Mercedes-Benz เตรียมนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าภายใต้แบรด์ EQ รุ่นใหม่ล่าสุดด้วย All-New Mercedes-Benz EQS รถซีดานไฟฟ้าระดับ Flagship ที่จัดเต็มทั้งนวัตกรรมความสะดวกสบาย สมรรถนะ และความปลอดภัยขั้นสูง โดยจะเปิดตัวเต็มรูปแบบ 15 เมษายนนี้
Mercedes-Benz EQS จะมาพร้อมกับตัวเลือกสองระดับ ได้แก่ EQS 450+ และ EQS 580 4MATIC+ ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้า “eATS” โดยแบ่งเป็น EQS 450+ ขับเคลื่อนล้อหลัง สมรรถนะสูงสุด 333 แรงม้า แรงบิด 568 นิวตันเมตร
ส่วนรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อจะได้รับ eATS ทั้งสองชุดจับคู่เพลาหน้า-หลัง ให้กำลังรวมสูงสุด 523 แรงม้า แรงบิด 855 นิวตันเมตร ทว่า ทั้งนี้ทั้งนั้น ทั้งสองรุ่นย่อย จะถูกจำกัดความเร็วสูงสุดที่ 210 กม./ชม.
สำหรับประสิทธิภาพการขับขี่นั้นระบุว่าในรุ่นท็อปสุดสามารถวิ่งได้ไกลถึง 770 กม./ชาร์จเต็ม 1 ครั้ง โดยอิงมาตรฐานการทดสอบจาก WLTP ซึ่งคาดว่าความจุแบตเตอรี่อาจจะมากถึง 107.8 กิโลวัตต์ชั่วโมง ในขณะที่ความจุ 90 กิโลวัตต์ชั่วโมงก็มีเป็นตัวเลือกเสริมด้วยเช่นกัน
ด้านประสิทธิภาพการชาร์จนั้น ในส่วนของการชาร์จไฟฟ้าด้วยกระแสตรง (DC) จากสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า จะสามารถรองรับการชาร์จได้สูงสุดถึง 200 กิโลวัตต์ หรือเพียงแค่ชาร์จ 15 นาที ก็สามารถวิ่งได้ไกลถึง 300 กม. และสามารถรองรับการชาร์จด้วยกระแสสลับ (AC) สูงสุด 22 กิโลวัตต์ ผ่านออนบอร์ด และเครื่องชาร์จที่เป็นออพชั่นเสริม
เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้บริการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าด้วยฟีเจอร์ Plug & Charge ที่ช่วยให้รถยนต์และสถานีชาร์จสามารถสื่อสารกันโดยใช้สายชาร์จ ซึ่งฟีเจอร์ดังกล่าวจะช่วยในด้านการชำระค่าบริการผ่านการชาร์จโดยตรงโดยไม่ต้องใช้คีย์การ์ด
ด้วยหัวและสายปลั๊กชาร์จที่ออกแบบใหม่สามารถซิงค์กับสถานีชาร์จ Mercedes me Charge แห่งใดแห่งหนึ่งจากประมาณ 500,000 แห่งทั่วโลก โดยจะคิดค่าใช้จ่ายตั้งแต่หลังจากเสียบปลั๊กเรียบร้อยแล้ว และถอดปลั๊กหลังจากชาร์จเสร็จ หรือชาร์จเต็ม 100% แล้ว โดยแอปพลิเคชั่น Mercedes me จะทำการแจ้งเตือนสรุปค่าใช้จ่าย และหักค่าใช้จ่ายผ่านบัญชีที่ผูกกับแอปพลิเคชั่นนี้ไว้ทันที
อีกหนึ่งจุดเด่นที่น่าสนใจก็คือ Mercedes-Benz EQS มาพร้อมกับการออกแบบตัวถังที่มอบค่าสัมประสิทธิ์ต้านทานอากาศที่ต่ำเพียง 0.20 Cd ซึ่งทำลายสถิติเดิมของรถที่จำหน่ายจริงในปัจจุบันซึ่งให้ค่า Cd ที่ 0.22 ส่งผลให้รถลู่ลมยิ่งขึ้น ใช้พลังงานไฟฟ้าได้เต็มที่ยิ่งขึ้น รวมถึงลดการปะทะของลมและหน้าต่าง ส่งผลให้ห้องโดยสารเงียบลงกว่าเดิมอีกด้วย
สำหรับภายในได้มีการเปิดเผยออกมาแล้วก่อนหน้า โดยไฮไลท์เด่นของภายในมาพร้อมหน้าจอ Hyperscreen ขนาด 56 นิ้ว ครอบคลุมตั้งแต่เรือนไมล์, ระบบมัลติมีเดีย แผงควบคุมระบบต่าง ๆ ในหนึ่งเดียว รวมถึงมีตัวเลือกจอแยกส่วนแบบเดียวกับ S-Class โฉมใหม่ควบคู่ด้วยเช่นกัน รวมถึงระบบฟอกอากกาศที่พัฒนาขึ้นมาเป็นพิเศษ ระบบเชื่อมต่อขั้นสูง พร้อมระบบเก็บข้อมูลผ่าน Cloud เป็นต้น
โดยคาดว่าหลังจากเปิดตัว Mercedes-Benz EQS ในวันที่ 15 เมษายนนี้ ก็จะมีแผนจำหน่ายในราว ๆ ช่วงปลายปีนี้เป็นต้นไป
เครดิตข้อมูลจาก carscoops.com