Aprilia ประกาศปรับโฉม 2021 V4 Series เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจยิ่งขึ้น ทั้งการปรับปรุงเครื่องยนต์ เฟรมรถ อัปเดทฟีเจอร์ใหม่ รวมถึงบุคลิกใหม่ ทั้ง RSV4 และ Tuono V4
เริ่มจาก Aprilia RSV4 รุ่นปรับโฉมใหม่นี้ ได้รับการยกระดับด้วยเทคโนโลยีจาก MotoGP เพื่อมอบสมรรถนะ ตำแหน่งท่านั่ง และการควบคุมที่ดีกว่าเดิม
โดย RSV4 โฉมปี 2021 ได้อัปเกรดความจุเครื่องยนต์ขนาด 1,077 ซีซี เป็น 1,099 ซีซี 214 แรงม้า พร้อมปรับปรุงระบบไอเสียใหม่เพื่อเค้นแรงบิดสูงขึ้น แม้จะไม่ได้เผยตัวเลขทางเทคนิคเต็ม ๆ แต่เครื่องยนต์นี้ผ่านมาตรฐานไอเสีย Euro5 แล้ว
ตัวรถได้ปรับปรุงสวิงอาร์มใหม่ ที่มีน้ำหนักเบาลงกว่าเดิม พร้อมเสริมความแข็งแรงส่วนล่างเพื่อลดการบิดงอ และยังได้ออกแบบตำแหน่งที่วางเท้า ถังน้ำมัน และเบาะนั่งแบบใหม่เพื่อการผ่อนคลายยิ่งขึ้น
ปรับดีไซน์แฟริ่งหน้าใหม่ที่ให้ส่วนปีกเป็นส่วนหนึ่งของแฟริ่งหน้าเนื้อเดียวกันโดยไม่ได้ติดตั้งแยกเสริม ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพแอโร่ไดนามิกดีขึ้น เพิ่มความสเถียรภาพในการขับขี่ด้วยความเร็วสูง และทนทาน น้ำหนักเบา
ระบบไฟ Full LED รอบคัน, เรือนไมล์จอ TFT ที่ใหญ่ขึ้น แสดงข้อมูลชัดเจนกว่าเดิม, Marelli ECU ใหม่และเซ็นเซอร์วัดองศาการเอียง IMU หกแกน, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี, ระบบป้องกันล้อหน้ายก, Multi-level Engine Braking Control, โหมดขับขี่ 6 โหมด แบางเป็นโหมดสนามแข่ง 3 โหมด, คัสตอม 2 โหมด และบนถนน 1 โหมด เป็นต้น
สำหรับรุ่นท็อปสุดอย่าง RSV4 Factory จะได้รับออพชั่นเพิ่มเติมอย่างล้ออะลูมิเนียมฟอร์จ, โช้คอัพ Öhlins Smart EC 2.0 กึ่งแอคทีฟ และชุดคาลิเปอร์เบรกจาก Brembo Stylema รวมถึงสีตัวถังที่มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Aprilia Black กับ Lava Red ขณะที่รุ่นมารฐาน จะมีเฉพาะแค่สี Dark Losail
สำหรับ Aprilia Tuono V4 รุ่นปรับโฉมใหม่นี้ จะมีรายละเอียดการปรับโฉมที่คล้ายคลึงกับ RSV4 แต่รถรุ่นนี้ถูกออกแบบเพื่อรองรับการขับขี่บนท้องถนนและออกทริปทางไกล โดยหลัก ๆ จะมีการปรับปรุงแฟริ่งหน้า, สวิงอาร์ม, ถังน้ำมัน และตำแหน่งที่วางเท้าใหม่
รวมถึงจอ TFT ใหม่, ระบบไฟ LED รอบคัน พร้อมไฟ Bending Lights, โหมดขับขี่ 6 โหมด แบ่งเป็นโหมดสนามแข่ง 2 โหมด กับ 1 โหมดคัสตอมสำหรับลงสนาม ที่สามารถตั้งค่าเครื่องยนต์ ระบบควบคุมการทรงตัวและ ABS ได้ตามต้องการ ปิดท้ายด้วยโหมดบนถนน 3 โหมด
สำหรับเครื่องยนต์ V4 ในรุ่นนี้จะมีเฉพาะความจุ 1,077 ซีซี สมรรถนะ 173 แรงม้า แรงบิด 89 ปอนด์/ฟุต แต่ถูกปรับปรุงให้ผ่านมาตรฐานไอเสีย Euro5 แล้ว
เช่นเคย Tuono V4 จะมีให้เลือกทั้งรุ่นมาตรฐาน พร้อมสีตัวถังสีเทา หรือสีขาวให้เลือก และ Factory ซึ่งรุ่นท็อปนี้จะได้โช้คอัพ Öhlins Smart EC 2.0 กึ่งแอคทีฟ พร้อมอุปกรณ์เสริมมากมาย และมีตัวถังสีทูโทนดำ-แดง เท่านั้น
สำหรับราคาจำหน่ายทุกรุ่น และข้อมูลเต็ม ๆ จะเผยเพิ่มเติมในลำดับถัดไป