เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส ประกาศความสำเร็จในช่วงครึ่งปี 2564 โดยการสร้างสถิติใหม่ให้กับยอดขายทั่วโลกในช่วงครึ่งปีแรกของบริษัทฯ ด้วยผลกำไรจากการดำเนินงานกว่า 178 ล้านยูโร ผลงานครึ่งปีในครั้งนี้จึงถือเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่าผลงานในหนึ่งปีเต็มที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในประวัติศาสตร์ 102 ปีของเบนท์ลีย์ มอเตอร์ส
ผลงานครึ่งปีที่โดดเด่นของเบนท์ลีย์ มอเตอร์ส ส่วนหนึ่งมาจากผลประกอบการที่น่าประทับใจของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งมียอดขายรวมทั้งสิ้น 778 คัน ซึ่งถือเป็นการเติบโตของยอดขายเมื่อเทียบปีต่อปีที่โตขึ้นกว่า 41%
สำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีการเติบโตสูงสุดถึง 73% เมื่อเทียบปีต่อปี โดยมียอดขายกว่า 145 คัน ขณะที่ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ยังคงทำยอดขายต่อเนื่องถึง 142 คัน ในขณะที่ญี่ปุ่นมียอดขายกว่า 283 คัน และเกาหลีใต้ 203 คัน ซึ่งนับว่าเป็นยอดขายสูงสุด และถือเป็นตัวชี้วัดศักยภาพของตลาดทั้งหมดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ฟลายอิ้ง สเปอร์ อัครยนตรกรรมสปอร์ตซีดานยังคงได้รับการตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเป็นอัครยนตรกรรมที่ผสมผสานระหว่างสมรรถนะและความประณีต โดยมีผู้ครอบครองแล้วกว่า 253 รายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกนับตั้งแต่ต้นปี ซึ่งถือเป็นแนวโน้มการเติบโตที่สูงถึง 360% เมื่อเทียบปีต่อปี ล่าสุดการนำเครื่องยนต์ V8 มาใช้กับฟลายอิ้งสเปอร์ได้ทำให้อัครยนตรกรรมสปอร์ตซีดานรุ่นนี้ได้รับความนิยมสำหรับผู้ครอบครองที่ต้องการความคล่องตัวและเครื่องยนต์ที่มีลักษณะเฉพาะมากขึ้น
ขณะเดียวกัน เดอะ คอนติเนนทัล จีที และ เบนเทก้า ยังคงเป็นโมเดลที่ได้รับความนิยม โดยมียอดขายรวมกว่า 270 คัน และ 251 คัน และอัตราการเติบโต 10% และ 6% ตามลำดับ ซึ่งได้รับแรงหนุนจากความต้องการของตลาดเบนเทก้า วี8 และคอนติเนนทัล จีที วี8
นิโค คัห์ลแมน ผู้อำนวยการส่วนภูมิภาค เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “ผลประกอบการที่โดดเด่นของตลาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพของเครือข่ายผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายที่แข็งแกร่งของเราทั่วภูมิภาคและโมเดลรถรุ่นยอดนิยมที่หลากหลาย ซึ่งในขณะที่เราเฉลิมฉลองความสำเร็จของผลประกอบการครึ่งปี เรายังคงต้องคอยจับตามองแนวโน้มของทั้งปี สืบเนื่องจากความเสี่ยงของการแพร่ระบาดใหญ่ของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ซึ่งกำลังทวีความรุนแรงขึ้นในบางส่วนของโลกเช่นเดียวกับในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก สิ่งนี้เองจึงทำให้เราเล็งเห็นถึงความสำคัญในการเชื่อมต่อกับลูกค้าอย่างใกล้ชิด และความพร้อมในการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์โลกที่เป็นพลวัตเช่นนี้”
“อย่างไรก็ตาม จุดแข็งทางด้านการเงินของเราทำให้เรามองไปข้างหน้าได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น และเรากำลังดำเนินการตามกลยุทธ์ ‘Beyond100’ ซึ่งมุ่งหมายที่จะทำให้รถยนต์ทุกรุ่นเป็นรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบภายในหนึ่งทศวรรษและมุ่งสู่ผู้ผลิตอัครยนตรกรรมหรูระดับมาตรฐานของโลก” นิโค คัห์ลแมน กล่าวเสริม
ในอนาคตอันใกล้ อัครยนตรกรรมรุ่นใหม่อีกหลายรุ่นจะรอพร้อมเปิดตัวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เริ่มต้นด้วยการเปิดตัวของ คอนติเนนทัล จีที สปีด ที่กำลังจะมีขึ้นในปลายปีนี้ ซึ่งในฐานะที่เป็นอัครยนตรกรรมสปอร์ตที่ทรงสมรรถนะที่สุดในประวัติศาสตร์ของเบนท์ลีย์ คอนติเนนทัล จีที สปีด ตั้งเป้าที่จะยกระดับยอดขายของรถยนต์ในตระกูล คอนติเนนทัล จีที ไปสู่สถิติใหม่ภายในอีก 3 ปีข้างหน้า หลังจากการเปิดตัว
นอกจากนี้ เบนเทก้า เอส ใหม่เตรียมพร้อมจะเปิดตัวในภูมิภาคนี้เช่นกัน โดยเบนเทก้า เอส มอบทางเลือกให้กับลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่น่าประทับใจยิ่งขึ้นผ่านมาตรฐานของอัครยนตรกรรมอเนกประสงค์สุดหรูที่ไปได้ทุกที่ในแบบของเบนท์ลีย์
สำหรับการเดินทางสู่การเป็นผู้ผลิตอัครยนตรกรรมที่ใช้พลังงานไฟฟ้าของเบนท์ลีย์นั้น อัครยนตรกรรมรุ่น เบนเทก้า ไฮบริด ใหม่ และฟลายอิ้ง สเปอร์ ไฮบริด คาดว่าจะเตรียมเปิดตัวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกภายในปีหน้า
โดยทั้งสองรุ่นจะมอบระบบเครื่องยนต์ไฮบริดที่เน้นความมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้กับลูกค้า โดยยังคงส่งมอบที่สุดของความหรูหราและสมรรถนะอันโดดเด่นของ เบนท์ลีย์ไว้เช่นเคย