lamborghini Lamborghini Aventador Lamborghini Aventador LP780-4 Ultimae รถรุ่นพิเศษ ลัมโบร์กินี

Lamborghini Aventador Ultimae รุ่นส่งท้ายซูเปอร์คาร์ V12 เพียง 600 คันเท่านั้น

Lamborghini Aventador LP780-4 Ultimae คือชื่อของซูเปอร์คาร์ V12 รุ่นส่งท้ายของไลน์จัดเต็มทั้งสไตล์และสมรรถนะที่ผสมระหว่าง S และ SVJ

Home / AUTO / Lamborghini Aventador Ultimae รุ่นส่งท้ายซูเปอร์คาร์ V12 เพียง 600 คันเท่านั้น

Lamborghini เตรียมปิดม่านซูเปอร์คาร์ V12 ระดับเรือธงที่ได้ครองใจผู้ขับขี่ทั่วโลกมายาวนานกว่า 10 ปี ด้วย Aventador LP780-4 Ultimae กับการนำเสนอขั้นสุดของการดีไซน์ เทคโนโลยี และสมรรถนะที่สมบูรณ์แบบที่สุด โดยผลิตเพียง 600 คันเท่านั้น แบ่งเป็นรุ่นคูเป้ 350 คัน และโรดสเตอร์ 250 คัน

Lamborghini Aventador Ultimae

นับตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกของ Lamborghini Aventador เมื่อปี 2011 ที่ผ่านมา ว่าที่ซูเปอร์คาร์เครื่องยนต์ V12 วางกลางระดับเรือธง ที่ครองใจแฟน ๆ ทั้งในด้านสมรรถนะ เทคโนโลยีรอบด้าน รวมถึงการผลิตแบบจำนวนจำกัดในแต่ละรุ่น จนกลายเป็นซูเปอร์คาร์ที่ขายดีที่สุดของแบรนด์เลยทีเดียว

Lamborghini Aventador Ultimae

โดยคอนเซ็ปต์ของ Lamborghini Aventador LP780-4 Ultimae ในครั้งนี้คือการเป็นซูเปอร์คาร์รุ่นสุดท้ายในช่วงบั้นปลายชีวิตของผลิตภัณฑ์ ที่จะนำเอาทั้งสุดยอดงานดีไซน์ที่มีเฉพาะใน Aventador S ผสานกับสมรรถนะอันทรงพลังจาก SVJ ออกมาเป็นที่สุดของซูเปอร์คาร์ V12 ที่จะสร้างความประทับใจในการขับขี่สูงสุด

Lamborghini Aventador Ultimae

ขุมพลังของ Lamborghini Aventador LP780-4 Ultimae ใช้เครื่องยนต์เบนซิน v12 ความจุ 6.5 ลิตร ให้สมรรถนะสูงสุด 780 แรงม้า (PS) ที่ 8,700 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 720 นิวตันเมตร หรือสมรรถนะมากกว่ารุ่น S ถึง 10 แรงม้า (PS)

ประกอบกับได้มีการปรับลดชิ้นส่วนที่ไม่จำเป็นเพื่อลดน้ำหนักตัวถังลงอีก 25 กก. ส่งผลให้รถรุ่นนี้มีอัตราส่วนกำลังต่อแรงม้าที่ใกล้เคียงรุ่น SVJ เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นตัวถังคูเป้ หรือตัวถังเปิดประทุนก็ตาม

Lamborghini Aventador Ultimae

ระบบส่งกำลังจะเป็นเกียร์ออโต้แบบ Single-Clutch 7 สปีด ที่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้เร็วถึง 50 มิลลิวินาที และขับเคลื่อน 4 ล้อ มอบอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 2.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 355 กม./ชม. ขณะที่รุ่นโรดสเตอร์ หรือเปิดประทุนจะให้อัตราเร่งที่ช้ากว่าหนึ่งในสิบวินาที แต่ความเร็วสูงสุดเท่ากัน

