mini มินิ ราคารถใหม่ รุ่นปรับโฉม

MINI ส่งทัพรถรุ่นปรับโฉมใหม่ อีกขั้นของดีไซน์มินิพันธุ์แท้ ที่คุณไม่ควรพลาด

มินิ ประเทศไทย เปิดตัว มินิ แฮทช์ 3 ประตู และ มินิ คอนเวิร์ตทิเบิล รุ่นปรับโฉมใหม่ ยกระดับการดีไซน์ทั้งภายนอกและภายในให้เหนือชั้นยิ่งขึ้น

Home / AUTO / MINI ส่งทัพรถรุ่นปรับโฉมใหม่ อีกขั้นของดีไซน์มินิพันธุ์แท้ ที่คุณไม่ควรพลาด

มินิ ประเทศไทย เฉลิมฉลองเอกลักษณ์งานออกแบบยนตรกรรมในสไตล์อังกฤษ ผสานวิสัยทัศน์แห่งอนาคตเพื่อสานต่อลุคเฉพาะตัวของมินิ กับการเปิดตัวรถยนต์ มินิ แฮทช์ 3 ประตู  และ มินิ คอนเวิร์ตทิเบิล รุ่นปรับโฉมใหม่ อวดดีไซน์การออกแบบภายนอกที่สะท้อนตัวตนความเป็นมินิอย่างเต็มเปี่ยม พร้อมยกเครื่องการออกแบบภายในห้องโดยสารที่เสริมความพรีเมียมให้เหนือชั้นยิ่งกว่า พร้อมอุปกรณ์ที่มีให้เลือกอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสีตัวถังใหม่ ล้ออัลลอยน้ำหนักเบา วัสดุบุพื้นผิวและเบาะภายในห้องโดยสาร รวมถึงเทคโนโลยีนวัตกรรมอื่น ๆ อาทิ แชสซี ระบบปฏิบัติการ และระบบการเชื่อมต่อต่าง ๆ

Mini

ปลุกพลังแห่งมินิพันธุ์แท้ ด้วยดีไซน์ภายนอกโฉมใหม่

รูปโฉมภายนอกแบบใหม่สื่อถึงแก่นแท้อันเป็นเอกลักษณ์ของมินิยิ่งกว่าที่เคย ด้วยองค์ประกอบด้านการดีไซน์ที่เป็นหัวใจสำคัญของมินิ ซึ่งเรียบง่ายกว่าเดิมแต่โดดเด่นและล้ำสมัยยิ่งขึ้น ด้านหน้าของมินิ แฮทช์ 3 ประตู ซึ่งรวมไปถึง มินิ คูเปอร์ เอสอี และ มินิ
คอนเวิร์ตทิเบิล
มาพร้อมเส้นสายการดีไซน์ที่ทรงพลังยิ่งกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ในกรอบทรงหกเหลี่ยมสีดำมาในขนาดที่ใหญ่ขึ้น ขนาบข้างด้วยไฟหน้าทรงกลมอันเป็นเอกลักษณ์ของมินิ และแทนที่ไฟหรี่ด้วยช่องดักอากาศแนวตั้งทั้งสองข้างของกันชนที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์ ส่วนชิ้นส่วนกลางของกันชนซึ่งเป็นตำแหน่งติดตั้งป้ายทะเบียน
มาในสีเดียวกับตัวรถ ต่างจากรุ่นก่อนหน้าซึ่งเป็นสีดำ

มิติของตัวรถ รวมถึงส่วนหน้าและท้ายรถที่สั้นคล่องตัว ยังคงสร้างความเฉพาะตัวสไตล์มินิให้เด่นชัดแม้มองจากด้านข้าง รูปทรงซุ้มล้อใหม่สะดุดตายิ่งขึ้น กรอบไฟเลี้ยวด้านข้างมาในดีไซน์ใหม่พร้อมไฟเลี้ยว LED เส้นสายการออกแบบที่เรียบง่ายยิ่งขึ้นยังเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ใหม่ในส่วนท้ายของรถยนต์มินิรุ่นเครื่องยนต์สันดาปภายใน ชิ้นส่วนสีดำสอดรับกับกรอบกระจังหน้า ไฟตัดหมอกท้าย LED ทรงเรียวยาวฝังเป็นส่วนหนึ่งของกันชนหลัง

