“เบญจเพส” คืออะไร และทำไมใครๆ ก็เตือนให้ระวัง คำว่า เบญจ แปลว่า ห้า และคำว่า เพส แปลว่า ยี่สิบ ดังนั้น “เบญจเพส” จึงแปลว่า ยี่สิบห้า อันเป็นความเชื่อมาตั้งแต่โบราณว่า วัยเบญจเพส หรือเมื่ออยู่ในช่วงอายุ 25 ปี มักจะเกิดเรื่องร้ายแรงหรือเกิดเหตุการณ์ที่เป็นจุดเปลี่ยนในชีวิต และหากเป็นช่วงที่ดวงตก ก็ยิ่งจะทำให้คนๆ นั้นเจอเคราะห์กรรมหนัก MTHAI จึงนำ วิธีแก้เคล็ดวัยเบญจเพส ที่ไม่ควรพลาดมาฝากกันค่ะ
ดังที่กล่าวมาข้างต้นแล้วว่า ในวัย 25 ปีจะเป็นช่วงดวงตกที่ต้องระวัง หากแต่ในทางโหราศาสตร์ ระบุว่า วัยเบญจเพส จะวนมาครบรอบให้เราต้องพบเจอในทุกๆ 12 ปี ซึ่งเป็นช่วงอายุครบรอบดาวพฤหัสบดี ซึ่งคนเราจะครบเบญจเพสใน 5 ช่วงอายุดังต่อไปนี้
ช่วงอายุ 12 ปี ย่าง 13 ปี
ช่วงอายุ 24 ปี ย่าง 25 – 26 ปี
ช่วงอายุ 36 ปี ย่าง 37 ปี
ช่วงอายุ 48 ปี ย่าง 49 ปี
ช่วงอายุ 60 ปี ย่าง 61 ปี
ซึ่งช่วงอายุ 25 ปี คือช่วงที่ดวงชะตาตกและมีเกณฑ์จะได้รับเคราะห์ที่รุนแรงที่สุด ถือเป็นอาถรรพ์เบญจเพสที่ร้ายแรงที่สุด โดยต้องพึงระวังตั้งแต่ ช่วงอายุ 24 ย่าง 25-26 ปี
เรื่องร้ายที่ต้องระวัง ตามวันเกิด
คนเกิดวันอาทิตย์ – ในวัยเบญจเพส ต้องระวังเรื่องการเกิดคดีความ การถูกใส่ร้ายป้ายสี เสียทรัพย์และระวังในรื่องของสุขภาพ แต่ช่วงครึ่งปีหลังเป็นต้นไป เหตุการณ์ร้ายๆ จะเริ่มคลี่คลายและเบาบางลง
คนเกิดวันจันทร์ – ในวัยเบญจเพสมักเกิดความวุ่นวายในเรื่องคนรัก หากยังไม่มีคนรัก ก็มักมีปัญหาในเรื่องของความรักเสมอ
คนเกิดวันอังคาร – ในวัยเบญจเพส ต้องระวังเรื่องอาการเจ็บป่วย หรืออาจเกิดอุบัติเหตุจนถึงขั้นเข้ารับการผ่าตัด
คนเกิดวันพุธ (ทั้งพุธกลางวันและพุธกลางคืน) – เมื่อเข้าสู่วัยเบญจเพส ในช่วงครึ่งปีแรก มักต้องเจอกับความเหน็ดเหนื่อยหรือเกิดความผิดพลาดในเรื่องของงานอยู่เสมอ
คนเกิดวันพฤหัสบดี – เมื่อเข้าสู่วัยเบญจเพส ต้องระวังเรื่องอุบัติเหตุมากเป็นพิเศษ ตั้งแต่อุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ ไปจนถึงอุบัติเหตุใหญ่ๆ
คนเกิดวันศุกร์ – ในวัยเบญจเพส ต้องระวังเรื่องของคดีความ การขึ้นโรง ขึ้นศาล และต้องระวังเรื่องเงินขาดมือ การเงินขัดสน
คนเกิดวันเสาร์ – ในวัยเบญจเพส ต้องระวังเรื่องชู้สาว หากใครยังโสด ก็ต้องระวังคนที่เข้ามาให้ดีๆ เพราะอาจจะกลายเป็นมือที่สามโดยไม่รู้ตัว
วิธีแก้เคล็ดวัยเบญจเพส
1.ทำบุญสะเดาะเคราะห์เสริมดวง เชื่อว่าจะช่วยเสริมดวง ผ่อนเรื่องร้ายกลายเป็นดีได้
