Ferrari ประกาศเปิดตัว Ferrari 812 Competizione กับการยกระดับจาก 812 Superfast เพื่อยกระดับสมรรถนะและการควบคุมที่เหนือไปอีกขั้น พร้อมเปิดตัวรุ่นหลังคาถอดได้สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ในชื่อ 812 Competizione A
Ferrari 812 Competizione มาพร้อมเครื่องยนต์ V12 ความจุ 6.5 ลิตร แบบ NA ที่ถูกยกระดับปรับปรุงชิ้นส่วนใหม่ โดยเฉพาะชิ้นส่วนไทเทเนียมที่เบากว่าเดิม, เพลาลูกเบี้ยวและหมุดภายในลูกสูบที่เคลือบคาร์บอน (โครงสร้างคล้ายเพชร) เพื่อลดแรงเสียดทานและความทนทานมากขึ้น, เพลาข้อเหวี่ยงที่เบาขึ้นและปรับสมดุลใหม่ ปรับปรุงระบบไอดี, ติดตั้งกลไกตั้งเวลาวาล์วใหม่ และเสริมกรองอนุภาคน้ำมันระบบไอเสียใหม่ ตามข้อบังคับมลพิษของสหภาพยุโรป แต่ไม่ลดทอนเสียงอันทรงพลังจากเครื่อง V12 ที่คุณสัมผัสได้
จนสามารถรีดสมรรถนะจากเดิม 789 แรงม้า เป็น 818 แรงม้า จำนวนรอบหมุนสูงสุดถึง 9,500 รอบ/นาที แต่แรงบิดจะลดลงจาก 717 นิวตันเมตร เป็น 695 นิวตันเมตร แทน
ผสานด้วยเกียร์อัตโนมัติ DCT 7 สปีด ที่ได้รับการอัปเกรดซอร์ฟแวร์ใหม่เพื่อลดเวลาเปลี่ยนเกียร์ลง 5% โดยยังคงอัตราส่วนเดิมจาก 812 Superfast ทั้งหมดนี้สามารถมอบอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 2.85 วินาที ความเร็วสูงสุดถึง 340 กม./ชม.
ประกอบกับขอบท่อไอเสียทรงสี่เหลี่ยมแยกซ้ายขวา ที่ออกแบบเพื่อรองรับดีไซน์แผงดิฟฟิวเซอร์ท้ายอย่างลงตัว ด้วยแผงดิฟฟิวเซอร์ที่กว้างขึ้น และเมื่อผสานด้วยแผงสปอยเลอร์ท้ายจะช่วยเพิ่ม Downforce ที่ด้านหลังรถจากเดิมได้อีก 25% แต่นั่นเป็นแค่ส่วนหนึ่งของประสิทธิภาพการสร้างแรงกดอากาศและการลู่ลม
สปอยเลอร์หน้าที่มาพร้อม Passive Mobile Aero System ที่จะเปิดใช้งานเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูงถึง 250 กม./ชม. พร้อมเส้นสายตัวถังที่เน้นการบังคับทิศทางการไหลเวียนของอากาศ
ตัวรถได้รับการออกแบบระบบระบายความร้อนระบบขับเคลื่อน ทั้งที่ดักอากาศตรงตะแกรงหน้า และส่วนท่อด้านหน้าให้เข้ามาด้านใน เพื่อระบายความร้อนที่ล้อและอีกส่วนจะพุ่งออกจากฝากระโปรงหน้าผ่านส่วนที่เป็น “ใบมีด” คาร์บอนไฟเบอร์ตรงกลาง , ช่องระบายอากาศหลังล้อแต่ละข้าง ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อนมากขึ้นโดยไม่มีผลต่อการเพิ่มน้ำหนักตัวรถ
รวมถึงชิ้นส่วนแอโร่พาร์ททุกชิ้นที่ได้รับการออกแบบเพิ่อสนับสนุนการสร้างแรงกดอากาศ ได้แก่ บริเวณช่องระบายความร้อนที่ล้อ จะมีครีบรีดอากาศ 3 ส่วนด้านใน, ฝากระโปรงหลังทั้งแบบหลังคาแข็ง และแบบเปิดหลังคาที่ออกแบบให้เอื้อต่อการสร้างแรงกดอากาศด้านหลังอย่างต่อเนื่อง, สปอยเลอร์หลังเนื้อเดียวกับส่วนท้ายรถ เป็นต้น ซึ่งจะช่วยสร้างทิศทางไหลเวียนอากาศในตำแหน่งที่เหมาะสม และทำให้ประสิทธิภาพ Downforce โดยรวมเพิ่มขึ้นจากเดิมอีก 10%
อีกหนึ่งระบบที่ได้เสริมเข้ามาคือ Side Slip Control v. 7.0 หรือระบบบังคับเลี้ยวอิสระที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์เวอร์ชั่นใหม่, ล้อคาร์บอนไฟเบอร์หุ้มยาง Michelin Cup 2 R
นอกจากนี้ 812 Competizione เองก็ยังมาพร้อมกับการออกแบบชิ้นส่วนและกลไกต่าง ๆ เพื่อลดน้ำหนักตัวถังลงอีก 38 กก. จากเดิม 1,487 กก. เหลือเพียง 1,449 กก. ส่วนน้ำหนักในรุ่น Competizione A ยังไม่เปิดเผย
โดย Ferrari 812 Competizione และ Competizione A ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นหนึ่งในคอลเลคชั่นสุดพิเศษสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความเป็นเฟอรารี่ขั้นสูงสุด ทั้งนี้ราคาและจำนวนการผลิตจะเปิดเผยเพิ่มเติมในลำดับต่อไป
เครดิตข้อมูลจาก ferrari.com และ carscoops.com