Mini

สีตัวถังใหม่เสริมความสะดุดตา พร้อมล้ออัลลอยลายใหม่

มินิ คูเปอร์ เอสอี มาในลุคเท่กว่าเคยด้วยตัวถังสีใหม่ MINI Yours Enigmatic Black metallic สร้างความประทับใจโฉมใหม่ให้แก่การขับขี่แบบไร้มลพิษ ชิ้นส่วนตกแต่งภายนอกสไตล์ Piano Black ที่มีให้เลือกเป็นอุปกรณ์เสริมในรุ่นมินิ คูเปอร์ เอส และ มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ ครอบคลุมมือจับประตู กรอบไฟเลี้ยว ฝาถังน้ำมัน โลโก้มินิบนกระโปรงหน้า ฝากระโปรงท้าย ตัวอักษรบ่งบอกรุ่น และท่อไอเสีย ซึ่งล้วนมาในสีดำเงา รับกับกรอบไฟหน้า กระจังหน้า และไฟท้าย

Mini
Mini

ล้ออัลลอยน้ำหนักเบาของมินิรุ่นปรับโฉม โฉบเฉี่ยวกว่าเดิมด้วยลายใหม่ มาในขนาด 18 นิ้ว ลาย Pulse Spoke แบบสลับสี เสริมการดีไซน์ให้โดดเด่นสะกดสายตายิ่งขึ้น ขณะที่ มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ มาพร้อมล้อลาย Circuit Spoke สีดำ

Mini

โคมไฟหน้าสีดำดุดัน ส่องสว่างด้วยหลอด LED

ไฟหน้า LED แบบใหม่มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับมินิ แฮทช์ 3 ประตู และมินิ คอนเวิร์ตทิเบิล ทรงพลังยิ่งขึ้นด้วยโคมสีดำแทนโครเมียมแบบในรุ่นก่อนหน้า ทั้งไฟหรี่และไฟสูงส่องสว่างด้วยหลอดไฟ LED ไฟวงแหวนทำหน้าที่เป็นทั้งไฟส่องสว่างตอนกลางวันและไฟเลี้ยว ระบบไฟแบบ Adaptive LED ในรถยนต์มินิ คูเปอร์ เอส, มินิ คูเปอร์ เอสอี และ มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ ปรับตามทิศทางการหมุนของพวงมาลัย มาพร้อมระบบไฟส่องสว่างขณะเลี้ยวโค้ง (Cornering light) และระบบปรับการทำงานไฟสูงอัตโนมัติ (Matrix high beam) โดยขณะเข้าโค้ง จะเปิดไฟส่องตามทิศทางของรถอัตโนมัติ พร้อมควบคุมการทำงานของไฟสูงอัตโนมัติตามสภาวะการจราจรขณะขับขี่ที่ความเร็วมากกว่า 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป

ระบบไฟหน้า LED จึงแบ่งออกเป็นสี่ส่วน ซึ่งแต่ละส่วนทำงานอย่างอิสระ นอกจากนี้ ระบบปรับการทำงานไฟสูงอัตโนมัติ (Matrix high beam) ยังช่วยลดการรบกวนสายตาแก่รถยนต์คันอื่น ๆ โดยกล้องหน้าของรถมินิสามารถตรวจจับรถที่ขับสวนมา หรือรถยนต์ด้านหน้าได้ ซึ่งระบบจะปรับไฟสูงเป็นไฟต่ำโดยอัตโนมัติ

Mini

ไฟท้ายลายธงยูเนียนแจ็คของรถมินิอันเป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร เป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับมินิ แฮทช์ 3 ประตู และมินิ คอนเวิร์ตทิเบิล ลวดลายที่ได้รับแรงบันดาลใจจากธงชาติอังกฤษนี้มาในโทนสีเข้มยิ่งขึ้น พร้อมระบบไฟ LED ทั้งหมด ยกเว้นเพียงไฟถอยจอด

Mini

ภายในดีไซน์เรียบหรู ตกแต่งด้วยวัสดุพรีเมียม

การออกแบบภายในห้องโดยสารของมินิ แฮทช์ 3 ประตู และมินิ คอนเวิร์ตทิเบิล มีความหรูหราทันสมัยยิ่งขึ้น ตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพสูง พร้อมแนวตะเข็บในสีเดียวกับลายเบาะ