2.ไหว้ขอพรพระพรหม ช่วยให้สำเร็จเรื่องงาน โดยเฉพาะคนที่ตกงาน ให้ไปกราบขอพรกับท่านได้
3.บริจาคเลือดทุก 3-6 เดือน เป็นการแก้เคล็ดเรื่องสุขภาพและอุบัติเหตุ
4.บริจาคโลงศพ จะช่วยผ่อนเคราะห์จากหนักให้เป็นเบา
5.บริจาคให้โรงพยาบาลหรือมูลนิธิเกี่ยวกับสุขภาพต่างๆ เชื่อกันว่าจะช่วยเสริมในเรื่องสุขภาพ
6.หมั่นสวดมนต์ นั่งสมาธิเป็นประจำ เป็นการช่วยเพิ่มสมาธิและสติให้อยู่กับตัวมากขึ้น
วิธีแก้เคล็ดวัยเบญจเพสตามวันเกิด
วันอาทิตย์ – ควรทำบุญไหว้พระที่วัดใกล้ๆ น้ำ เช่น วัดหลวงพ่อโสธร เป็นต้น กราบไหว้บูชาพระพุทธชินราช หรือทำบุญกับโรงพยาบาลสงฆ์
วันจันทร์ – ควรทำบุญไหว้พระองค์ใหญ่ เช่น วัดโพธิ์ และควรสร้างบุญกุศลด้วยการสร้างพระอุโบสถ หรือสร้างโรงพยาบาล
วันอังคาร – ควรเดินทางไปกราบหลวงปู่หรือหลวงพ่อที่เคารพ เพื่อฟังเทศน์และสนทนาธรรมกับท่าน นอกจากนี้ยังควรบอกบุญและพบปะผู้คนเพื่อแสวงบุญ ถือเป็นโอกาสเสริมดวงทางการเงินสำหรับคนวันอังคารอีกด้วย
วันพุธ (กลางวัน) – ควรไหว้บูชาขอพรท้าวเวสสุวรรณ และควรทำบุญโดยการถวายหลอดไฟและเครื่องใช้ไฟฟ้าแก่วัดหรือโรงเรียน หรือบริจาคเครื่องมือแพทย์ให้แก่โรงพยาบาล
วันพุธ (กลางคืน) – ควรกราบไหว้บูชาพระโพธิสัตว์กวนอิม หรือองค์เทพที่เป็นสตรี เพื่อช่วยเสริมเรื่องการงาน
วันพฤหัสบดี – ควรทำบุญกับวัดพระอารามหลวง เน้นขอพรอธิษฐานในเรื่องความสำเร็จ และความเจริญก้าวหน้าในชีวิต
วันศุกร์ – ควรหาโอกาสไปสักการะพระธาตุสี่มุมเมือง ทางภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคอีสาน และภาคใต้ ควรทำบุญแก่ผู้พิการ เพราะจะทำให้การเงินราบรื่นไม่ติดขัด
วันเสาร์ – ควรขอพรพระแม่ลักษมี อธิษฐานขอทรัพย์และโชคลาภ นอกจากนี้ยังควรสร้างกุศลด้วยการบริจาคเสื้อผ้าจะเสริมชะตาได้
หากมองกันตามจริงแล้ว วัยเบญจเพส ไม่ใช่เรื่องน่ากลัวที่จะตกวิตกกังวลไปจนเกินกว่าเหตุ หากแต่ทว่า เป็นการเตือนให้พึงใช้ชีวิตอย่างมีสติ เพราะ สติ คือสิ่งสำคัญที่สุดในการใช้ชีวิตในทุกๆ จังหวะของลมหายใจ ไม่ใช่แค่เพียงแต่ในวัยเบญจเพสเท่านั้น เพื่อเป็นการที่จะไม่ประมาทในการใช้ชีวิตจนเกินไป ไม่ใช้ชีวิตเดินทางไปในที่เสี่ยง นอกจากนี้ ไม่ควรจิตตกจนเกินไป ให้คิดดี ทำดี พูดดีเข้าไว้ และหมั่นทำบุญ ทำทาน เพื่อฝึกการปล่อยวาง
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
ขอพรการงาน บริวารดีๆ ที่ ศาลเจ้าพ่อหนู ริมคลองบางลำพู