ford Ford Everest Ford Ranger PHEV Plug-In HYBRID ปลั๊กอินไฮบริด ฟอร์ด ฟอร์ด เรนเจอร์ ฟอร์ด เอเวอเรสต์

Ford Ranger / Everest เจนฯ หน้า อาจจะมาพร้อมกับขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด?

ข่าวจากโฆษกของ Ford ยุโรป แย้มว่า Ford Ranger และ Ford Everest เจนเนอเรชั่นหน้าจะมาพร้อมกับขุมพลังปลั๊กอินไฮบริดเป็นตัวเลือกใหม่ในเร็ว ๆ นี้

Home / AUTO / Ford Ranger / Everest เจนฯ หน้า อาจจะมาพร้อมกับขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด?

กระแสขุมพลังลูกผสมกำลังมาแรง ไม่ว่าจะรถเล็กหรือรถใหญ่ รวมถึงรถกระบะก็อาจจะมีขุมพลังลูกผสมให้ลูกค้าได้พิสูจน์สมรรถนะพร้อม ๆ กัน โดยในเวลานี้มีข่าวว่า Ford Ranger และ Ford Everest เจนเนอเรชั่นหน้าจะมาพร้อมกับขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด เป็นตัวเลือกเพิ่มด้วย

Ford

จากรายงานในเว็บไซต์ Carexpert ของประเทศออสเตรเลีย ได้เผยข้อมูลจากโฆษก Ford of Europe เปิดเผยว่าทางบริษัทฯ จะมีการนำเสนอรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ และรถกระบะขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด ที่จะยกระดับการปล่อยไอเสียที่ต่ำลงถึงศูนย์ภายในปี 2024 และหนึ่งในนั้นที่มีการพัฒนาอย่างแน่นอนก็คือ Ranger และ Everest เจนเนอเรชั่นใหม่

ซึ่งการที่ Ford Ranger และ Ford Everest จะได้รับขุมพลังปลั๊กอินไฮบริดนั้นเป็นส่วนหนึ่งของแผนการนำเสนอผลิตภัณฑ์ของ Ford of Europe ที่ต้องการจำหน่ายผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดภายในปี 2030 โดยเฉพาะในช่วงกลางปี 2026 ทางบริษัทฯ จะต้องมีผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฟฟ้า หรือปลั๊กอินไฮบริด “ทุกรุ่น” ที่จำหน่ายเฉพาะในยุโรป

Ford

สำหรับรายละเอียดขุมพลังแม้จะยังไม่เปิดเผย แต่มีความเป็นไปได้สูงที่จะใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 2.3 ลิตร ที่พ่วงด้วยระบบปลั๊กอินไฮบริด จนคาดว่าอาจจะรีดสมรรถนะสูงสุดถึง 362 แรงม้า แรงบิด 680 นิวตันเมตร ส่วนประสิทธิภาพการบริโภคน้ำมันอาจจะน้อยถึง 3.0 ลิตร / 100 กม. ก็เป็นได้

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ฟอร์ด เรนเจอร์ และเอเวอเรสต์ ขุมพลัง PHEV เจนเนอเรชั่นใหม่นั้นดูเหมือนว่าจะประเดิมทำตลาดเฉพาะในยุโรปก่อน ส่วนทิศทางการจำหน่ายในภูมิภาคอื่นนั้น ทางโฆษกได้เผยว่า “เราทราบดีว่าผู้บริโภคชาวออสเตรเลียมีความต้องการที่จะซื้อ EV และรถยนต์ไฮบริดเพิ่มขึ้น แต่ยังเร็วเกินไปที่จะพูดถึงผลกระทบของการกระจายผลิตภัณฑ์ Ford of Europe จะมีต่อตลาดอื่น ๆ ในต่างประเทศรวมถึงออสเตรเลียด้วย”

Ford
Ford Explorer PHEV

ซึ่งเป็นไปได้ว่าการจะผลิตรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดสำหรับจำหน่ายในภูมิภาคอื่นนั้นก็จะขึ้นกับความพร้อมของโรงงานผลิตชุดระบบขับเคลื่อนแบบใหม่ด้วย จึงคาดว่าอาจจะยังคงทำตลาดจำกัดประเทศก่อนเพื่อศึกษาเทคโนโลยีและประสิทธิผลทางการตลาด รวมถึงการวางแผนจัดตั้งแผนกผลิตและประกอบชุดระบบขับเคลื่อนปลั๊กอินไฮบริดจากรถยนต์ที่ผลิตในปัจจุบัน ทั้ง Fusion, Escape และ Explorer รวมถึงรถบางรุ่นในยุโรป จนสามารถกระจายความรู้และเทคโนโลยีสู่โรงงานท้องถิ่นอื่น ๆ ตามลำดับต่อไป

เครดิตข้อมูลจาก carexpert.com.au และ ford.com