แถบสีตกแต่งภายในห้องโดยสาร มาในสีเดียวกับเบาะนั่งเป็นมาตรฐาน และยังลดการใช้ชิ้นส่วนโครเมียมลงอย่างมาก ช่องแอร์ทรงกลมทั้งสองข้างมาในกรอบสีดำ ขณะที่ช่องแอร์ตรงกลางรถได้รับการออกแบบใหม่ให้กลมกลืนกับพื้นผิวภายใน ซึ่งมาในชิ้นส่วนเดียวกันตลอดแนวจากคอนโซลไปจนถึงด้านหน้าคนขับ

แผงคอนโซลกลางมาในลุคพรีเมียมยิ่งขึ้น มาพร้อมจอระบบสัมผัสขนาด 8.8 นิ้ว ปุ่มรายการโปรดระบบสัมผัส พื้นผิวสีดำเงา Piano Black ปุ่มควบคุมระบบเสียงและปุ่มไฟฉุกเฉิน รวมเป็นหนึ่งเดียวในแผงควบคุมทรงกลม ซึ่งล้อมรอบด้วยวงแหวนไฟ LED รับกับไฟสร้างบรรยากาศสลักลวดลายด้วยเลเซอร์ มอบลุคล้ำสมัยยิ่งขึ้น แป้นเปลี่ยนเกียร์มาในสีดำล้วน มาพร้อมระบบนำทาง

Mini

พวงมาลัยหนังแท้สไตล์สปอร์ต ห้องโดยสารเพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยสำหรับไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัล

มินิ แฮทช์ 3 ประตู และมินิ คอนเวิร์ตทิเบิล รุ่นปรับโฉมใหม่ยังมาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานอย่างพวงมาลัยหนังแท้ดีไซน์สปอร์ตพร้อมปุ่มควบคุมมัลติฟังก์ชั่น การจัดวางปุ่มต่าง ๆ ได้รับการออกแบบใหม่ให้ควบคุมระบบเสียง การเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ และระบบการสั่งงานด้วยเสียงได้ง่ายขึ้น

Mini

มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ รวมทั้งมินิ คูเปอร์ เอสอี และชุดแต่ง MINI Yours มาพร้อมพวงมาลัยหุ้มหนัง Nappa และแป้นพักนิ้วโป้งขนาดใหญ่ขึ้น หน้าปัดมาตรวัดความเร็วแบบดิจิทัลเต็มรูปแบบด้านหลังพวงมาลัยเป็นส่วนหนึ่งของระบบ Connected Media แสดงผลผ่านจอสีแบบดิจิทัลในดีไซน์หน้าจอสีดำ ซึ่งเป็นมาตรฐานสำหรับมินิ คูเปอร์ เอสอี ด้วยเส้นผ่าศูนย์กลาง 5 นิ้ว แสดงข้อมูลการขับขี่รวมถึงข้อมูลการตรวจสภาพรถ และสถานะการชาร์จพลังงานไฟฟ้าสำหรับมินิ คูเปอร์ เอสอี

เลือกมู้ดสีและไฟได้ตามใจคุณ ด้วยโหมด “Lounge” และโหมด “Sport” ใหม่

มินิรุ่นปรับโฉมใหม่มาพร้อมแผงหน้าจอที่เลือกได้สองโทนสี ครอบคลุมบริเวณหน้าจอแสดงผลและหน้าปัดมาตรวัดความเร็วแบบดิจิทัล โดยในโหมด “Lounge” ข้อมูลและภาพบนหน้าจอจะปรากฎในโทนสีฟ้า Turquoise ไปจนถึงสีฟ้า Petrol Blue ที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ในขณะที่โหมด “Sport” จะให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวายิ่งกว่า ด้วยสีพื้นหลังในโทนสีแดงและสีดำ Anthracite สำหรับรุ่นที่มาพร้อมระบบปรับโหมดการขับขี่ MINI Driving Modes เฉดสีภายในรถจะเปลี่ยนไปตามโหมดการขับขี่ที่เลือก เช่น ในโหมด MID และ GREEN หน้าจอสไตล์ “Lounge” จะถูกเรียกใช้งาน เมื่อขับขี่ในโหมด “SPORT” หน้าจอและเฉดสีแบบสปอร์ตก็จะถูกเรียกใช้งานแทน นอกจากนี้ ยังสามารถปรับโทนสีของทุกโหมดการขับขี่ MINI Driving Modes ผ่านเมนูควบคุมให้เป็นสีเดียวกันทั้งหมดได้อีกด้วย

