พาโก้ หรือ บมจ.เพรสซิเด้นท์ ออโตโมบิล อินดัสทรีส์ (PACO) เตรียมตัวเข้าระดมทุนในตลาด mai ไตรมาส 2 ปีนี้ หลัง ก.ล.ต. เริ่มนับหนึ่ง เผยรายได้ขายชิ้นส่วนอะไหล่แอร์รถยนต์ทดแทนเติบโตดี สวนทางเศรษฐกิจ
นายวรนันท์ ถาวรนันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ บริษัท เพรสซิเด้นท์ ออโตโมบิล อินดัสทรีส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “สำนักงานคณะกรรมการกำกับและตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้นับหนึ่งแบบไฟลิ่ง PACO แล้ว ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564 โดยบริษัทฯ มีแผนเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 260 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท หรือคิดเป็น 26% ของทุนจดทะเบียนหลัง IPO ภายในไตรมาส 2 ปีนี้ คาดว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างสูง”
“เนื่องจาก PACO เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนอะไหล่แอร์รถยนต์ทดแทนในตลาดชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ทดแทน (REM หรือ Aftermarket) ระดับนานาชาติ ที่มีความสามารถในการแข่งขันสูง มีส่วนแบ่งการตลาดในตลาดอะไหล่รถยนต์ทั่วโลก และคาดว่าปีนี้ เศรษฐกิจทั่วโลก และ เศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวเป็นผลดีต่อบริษัทฯ ที่มีผลประกอบการที่เติบโตอย่างมั่นคง และมีจุดแข็งด้านการผลิต ด้วยเทคโนโลยีระดับสูง มีผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง รองรับรถยนต์และรถบรรทุกทุกประเภท โดยการระดมทุนครั้งนี้ นอกจากเพื่อคืนหนี้สถาบันการเงินแล้ว ยังเป็นการเพิ่มสภาพคล่องในการขยายกิจการ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยคาดว่า PACO จะพร้อมเข้าระดมทุนในประมาณช่วงต้นไตรมาส 2 ปีนี้”
นายสมชาย เลิศขจรกิตติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพรสซิเด้นท์ ออโตโมบิล อินดัสทรีส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ PACO เป็น 1 ในผู้ผลิตชิ้นส่วนอะไหล่แอร์รถยนต์ทดแทนชั้นนำของไทยมาอย่างต่อเนื่องกว่า 30 ปี โดยมีผลิตภัณฑ์หลัก คือ คอยล์ร้อน (Condenser) และคอยล์เย็น (Evaporator) โดยเป็นผู้นำในตลาดอะไหล่รถยนต์ทดแทน (Aftermarket) ภายใต้แบรนด์ ‘PACO’ สำหรับรถยนต์หลากหลายประเภท ครอบคลุมทุกเซ็กเม้นท์ โดยมีสินค้ามากกว่า 2,600 รุ่น ครอบคลุมรุ่นรถยนต์ต่างๆ ทั่วโลก ประกอบกับมีแผนกวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์แอร์รถยนต์รุ่นต่าง ๆ ที่สามารถพัฒนาคุณภาพสินค้าให้เป็นที่ยอมรับระดับนานาชาติ ด้วยมาตรฐานสากล ISO 9001:2015 และส่งออกผลิตภัณฑ์ไปจำหน่ายทั่วโลก”
“โดยในช่วงครึ่งปีแรก 2563 PACO มีรายได้รวม 364 ล้านบาท ใกล้เคียงกับ รายได้รวม 370 ล้านบาทในงบครึ่งปีแรกปี 2562 และมีกำไรสุทธิ 46 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากกำไรสุทธิ 19 ล้านบาท ในงบครึ่งปีแรกปี 2562 เติบโตสูงถึง 141% สวนทางกับสภาวะเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมรถยนต์ในปีนี้”
“ขณะที่ปี 2562 บริษัทฯ มีรายได้รวม 694 ล้านบาท เติบโตจาก รายได้รวม 664 ล้านบาทในปี 2561 และมีกำไรสุทธิ 31 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก กำไรสุทธิ 29 ล้านบาท ในปี 2561 โดยรายได้หลักของ PACO เฉลี่ยในปี 2560-2562 แบ่งเป็นรายได้จากการขายในประเทศ 37% และรายได้จากการส่งออก 63% ซึ่งรายได้รวมของ PACO เติบโตสวนทางกับอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยที่ถดถอยลงตามจำนวนการผลิตรถยนต์และยอดจำหน่ายรถใหม่ในประเทศที่ลดลง ตามสภาวะเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง”
นายสมชาย เลิศขจรกิตติ ได้กล่าวแผนการขยายธุรกิจในปีนี้ โดย PACO จะใช้กลยุทธ์การสร้างเครือข่ายร้านอะไหล่แอร์รถยนต์ครบวงจรภายใต้แบรนด์ PACO Auto Hub (พาโก้ ออโต้ ฮับ) เพื่อสร้างแบรนด์ PACO ให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้ใช้รถยนต์ในประเทศ เพื่อเพิ่มยอดขายในประเทศและเสริมความแข็งแกร่งด้านช่องทางการจำหน่ายสินค้า และสร้างความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์แบรนด์ของคนไทย
โดยตั้งเป้าหมายจะมีร้าน PACO Auto Hub จำนวน 200 สาขาภายในปีนี้ จากปัจจุบันได้เปิดไปแล้วกว่า 100 สาขา ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยภายในร้านจะจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอยล์ร้อนและคอยล์เย็นแบรนด์ PACO เป็นหลัก และมีสินค้าอื่นๆ อาทิเ ท่อน้ำยาแอร์ น้ำยาแอร์ เพื่อบริการลูกค้าแบบครบวงจรในที่เดียว (One-Stop Solution)