ทั้งสองรุ่นติดตั้งระบบกันสะเทือนแบบแม่เหล็ก พวงมาลัยล้อหลัง และดิสก์เบรกคาร์บอนเซรามิกพร้อมคาลิเปอร์เบรกล้อหน้าแบบ 6 สูบ กับคาลิเปอร์เบรกล้อหลังแบบ 4 สูบ

Lamborghini Aventador Ultimae

ทว่า Lamborghini Aventador LP780-4 Ultimae ไม่ได้รับการติดตั้งเทคโนโลยีแอโรไดนามิก และชิ้นส่วนจาก SVJ มากนัก เพื่อให้รถรุ่นนี้เป็นมิตรต่อการขับขี่บนท้องถนน แต่ชดเชยด้วยการดีไซน์ชิ้นส่วนรถเฉพาะตัวขึ้นมาเพื่อสร้างสไตล์โดดเด่น เอื้อต่อการลดน้ำหนักตัวถัง และให้ประสิทธิภาพอากาศพลศาตร์ที่ดีเยี่ยมอยู่

เช่น กันชนหน้าที่คล้ายคลึงกับ Aventador S แต่มาพร้อมเทคโนโลยีรีดอากาศ และช่องลมไอดีใหม่ ที่ให้ประสิทธิภาพการระบายความร้อนตามหลักอากาศพลศาสตร์

Lamborghini Aventador Ultimae

ส่วนด้านหลังมาพร้อมปีกสปอยเลอร์แบบปรับได้ 3 รูปแบบ ได้แก่ รีดสมรรถนะสูงสุด, เพิ่มการควบคุมรถสูงสุด และปิด ทำงานร่วมกับระบบสร้างอากาศหมุนวนที่ด้านล่างของรถ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการไหลเวียนอากาศ และช่วยระบายความร้อนระบบเบรกได้

Lamborghini Aventador Ultimae

ภายใน Lamborghini Aventador LP780-4 Ultimae มาพร้อมชิ้นส่วนตกแต่งที่ฉลุด้วยเลเซอร์เป็นตัว Y พร้อมชิ้นส่วนโทนสีรองที่เสริมทั้งบนเบาะ และแผงบังแดดเรือนไมล์, เบาะยกมาจาก Aventador S พร้อมปักด้ายคำว่า Ultimae บนปีกข้างเบาะ และบริเวณเสา A ด้านคนขับ จะมีเลขลำดับการผลิตสุดเอ็กซ์คลูซีฟด้วย

Lamborghini Aventador Ultimae

เรือนไมล์จอดิจิทัล TFT พร้อมฟังก์ชั่นตั้งค่า, แสดงโหมดขับขี่ และควบคุมการเชื่อมต่อภายในรถได้, ระบบสั่งการด้วยเสียงผ่านระบบ Apple CarPlay, ระบบ Telemetry สำหรับแสดงข้อมูลในการขับขี่และสนามแข่ง ที่จะเป็นออพชั่นเสริม

Lamborghini Aventador Ultimae

อีกหนึ่งไฮไลท์เด็ดของ Lamborghini Aventador LP780-4 Ultimae ด้วยสีตัวถังมาตรฐานที่สามารถเลือกได้ 18 เฉดสี แต่ถ้าไม่หนำใจ สามารถเลือกบริการปรับแต่งพิเศษ Ad Personam ของ Lamborghini ที่จะมีเฉดสีให้เลือกมากถึง 300 เฉดสีเลยทีเดียว

Lamborghini Aventador Ultimae

Lamborghini Aventador LP780-4 Ultimae จะได้รับการเปิดตัวอย่างเต็มรูปแบบในงาน Goodwood Festival of Speed วันที่ 8-11 กรกฎาคม นี้ โดยราคาจะเปิดเผยเพิ่มเติมในลำดับต่อไป

เครดิตข้อมูลจาก carscoops.com