ระบบควบคุมไฟในห้องโดยสารยังช่วยให้สีสันบนหน้าจอต่าง ๆ ภายในรถปรับให้เข้ากับไฟในห้องโดยสารได้ โดยมีให้เลือก 6 สีสำหรับแต่ละโหมด ทั้ง “Lounge” และ “Sport” ซึ่งสามารถเลือกใช้งานได้ด้วยสวิทช์ที่อยู่ด้านบนกรอบกระจกหน้ารถ ไฟสร้างบรรยากาศในสีที่เลือกจะสว่างขึ้นบริเวณกรอบวงแหวน LED ที่หน้าจอแสดงผล ด้านหลังพื้นผิวต่าง ๆ ภายในห้องโดยสาร ตลอดจนกรอบประตู มือจับประตูด้านคนขับและผู้โดยสาร หลังคา ด้านหน้าแผงคอนโซล รวมถึงที่วางเท้า จึงสามารถปรับแต่งโทนแสงไฟในห้องโดยสารของมินิ แฮทช์ 3 ประตู และมินิ คอนเวิร์ตทิเบิล ได้ตามความต้องการของผู้ขับขี่แต่ละคน นอกจากนี้ ชุดไฟสร้างบรรยากาศยังส่องสว่างที่มือจับประตูและบริเวณประตูรถฝั่งคนขับและผู้โดยสารอีกด้วย

Mini

ระบบปฏิบัติการใหม่และหน้าจอแสดงผลล้ำสมัย มาพร้อมฟีเจอร์การเชื่อมต่อเสริมอื่น ๆ

ระบบปฏิบัติการบนหน้าจอแสดงผล ล้ำสมัยยิ่งกว่าเคย ด้วยหน้าจอแสดงผลแบบใหม่ และตัวเลือกการสั่งการและควบคุมฟังก์ชั่นภายในรถยนต์ ระบบเสียง ระบบรับสาย โทรศัพท์แบบแฮนด์ฟรี ระบบนำทาง และการสั่งการแอปต่าง ๆ ที่พัฒนาขึ้นอีกขั้น หน้าจอแสดงผลแสดงสัญลักษณ์และตัวอักษรสีขาวบนพื้นหลังสีใหม่ให้ความรู้สึกหรูหราและทันสมัยยิ่งขึ้น

แถบเมนูปรากฎบนหน้าจอในรูปแบบไลฟ์วิดเจ็ต ซึ่งเรียกสั่งการได้ด้วยการปัดหน้าจอสัมผัส ซึ่งจะแสดงแถบเมนูแบบขยายใหญ่กลางหน้าจอ ส่งให้การแสดงผลบนหน้าจอชัดเจนโดดเด่นกว่าเคย

ด้านฟีเจอร์การเชื่อมต่อ ระบบเสียง และระบบนำทาง ถูกรวมเข้าไว้ด้วยกันในอีกสามแพ็คเกจอุปกรณ์เสริม โดยแพ็คเกจ Connected Media มาพร้อมหน้าปัดมาตรวัดความเร็วแบบดิจิทัล, ระบบ MINI Connected, เทคโนโลยี ConnectedDrive และระบบการควบคุมรถยนต์จากระยะไกล แพ็คเกจ Connected Navigation เสริมระบบนำทางของมินิ ซึ่งรวมไปถึงระบบนำทางพร้อมข้อมูลการ​จราจร Real-Time Traffic Information และระบบ Apple CarPlay ส่วนแพ็คเกจ Connected Navigation Plus เสริมความสะดวกสบายขึ้นอีกขั้นด้วยระบบ MINI Connected XL, Concierge Services บริการผู้ช่วยส่วนตัวตลอด 24 ชั่วโมง, ระบบจอภาพแสดงข้อมูลการขับขี่ และระบบเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ พร้อมแท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย

Mini

ขุมพลังเทคโนโลยี MINI TwinPower Turbo พร้อมมาตรฐานควบคุมมลพิษ Euro 6

ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซินทรงประสิทธิภาพแบบ 3 สูบ และ 4 สูบ ส่งพละกำลังให้ มินิ แฮทช์ 3 ประตู โลดแล่นบนท้องถนน เทคโนโลยี MINI TwinPower Turbo ในเครื่องยนต์ มาพร้อมกับเทอร์โบชาร์จเจอร์ที่ผสานมากับท่อไอเสียร่วม พร้อมระบบจ่ายน้ำมันแบบฉีดตรง และระบบวาล์วแปรผัน สำหรับรุ่น มินิ คูเปอร์ ทรงพลังด้วยเครื่องยนต์ 3 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร ส่งพละกำลังรวมสูงสุด 100 กิโลวัตต์/136 แรงม้า ขณะที่ มินิ คูเปอร์ เอส และมินิ คูเปอร์ เอส คอนเวิร์ตทิเบิล มาพร้อมเครื่องยนต์ 4 สูบ ขนาด 2 ลิตร ส่งพละกำลังรวมสูงสุด 141 กิโลวัตต์/192 แรงม้า

Mini

ส่วนมินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ ทรงสมรรถนะขึ้นอีกขั้น มอบพละกำลังรวมสูงสุด 170 กิโลวัตต์/231 แรงม้า นอกจากนี้ ด้วยเทคโนโลยีควบคุมการปล่อยมลพิษ รวมถึงระบบกรองอนุภาคไอเสียในเครื่องยนต์เบนซิน ทำให้รถยนต์มินิทุกรุ่นผ่านมาตรฐานควบคุมมลพิษ Euro 6

ด้าน มินิ คูเปอร์ เอสอี มอบการขับขี่ที่ทั้งสนุกเร้าใจและปราศจากมลพิษ ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่มอบพละกำลังรวมสูงสุด 135 กิโลวัตต์/184 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบ Single Stage แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแรงดันสูงซึ่งติดตั้งลึกเข้าไปบริเวณใต้รถจุพลังงานไฟฟ้ารวม 32.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง จึงสามารถมอบระยะทางสูงสุดได้ราว 203-234 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP

เครื่องยนต์สันดาปของมินิ แฮทช์ 3 ประตู และมินิ คอนเวิร์ตทิเบิล ส่งกำลังพร้อมเกียร์อัตโนมัติ Steptronic 7 สปีด คลัตช์คู่ ในขณะที่มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ ทรงพลังขึ้นอีกขั้นด้วยเกียร์อัตโนมัติ Steptronic 8 สปีด

MINI App เจเนอเรชั่นใหม่ เชื่อมต่อกับรถมินิได้ง่ายกว่าที่เคย

MINI App เจเนอเรชั่นใหม่ ยกระดับการใช้งานให้เชื่อมต่อกับไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัลได้สะดวกสบายขึ้นอีกขั้น ผู้ขับขี่สามารถเชื่อมต่อกับรถยนต์มินิได้ตลอดเวลา เช่น การเรียกดูสถานะรถยนต์เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเดินทาง โดยสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นใหม่นี้ได้จาก Google Play Store และ Apple App Store มาพร้อมอินเตอร์เฟสใหม่ที่ครอบคลุมการเชื่อมต่อระหว่างสมาร์ทโฟนและรถยนต์ ใช้งานสะดวกง่ายดายขึ้นด้วยดีไซน์แอปใหม่ และฟังก์ชั่นใหม่อีกมากมาย เช่น การเรียกดูระดับน้ำมันหรือสถานะการชาร์จได้จากระยะไกล ซึ่งการควบคุมฟังก์ชันต่าง ๆ จากระยะไกลนี้ ช่วยให้ผู้ใช้งานหาตำแหน่งปัจจุบันของรถ ล็อกและปลดล็อกรถยนต์ แชร์เส้นทางสู่จุดหมายปลายทางจากแอปในสมาร์ทโฟนไปยังระบบนำทางในรถได้อย่างง่ายดาย ทั้งยังสามารถนัดหมายเข้ารับบริการบำรุงรักษาได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้นผ่าน MINI App นอกจากนี้ ยังมาพร้อมบริการเฉพาะสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างมินิ คูเปอร์ เอสอี ที่ช่วยให้ควบคุมการชาร์จได้จากระยะไกล ขณะเดียวกัน ผู้ใช้งานยังสามารถควบคุมระบบปรับอากาศในรถผ่านแอปได้จากระยะไกล เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางอีกด้วย

