เวลาไปออกเดท หรือไปเที่ยวกับเพื่อนใหม่ หรือคนที่ไม่ค่อยสนิท พอคุยๆ ไปจะรู้สึกได้ว่า ความเงียบกำลังครอบงำบทสนทนานั้น เอาง่ายๆ ก็คือ ไม่รู้จะคุยอะไรต่อดี บางคนที่อัธยาศัยดีๆ หรือเป็นคนพูดเก่งอาจจะไม่ได้ประสบพบเจอปัญหานี้ แต่สำหรับน้องหลายๆ คน ต้องเคยเป็นแบบนี้แน่นอน และยิ่งกับเพื่อนต่างชาติด้วยแล้ว บางทีอาจจะเกิด Dead air (เดดแอร์) ได้บ่อยๆ เพราะต้องใช้เวลาในการคิดและแต่งประโยคนานไปอีก
สภาวะ Dead Air
เคยเป็นมั้ย ไม่รู้จะคุยอะไร?
งั้นลองมาดูประโยคที่สามารถเอาไปใช้เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา Dead air กันดีกว่า ก่อนจะมาดูประโยคขอแนะนำ Topic ที่ง่ายและสามารถคุยได้กับทุกๆ คน
Hobbies (งานอดิเรก)
เราอาจจะเลือกคุยใน topic นี้ก็ได้ เพราะการพูดถึงสิ่งที่เค้าทำตอนเวลาว่าง จะทำให้เราทราบความสนใจของคู่สนทนา และจะทำให้เรารู้ว่าจะต้องชวนคุยอะไรดี
ตัวอย่างคำถาม
What do you do in your free time? : คุณทำอะไรเวลาว่าง?
Do you play any musical instruments? : คุณเล่นเครื่องดนตรีได้มั้ย
Do you draw, paint or do art? : คุณวาดรูปหรือทำงานศิลปะมั้ย?
Are you into dancing? : ชอบเต้นมั้ย?
School (โรงเรียน)
หรือน้องๆ อาจจะเลือกคุยเรื่องที่เราคุ้นเคยก่อนก็ได้ เรื่องเรียนก็เป็นอีกหัวข้อที่ดีของการสนทนา
ตัวอย่างคำถาม
What do you study? : คุณเรียนอะไรหรอ?
What is your most favorite subject in school? : ชอบวิชาอะไรมากสุด?
Do you like studying there? : ชอบเรียนที่นั้นมั้ย?
What is your dream university? : มหา’ลัยที่คุณฝันอยากจะเข้าคือมหา’ลัยอะไร?
Travel (ท่องเที่ยว)
เรื่องท่องเที่ยวนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่ทำให้คุยกันได้เพลินๆ ไม่รู้จบเลยทีเดียว
ตัวอย่างคำถาม
What countries have you traveled to? : เคยไปเที่ยวประเทศไหนแล้วบ้าง?
Where in the world would you love to live most? Why? : ถ้าเลือกได้ อยากจะไปใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศไหน และทำไม?
What’s the worst thing that’s happened to you while traveling? : ประสบการณ์ที่แย่ที่สุดที่เจอตอนเดินทางคืออะไร?
Have you ever traveled by yourself? : เคยไปเที่ยวคนเดียวมั้ย?
Do you speak any other languages? : คุณพูดภาษาอื่นได้บ้างมั้ย
พอจะเห็นตัวอย่างกันไปบ้างแล้ว จริงๆ เรื่องที่เราสามารถเอาไปเป็นหัวข้อบทสนทนายังมีอีกหลายอย่าง อาจจะขึ้นอยู่กับความสนิทและความสนใจส่วนตัวอีกด้วย