Ford เปิดตัว F-150 Raptor ซูเปอร์ทรัคโฉมใหม่ล่าสุดที่สานต่อความแกร่งและความแรงด้วยแรงบันดาลใจจากรถแข่งออพโรดสมรรถนะสูง Baja 1000 ที่ให้ประสิทธิภาพการขับขี่แบบออฟโรดได้ดีกว่าเดิม ยกระดับเทคโนโลยีอันทันสมัยใหม่ ๆ มากมาย
เริ่มจากการออกแบบภายนอกที่ได้แรงบันดาลใจจาก “เครื่องบินขับไล่” โดยได้ทำการปรับปรุงต่อยอดจาก F-150 เจนเนอเรชั่นที่ 14 ประกอบไปด้วยฝากระโปรงโดมพาวเวอร์ พร้อมช่องระบายความร้อน, กระจังหน้าแบบรมดำ, ที่ออกแบบให้รับกับโคมไฟหน้าเป็นแนวเดียวกัน และทั้งกระจังหน้ากับไฟหน้าก็ได้ออกแบบให้มีความลงตัวกับกันชนหน้าและไฟตัดหมอก, บังโคลนล้อหน้าที่กว้างขึ้น
สำหรับส่วนท้ายรถมาพร้อมไฟท้ายดีไซน์ใหม่, ป้ายโลโก้ท้ายรถขนาดใหญ่, กันชนท้ายเหล็กแข็งแรงสูงพร้อมราวบันได และมีท่อไอเสียคู่ นอกจากนี้ทางบริษัทฯ จะมีออพชั่นไฟสปอร์ตไลท์แบบฝังในกันชนหน้าให้ได้ซื้อเพิ่มเติมด้วย
ภายในได้รับการปรับดีไซน์ใหม่ เสริมชิ้้นส่วนเพิ่มความแข็งแกร่ง ควบคู่กับการบรรจุเทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่ใหม่ ๆ มากมาย เพื่อรองรับการขับขี่แบบออฟโรดโดยเฉพาะ โหมดการขับขี่ 7 โหมด ที่จะปรับควบคุมระบบขับเคลื่อนตั้งแต่เครื่องยนต์ เกียร์ และชุดช่วงล่างให้เหมาะสมตามภูมิประเทศ ได้แก่ ได้แก่ Slippery, Tow / Haul, Sport, Normal, Off Road, Baja และ Rock Crawl
รวมถึงช่วยลดความยุ่งยากในการขับขี่ และเพิ่มความสะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยการรวมระบบเร่งความเร็วและเบรกไว้ในแป้นคันเร่ง ซึ่งมีหลักการทำงานง่ายอย่างกดแป้นเพื่อเดินหน้า และปล่อยเพื่อหยุด, Trail Control, Cruise Control, กล้อง 360 องศา เป็นต้น
สำหรับขุมพลังจะมาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน Ecoboost V6. ความจุ 3.5 ลิตร ทวินเทอร์โบ ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ที่ได้รับการบรรจุนวัตกรรมสมัยใหม่ ซึ่งเครื่องยนต์ใหม่นั้นจะมีอัตราส่วนกำลังอัดที่ 10.5 : 1 พร้อมพัดลมกำลังสูงสำหรับระบายความร้อน ส่วนสมรรถนะยังไม่เปิดเผย
ระบบไอเสียแบบแอคทีฟพร้อมท่อ X ในตัว ที่ช่วยสร้างเสียงอันทรงพลังของท่อไอเสียได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะในโหมด Sport และ Baja และถังน้ำมัน 36 แกลลอน ที่จะช่วยให้ตัวรถสามารถวิ่งได้ไกลราว ๆ 804 กม. เลยทีเดียว
ส่วนระบบส่งกำลังจะได้รับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด แม้สมรรถนะจะยังไม่ถูกเปิดเผย แต่คาดว่าสมรรถนะจะยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนระบบล็อกเฟืองท้ายอิเล็กทรอนิกส์ กับเฟืองหน้าลิมิตเต็ดสลิป Torsen นั้นจะเป็นออพชั่นมาตรฐานให้กับรถรุ่นนี้
Ford F-150 Raptor มาพร้อมโครงสร้างแบบขั้นบันไดที่ผลิตด้วยเหล็กกล้าขึ้นรูปทรงท่อสี่เหลี่ยม พร้อมออกแบบตำแหน่งจุดยึดช่วงล่างต่าง ๆ ที่มีความแข็งแรงสูง พร้อมติดตั้งระบบกันกระแทกที่พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษ
โดยเฉพาะระบบกันสะเทือนหลังแบบ 5-Link และสปริงเหล็ก ที่พัฒนาขึ้มาใหม่ รวมถึงรักษาตำแหน่งของเพลาหลังได้ดียิ่งขึ้นด้วยโครง Panhard rod และสปริงยาว 24 นิ้ว ซึ่งยาวที่สุดในกลุ่ม
ควบคู่กับการติดตั้งชุดโช้คอัพ Fox Live Valve ใหม่ล่าสุด ที่มีประสิทธิภาพการปรับหน่วงที่ไวต่อตำแหน่ง ด้วยท่อขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 3.1 นิ้ว เต็มไปด้วยของเหลวแรงเสียดทานต่ำ พร้อมทั้งวาล์วที่สามารถปรับควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์แบบใหม่ ที่ช่วยเพิ่มความนุ่มนวลต่อการขับขี่ได้ดียิ่งขึ้น โดยได้พิสูจน์ประสิทธิภาพลดการกระแทกเมื่อวิ่งบนทะเลทรายด้วยความเร็วสูงได้ถึง 1,000 ปอนด์/มุม
และมาพร้อมกับเซ็นเซอร์ระบบกันสะเทือนใหม่ ที่สามารถควบคุมอัตราการยุบและคืนตัวแปรผันตามความเร็วได้อย่างอิสระ โดยสามารถตรวจจับและตอบสนองได้มากถึง 500 ครั้ง/วินาที
เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของฟอร์ด ที่จะนำเสนอยางขนาด 35 หรือ 37 นิ้ว ใน Ford F-150 Raptor ที่ติดตั้งจากโรงงาน ไม่ต้องคัสตอมเอง ด้วยยางขนาด 37 นิ้ว จึงทำให้มีความสูงใต้ท้องรถสูงถึง 33.27 ซม. พร้อมมุมไต่ – มุมจาก – มุมคร่อม อยู่ที่ 33.1 – 24.9 – 24.4 องศา ตามลำดับ
ส่วนยางขนาด 35 นิ้วนั้น มีความสูงใต้ท้องรถสูงถึง 30 ซม. พร้อมมุมไต่ – มุมจาก – มุมคร่อม อยู่ที่ 31 – 23.9 – 22.7 องศา ตามลำดับ ซึ่งด้วยการรองรับยางล้อรถที่หนา จึงทำให้ต้องติดตั้งล้ออัลลอยขนาดเล็ก โดยล้อหน้าขนาด 14 นิ้ว และล้อหลัง 15 นิ้ว
Ford F-150 Raptor เตรียมเปิดจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาช่วงฤดูร้อนนี้ แถมมีข้อมูลยืนยันว่าจะมีการเปิดตัว Raptor R พร้อมเครื่องยนต์ V8 สมรรถนะจะมากกว่า 700 แรงม้า ให้แฟน ๆ ได้ลุ้นกันภายในปีหน้าเป็นต้นไปด้วย ซึ่งรายละเอียดอื่น ๆ จะได้รับการเปิดเผยเพิ่มเติมในลำดับต่อไป
เครดิตข้อมูลจาก carscoops.com