ราคารถยนต์มินิรุ่นปรับโฉม (รวมโปรแกรมบำรุงรักษา MSI Standard)

  • มินิ คูเปอร์ เอสอี ราคา 2,290,000 บาท
  • มินิ คูเปอร์ เอสอี (สี MINI Yours Enigmatic Black metallic) ราคา 2,320,000 บาท
  • มินิ คูเปอร์ แฮทช์ 3 ประตู ราคา 2,180,000 บาท
  • มินิ คูเปอร์ เอส แฮทช์ 3 ประตู ราคา 2,880,000 บาท
  • มินิ คูเปอร์ คลับแมน ราคา 2,430,000 บาท
  • มินิ คูเปอร์ เอส คลับแมน ราคา 3,230,000 บาท
  • มินิ คูเปอร์ เอส คอนเวิร์ตทิเบิล ราคา 3,030,000 บาท
  • มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ แฮทช์ 3 ประตู ราคา 3,418,000 บาท
  • มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คลับแมน ราคา 3,648,000 บาท
  • มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คอนเวิร์ตทิเบิล ราคา 3,468,000 บาท
Mini

ข้อเสนอ ดาวน์ 0% จากแคมเปญ MINI Step-up

ลูกค้าที่จองรถยนต์มินิคันใหม่ทุกรุ่น พร้อมโปรแกรมบำรุงรักษา MSI Standard และทำสัญญาทางการเงินที่ร่วมรายการกับ มินิ ไฟแนนเชียล เซอร์วิส โดยมีกำหนดรับส่งมอบรถยนต์ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2564 จะได้รับข้อเสนอสุดพิเศษภายใต้แคมเปญ MINI Step-up กับข้อเสนอดาวน์ 0% และราคาผ่อนต่อเดือนแบบสบาย ๆ สำหรับปีแรก

นอกจากนี้ ลูกค้าที่สนใจสังจอง มินิ คูเปอร์ เอสอี รุ่นปรับโฉมใหม่ ยังสามารถเลือกรับแพ็คเกจข้อเสนอได้ตามความต้องการ ดังนี้

  • MINI Step-up ทางเลือกที่ 1: ข้อเสนอดาวน์ 0% ราคาผ่อนต่อเดือนสำหรับ 12 เดือนแรก 16,900 บาท หรือ
  • MINI Step-up ทางเลือกที่ 2: ข้อเสนอดาวน์ 30% ราคาผ่อนต่อเดือนสำหรับ 12 เดือนแรก 9,900 บาท หรือ
  • รับฟรี แท่นชาร์จ Wall Charge และประกันภัย MINI Protect ชั้นหนึ่ง เป็นระยะเวลา 1 ปี ราคาผ่อนต่อเดือน 22,900 บาท

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

Mini

อุ่นใจยิ่งกว่าด้วยแพ็คเกจ MINI Service Inclusive ที่ออกแบบมาเพื่อมินิ คูเปอร์ เอสอี โดยเฉพาะ

มินิ ประเทศไทย ยังพร้อมเสนอแพ็คเกจโปรแกรมบำรุงรักษา MINI Service Inclusive ที่คัดสรรมาเป็นอย่างดีเพื่อการดูแลระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าของมินิ คูเปอร์ เอสอี ได้อย่างเหมาะสมที่สุดตามความต้องการและความจำเป็นของลูกค้า ดังนี้

  • MSI Standard : ระยะการบำรุงรักษา 4 ปี / ไม่จำกัดระยะทาง รับประกัน 4 ปี / ไม่จำกัดระยะทาง (รวมอยู่ในราคาจำหน่ายมาตรฐาน)
  • MSI Plus : ระยะการบำรุงรักษา 6 ปี / ไม่จำกัดระยะทาง รับประกัน 4 ปี / ไม่จำกัดระยะทาง ราคา 50,000 บาท
  • Warranty : Plus ระยะการบำรุงรักษา 4 ปี / ไม่จำกัดระยะทาง รับประกัน 6 ปี / ไม่จำกัดระยะทาง ราคา 60,000 บาท
  • MSI Ultimate : ระยะการบำรุงรักษา 6 ปี / ไม่จำกัดระยะทาง รับประกัน 6 ปี / ไม่จำกัดระยะทาง ราคา 110,000 บาท