Mercedes-Benz เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุดภายใต้แบรนด์ EQ ด้วยรถคอมแพ็คครอสโอเวอร์สำหรับคนรุ่นใหม่อย่าง All-New Mercedes-EQA ต่อยอดพื้นฐานจาก GLA ให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่เล็กที่สุดของแบรนด์ แต่อัดแน่นด้วยฟีเจอร์ทันสมัยและความหรูหราที่น่าสัมผัส
โดย Mercedes-EQA ได้ประเดิมนำเสนอรุ่น EQA 250 มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าวางหน้า 190 แรงม้า แรงบิด 375 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหน้า พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 66.5 กิโลวัตต์
แม้ว่าจะยังไม่เผยผลการทดสอบจาก WLTP แต่คาดการณ์กันว่าอาจะสามารถวิ่งได้ไกลราว ๆ 426 กม./ชาร์จเต็ม 1 ครั้ง แต่มีข้อมูลผลการทดสอบจาก NEDC ได้เผยว่าสามารถทำได้ราว ๆ 486 กม./ชาร์จเต็ม 1 ครั้ง
นอกจากนี้จะมีแผนนำเสนอ EQA ระดับเรือธง ที่มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวsหน้า-หลัง ผสานด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4Matic ที่สามารถกระจายแรงบิดในแต่ละล้อได้อย่างเหมาะสม ให้สมรรถนะสูงสุด 268 แรงม้า พร้อมกับสามารถวิ่งได้ไกลกว่า 500 กม. โดยอ้างอิงจากผลการทดสอบของ WLTP
ด้านการชาร์จไฟใน EQA 250 มาพร้อม Onboard Charger 11 กิโลวัตต์ รองรับการชาร์จไฟฟ้ากระแสตรงมากสุด 100 กิโลวัตต์ หรือสามารถชาร์จจาก 10 – 80% ในเวลา 30 นาที
แม้จะใช้ตัวถังเดียวกับ GLA แต่ EQA ได้รับการออกแบบใหม่เพื่อบ่งบอกความเป็นรถยนต์ไฟฟ้าจากแบรนด์ EQ ด้วยกระจังหน้าแบบปิดทึบ ออกแบบให้รับกับไฟหน้า LED, ไฟท้าย LED, ดีไซน์กันชนหน้า-หลังใหม่ รวมถึงออกแบบล้ออัลลอยลายใหม่ เป็นต้น
สำหรับภายในก็ยังคงให้กลิ่นอายของ GLA แต่จะมีการปรับแต่งเล็กน้อยพร้อมฟีเจอร์สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ เช่น การตกแต่งชิ้นส่วนโลหะและแสงรอบห้องโดยสารเป็นสีฟ้า รวมถึงนำเสนอจอดิจิตอลคู่ขนาด 10.25 นิ้ว พร้อมระบบ MBUX ในตัวท็อปสุด โดยที่รุ่นมาตรฐานจะได้จออินโฟเทนเมนต์ขนาด 7 นิ้ว แทน
โดยในจออินโฟเทนเมนต์จะมีฟีเจอร์ Navigation with Electric Intelligence สำหรับค้นหาเส้นทางจุดหมายที่ใกล้ที่สุด ไปจนถึงแสดงตำแหน่งพื้นที่ที่มีสถานีชาร์จที่ใกล้ตัวคุณ พร้อมกับตอบสนองและแจ้งรายละเอียดสภาพจราจรและป้ายจราจรแบบเรียลไทม์
ด้านพื้นที่บรรทุกสัมภาระท้ายความจุมาตรฐานจะอยู่ที่ 435 ลิตร แต่เมื่อพับเบาะหลังทั้งหมด จะสามารถเพิ่มความจุสูงสุดถึง 1,320 ลิตร
ประกอบกับ Mercedes me Charge จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเข้าถึงเครือข่ายสถานีชาร์จไฟ AC และ DC ที่ได้มาตรฐาน 450,000 จุดใน 31 ประเทศรวมถึง Ionity network ในยุโรป
สำหรับชุดช่วงล่าง เริ่มจากระบบกันสะเทือนล้อหน้าจะได้รับสปริงเหล็กเป็นออพชั่นมาตรฐาน แต่สามารถเลือกเป็นแบบโช้คอัพปรับได้เป็นออพชั่นเสริม
สำหรับระบบความปลอดภัยไฮไลท์เด็ดของรถรุ่นนี้คือการทำงานผสมผสานระหว่างเรดาห์ กล้อง และเซ็นเซอร์ที่กระจายถึง 360 องศา ควบคู่กับกล้องหน้าพิสัยไกล ที่จะทำหน่าที่ประเมินสภาพถนน และวัตถุตรงหน้า และสามารถรองรับการตรวจจับคนเดินเท้า นักปั่นจักรยาน
เพื่อเปิดระบบความปลอดภัยทั้งในระหว่างขับขี่ และตรวจพบสิ่งผิดปกติกระทันหัน เช่น ระบบเบรกอัตโนมัติ, ระบบควบคุมรถให้อยู่ในช่องเลน เป็นต้น
Mercedes-EQA โฉมใหม่ จะเริ่มวางจำหน่ายในยุโรปช่วงฤดูใบไม้ผลิ สนนราคาเริ่มต้นที่ 38540 ยูโร หรือราว ๆ ล้านบาท
เครดิตข้อมูลจาก carscoops.com
