SAIC Motor เผยโฉม รถต้นแบบ MG Cyberster รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% พร้อมห้องโดยสารสไตล์ E-sport คันแรกในโลก โดดเด่นด้วยความทันสมัย ความอัจฉริยะ และก้าวล้ำนำหน้า ควบคู่กับการสืบทอดรูปทรงคลาสสิคของรถเปิดประทุนและจิตวิญญาณของรถยนต์ MGB Roadster อย่างเต็มขั้น
MG Cyberster สร้างสรรค์โดยทีมนักออกแบบของเอ็มจี โดยสืบทอดรูปทรงคลาสสิคและความเป็นผู้นำเทรนด์ของรถยนต์ MGB Roadster เข้ากับแนวทางการออกแบบใหม่ที่ผสมผสานความลงตัวของ 2 เรื่องราวความแตกต่างระหว่างสุนทรียภาพและจินตนาการเชิงศิลป์ที่สะท้อนความเป็นตัวของตัวเอง
ด้านหน้าของ MG Cyberster สืบทอดดีไซน์สไตล์คลาสสิคของเอ็มจี ด้วยไฟหน้าทรงกลมและกระจังหน้าเรียวยาว พร้อมชุดไฟหน้า “Magic Eye” แบบอินเทอร์แอคทิฟ และกระจังหน้าที่ออกแบบให้ลู่ลมตามหลักอากาศพลศาสตร์ ด้านข้างของตัวรถดูสง่างามด้วยชุดไฟแอลอีดี “Laser Belt” ลงตัวกับล้อดีไซน์ใหม่แบบ “Hacker Blade”เสริมตัวรถโดยรวมให้ดูมีทรงพลังมากยิ่งขึ้น
ด้านท้ายของ MG Cyberster ใช้การออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์แบบยุโรปในลักษณะท้ายสั้น หรือ Kammback พร้อมชุดไฟท้ายดีไซน์สุดล้ำแบบ “Red Wing” ด้วยเส้นไฟที่เรียวเล็กดูชัดเจน
นอกจากนี้ การออกแบบโลโก้เรืองแสง ไฟเลี้ยวรูปทรงลูกศร และสปอยเลอร์หลังที่ฝังตัวอยู่ในชิ้นเดียวกันให้ความรู้สึกถึงความเคลื่อนไหวของรถสปอร์ตอย่างเต็มที่
หนึ่งไฮไลท์สำคัญของ MG Cyberster คือภายในห้องโดยสารที่ออกแบบอย่างสวยงามลงตัว ด้วยแนวคิดการออกแบบ “Digital Fiber” ใช้การวางผังที่นั่งให้ผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลาง โดยออกแบบตำแหน่งที่นั่งแยกฝั่งซ้ายขวาออกจากกัน และมีแผงหน้าปัด LED ขนาดใหญ่พร้อมจอกลางให้ความเพลิดเพลินในการขับขี่ได้มากยิ่งขึ้น
แผงเรือนไมล์แบบชิ้นเดียวที่ผสานหลากหลายธีมไว้ด้วยกัน ไม่เพียงแค่แสดงข้อมูลสำคัญทั้งหมด แต่ยังให้อารมณ์สปอร์ตคลาสสิคในสไตล์ยุโรป พร้อมการเชื่อมต่ออัจฉริยะรองรับเทคโนโลยี 5G ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์การเชื่อมต่อแบบไร้สาย และได้รับการสนับสนุนอัปเดทซอร์ฟแวร์ที่รวดเร็ว
เบาะรองนั่งแบบ Zero-gravity Seat มือจับหุ้มหนังสีแดงที่บริเวณแผงประตูลงตัวกับ Laser Belt ในขณะที่เส้นสายภายในและผิวสัมผัสสร้างโมเมนตัมได้อย่างทรงพลัง และรูปทรงที่เร้าอารมณ์ยังเชื่อมโยงจากข้างนอกสู่ข้างใน ซึ่งทำให้รถทั้งคันมีความเป็นหนึ่งเดียวกัน
นอกจากนี้ MG และ Bilibili E-sports ซึ่งเป็นบริษัทด้าน E-Sport รายใหญ่ในจีนยังได้ร่วมกันสร้างค็อกพิทเกมซูเปอร์คาร์รุ่นแรกในอุตสาหกรรม ซึ่งมีดีไซน์ภายในที่รองรับการออกแบบเสียงและแสงในธีม E-sport ให้อารมณ์ความรู้สึกเสมือนหนึ่งอยู่ในโลกของเกมอย่างแท้จริง ให้ผู้ใช้โดยเฉพาะ Gen Z สามารถผสานโลกความเป็นจริงกับโลกเสมือนเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว
MG Cyberster ติดตั้งแบตเตอรี่ไร้โมดูล (Moduleless Battery) เทคโนโลยี CTP ในเวอร์ชั่นอัพเกรดใหม่ ซึ่งให้ระยะการขับขี่ที่ไกลถึง 800 กม. สามารถทำความเร็ว 100 กม./ชม. ได้ในเวลาไม่ถึง 3 วินาที และมีเทคโนโลยีอัจฉริยะชั้นสูง ด้วยระบบขับขี่อัจฉริยะ (Intelligent Driving) เทคโนโลยีการอัพเกรดแบบแอคทิฟ (Active-upgrading) และสมาร์ท ค็อกพิท (Smart Cockpit) นอกจากนี้ MG Cyberster ยังมีเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติระดับ 3 อีกด้วย
ซึ่งโมเดล MG Cyberster เปรียบเสมือนการสานต่อความยิ่งใหญ่ของ MGB Roadster รถสปอร์ตยุคปี 60 สู่การกลับมาในรูปแบบของรถสปอร์ตไฟฟ้า อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่โดนใจผู้บริโภค Gen Z ยิ่งขึ้น