Nissan ประกาศเปิดตัว All-New Nissan Qashqai ครอสโอเวอร์เจนเนอเรชั่นที่ 3 สานต่อความสำเร็จในตลาดยุโรปด้วยรูปลักษณ์ใหม่ เทคโนโลยีขุมพลัง e-POWER ใหม่ที่ให้คุณได้สัมผัสการขับเคลื่อนด้วยขุมพลังไฟฟ้าในกำลังที่สูงขึ้นกว่ารถยนต์ไฮบริดรุ่นอื่น ๆ และเทคโนโลยี ProPilot เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดเพิ่มความอุ่นใจสำหรับขับขี่ในเมือง
Nissan Qashqai มาพร้อมกับภายนอกที่ดีไซน์ใหม่ที่สะท้อนความล้ำสมัย ดุดัน และเฉียบคมยิ่งขึ้น ด้วยกระจังหน้า V-Motion ที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม, ไฟหน้า Matrix LED พร้อมไฟส่องกลางวัน LED Daylight ทรงบูมเมอแรงแบบใหม่, เส้นสายตัวถังดีไซน์ใหม่ พร้อมไฟท้าย LED และกันชนท้ายดีไซน์ทันสมัยยิ่งขึ้น รวมถึงยังได้รับการขยายซุ้มล้อ เพื่อรองรับล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้วได้อีกด้วย แต่ถึงกระนั้นมิติตัวถังก็ได้รีบการปรับใหม่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัดอันเป็นผลมาจากการใช้แพลตฟอร์ม CMF-C ของ Alliance
ด้านสีตัวถังจะมีให้เลือกทั้งสีโมโนโทน 11 สี และสีทูโทนหลังคาสีดำอีก 5 สี เป็น 16 สี
สำหรับภายในนั้นได้รับการปรับดีไซน์ใหม่หมดจด ที่ผสมผสานทั้งความหรูและความล้ำสมัยและให้ประสิทธิภาพการออกคำสั่ง หรือการควบคุมรถทำได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น อาทิ เรือนไมล์จอดิจิตอลความละเอียดสูงขนาด 12.3 นิ้ว, จอ Head-Up Display ขนาดใหญ่ถึง 10.8 นิ้ว, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นดีไซน์ใหม่
ระบบความบันเทิงจะได้รับจออินโฟเทนเมนต์ขนาด 9 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ NissanConnect, Android Auto และ Apple CarPlay ผ่านบลูทูธ, ระบบเชื่อมต่อ WIFI รองรับการเชื่อมต่อสูงสุด 7 เครื่อง, พอร์ท USB และปลั๊กไฟสำหรับชาร์จอุปกรณ์ ขณะเดียวกันในบางเกรดก็จะได้รับแท่นชาร์จสมาร์ทโฟนไร้สายด้วย เป็นต้น
Nissan Qashqai โฉมใหม่นี้ มาพร้อมพื้นที่บรรทุกสัมภาระท้ายที่มีความกว้างขวางไม่แพ้พื้นที่โดยสาร ด้วยแพลตฟอร์มใหม่นี้ส่งผลให้มีความจุห้องสัมภาระท้ายเพิ่มอีก 50 ลิตร แถมสามารถปรับพื้นที่บรรทุกได้ตามต้องการ นอกจากนี้ ประตูโดยสารด้านหลังก็สามารถเปิดได้กว้างกว่า 90 องศา ที่ช่วยให้เด็กทารก หรือเด็กเล็กสามารถเข้าไปนั่งบนคาร์ซีทได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น
Nissan Qashqai จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ไฮบริด และเทคโนโลยี e-POWER ใหม่ล่าสุด ที่ถูกพัฒนาให้รองรับสำหรับรถยนต์ขนาดใหญ่โดยเฉพาะ เริ่มจากรุ่นไฮบริดแบบ Mild-Hybrid ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 1.3 ลิตร DiG-T พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า ให้สมรรถนะสูงสุด 138 – 156 แรงม้า ระบบส่งกำลังจะมีทั้งเกียร์ธรรมดา 6 สปีด กับเกียร์ Xtronic CVT ให้เลือก
กับเทคโนโลยีเครื่องยนต์ e-POWER ที่ทำงานร่วมกันระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้า 187 แรงม้า สำหรับขับเคลื่อนล้อหลัก โดยที่มีเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร เป็นตัวปั่นไฟฟ้า โดยมีสมรรถนะสนับสนุนที่ 154 แรงม้า รวมถึงเทคโนโลยี e-POWER นี้ ยังให้แรงบิดสูง และอัตราเร่งที่ดีกว่ารถยนต์ไฮบริดแบบเดิมของคู่แข่ง ในขณะที่รักษากำลังเครื่องยนต์ที่สูงในช่วงรอบต่อนาทีต่ำ
และเฉพาะในรุ่น e-POWER จะได้รับเทคโนโลยี e-Pedal ที่จะช่วยเร่งความเร็ว หรือเบรกได้ง่าย ๆ เพียงแค่เหยียบแป้นเพียงแป้นเดียว เช่นเดียวกับ Nissan Leaf EV
สำหรับเทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่จะได้รับ ProPilot เวอร์ชันล่าสุด พร้อม Navi-link ที่สามารถเร่งความเร็วตามรถคันด้านหลังได้ในความเร็วที่กำหนด และจะช่วยชะลอจนถึงเบรกรถหากรถคันหน้าหยุดวิ่งในช่วงรถติดไฟแดง โดยหากรถจอดนิ่งน้อยกว่า 3 วินาที หรือรถด้านหน้าเคลื่อนตัวออกแล้ว ระบบจะควบคุมให้รถวิ่งได้อีกครั้ง
ProPilot เวอร์ชันล่าสุดนี้ยังทำงานร่วมกับเรดาร์ตรวจจับจุดบอด ที่จะช่วยควบคุมตำแหน่งพวงมาลัยโดยอัตโนมัติ รวมถึงการรับข้อมูลจากแผนที่ดาวเทียม และระบบตรวจจับป้ายจราจรเพื่อช่วยปรับความเร็วของรถให้เหมาะสม เป็นต้น
All-New Nissan Qashqai เตรียมวางจำหน่ายในยุโรปเร็ว ๆ นี้
เครดิตข้อมูลจาก global.nissannews.com