Ferrari ประกาศเปิดตัว Ferrari 296 GTB ครั้งแรกของการภูมิใจนำเสนอเครื่องยนต์ V6 พ่วงระบบปลั๊กอินไฮบริด ที่ถือได้ว่าเป็นเครื่องยนต์ที่มีขนาดเล็กที่สุดของแบรนด์ในศตวรรษนี้ สานตำนานเครื่องยนต์ V6 ที่เปิดตัวครั้งแรกใน 1961 Dino 246 ที่ได้รับการยกระดับเทคโนโลยีใหม่ ต่อยอดพัฒนาให้เป็นรถที่ขับสนุก ประหยัดน้ำมัน และก่อไอเสียต่ำ โดยที่ยังคงให้สมรรถนะทรงพลังไม่แพ้รถรุ่นพี่เลยทีเดียว
Ferrari 296 GTB ใช้พื้นฐานจากรุ่น F8 Tributo ที่เปลี่ยนจากเครื่องยนต์เบนซิน V8 พ่วงเทอร์โบ เป็นเครื่องยนต์เบนซินพ่วงปลั๊กอินไฮบริด ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน V6 ทำมุม 120 องศา ความจุ 2.9 ลิตร ให้กำลังสูงสุดถึง 654 แรงม้า หรือให้กำลัง 218 แรงม้า/ลิตร
เสริมด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง 164 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด และชุดแบตเตอรี่ขนาด 7.45 กิโลวัตต์ชั่วโมงติดตั้งอยู่ใต้พื้น จนให้กำลังรวมสูงสุด 830 แรงม้า แรงบิด 740 นิวตันเมตร ซึ่งมอบพละกำลังได้มากกว่า F8 Tributo ซึ่งให้กำลังเพียง 710 แรงม้า
Ferrari 296 GTB สามารถมอบอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 2.9 วินาที และ 200 กม./ชม. ภายใน 7.3 วินาที ซึ่งให้ประสิทธิภาพการขับขี่เท่ากับ F8 Tributo ส่วนความเร็วสูงสุดทำได้ถึง 330 กม./ชม.
ส่วนประสิทธิภาพในการวิ่งรอบสนามจากการอ้างอิงในสนาม Fiorano track ทำได้เร็วถึง 1 นาที 21 วินาที และมีโหมดสำหรับขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว ที่สามารถวิ่งได้ไกลถึง 25 กม./ชาร์จเต็ม 1 ครั้ง
ด้านการดีไซน์ของ Ferrari 296 GTB ได้ปรับปรุงตัวถังรถจาก F8 Tributo โดยมีการนำแรงบันดาบใจจากการออกแบบเส้นสายตัวถังและเส้นสายชิ้นส่วนที่ได้แรงบันดาลใจจาก SF90 และรถแข่งสุดคลาสสิด 250 LM แห่งปี 1960 ที่ให้ทรวดทรงที่ดูสวยงาม และสามารถสร้างแรงกดอากาศได้มากถึง 360 กก. เมื่อวิ่งด้วยความเร็วถึง 250 กม./ชม.
นอกจากนี้ยังมีการออกแบบตำแหน่งเสา B และหลังคา ที่รองรับสำหรับรุ่นเปิดหลังคาในอนาคต
ด้านภายในก็มีการปรับดีไซน์เล็กน้อย โดยเฉพาะกรอบเรือนไมล์ทรงวงรี ที่ได้แรงบันดาลใจจาก Dino 246 มาประยุกต์ใหม่ความทันสมัยยิ่งขึ้น เช่น เรือนไมล์จอดิจิทัลขนาดใหญ่ ปุ่มควบคุมระบบปรับอากาศ และช่องแอร์
สิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันก็คือ Ferrari 296 GTB จะมีขนาดตัวถังที่เล็กกว่า F8 Tributo โดยได้มีการปรับลดความยาวลงจากเดิม 46 มม. และระยะห่างระหว่างเพลาที่สั้นลง 50 มม. เพื่อช่วยลดน้ำหนักตัวถังเปล่าให้เหลือเพียง 1,470 กก. หรือเบากว่าเดิม 35 กก. และยังมอบความคล่องตัวสำหรับรุ่นเครื่องยนต์ V6 ได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ลูกค้าสามารถเลือกเสริมแพ็คเกจเสริม อาทิ Assetto Fiorano package ที่จะได้รับทั้งแดมเปอร์มัลติแมติก, ชิ้นส่วนคาร์บอน, ตะแกรงหลังคอมโพสิต และยาง Michelin Cup 2 R ซึ่งจะสามารถลดน้ำหนักลงได้อีก 12 กก. หรือหากเลือกล้อคาร์บอนไฟเบอร์เพิ่มเติม ก็จะช่วยลดน้ำหนักได้อีก 7 กก.
Ferrari 296 GTB จะวางจำหน่ายในยุโรปและส่งมอบในช่วงต้นปี 2022 เป็นต้นไป
เครดิตข้อมูลจาก carscoops.com และ ferrari.com