเงิน, เบาะหนังปรับไฟฟ้า, ไฟส่อง LED ที่ห้องสัมภาระท้าย และห้องโดยสาร
สำหรับรุ่นพิเศษต้อนรับการเปิดตัวอย่าง Wilderness Edition จะมาพร้อมกับการยกระดับบุคลิก และประสิทธิภาพการขับขี่แบบออฟโรดที่ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการปรับความสูงใต้ท้องรถเพิ่มขึ้นจากเดิมอีก 12.7 มม. เป็น 233.6 มม. ด้วยการอัปเกรดคอยล์สปริงและโช้คอัพที่ยาวขึ้น
ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว สีดำด้านพร้อมลายพิเศษ หุ้มยาง Yokohama GEOLANDAR all-terrain และมีชุดล้อและยางอะไหล่ที่เก็บไว้ภายในรถ
ประกอบกับได้รับแผ่นรองธรณีประตูลายพิเศษ, ไฟตัดหมอก LED ทรงหกเหลี่ยม, สติ๊กเกอร์ป้องกันแสงสะท้อนที่ฝากระโปรงหน้า, แร็คหลังคาที่รับน้ำหนักได้ 100 กก. (เมื่อรถวิ่ง) และ 363 กก. (เมื่อรถจอดสนิท) รองรับได้ทั้งวางจักรยาน ชุดตั้งแคมป์ ของปิกนิค, ตราสัญลักษณ์พิเศษ, ภายในได้รับเบาะหุ้มด้วย StarTex กันน้ำได้ และชิ้นส่วนตกแต่งภายในแบบพิเศษ
Subaru Forester รุ่นปรับโฉมทุกรุ่นขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบนอน ฺBoxer 2.5 ลิตร ให้สมรรถนะสูงสุด 184 แรงม้า (PS) แรงบิด 238 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์ CVT และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Symmetrical all-wheel drive
ขณะที่ Subaru Forester Wilderness Edition มาพร้อมกับการปรับอัตราส่วนกำลังอัดของเครื่องยนต์จากปกติ 3.70:1 เป็น 4.11:1 และปรับอัตราทดเกียร์ CVT ใหม่ เพื่อเพิ่มแรงบิดให้สูงขึ้นในรอบต่ำ
Subaru Forester รุ่นปรับโฉมทุกรุ่น มีราคาจำหน่ายตั้งแต่ 26,320 ถึง 36,420 ดอลลาร์ หรือราว ๆ 8.54 แสนบาท ถึง 1,182 ล้านบาท
ส่วน Subaru Forester Wilderness Edition มีราคาเริ่มต้นที่ 32,820 ดอลลาร์ หรือราว ๆ 1.065 ล้านบาท และลูกค้าสามารถจ่ายเพิ่มอีก 1,850 ดอลลาร์ หรือราว ๆ 6 หมื่นบาท เพื่อเพิ่มจออินโฟเทนเมนต์ 8.0 นิ้ว พร้อมระบบนำทางผ่านดาวเทียม, ชุดเครื่องเสียงจาก Harman Kardon และประตูท้ายไฟฟ้า
ทั้งนี้ 2022 Subaru Forester รุ่นปรับโฉมใหม่ และรุ่น Wilderness Edition จะเริ่มวางจำหน่ายในเดือนตุลาคมนี้
เครดิตข้อมูลจาก carscoops.com