การบ้าน ทบทวนบทเรียน ผลการเรียนดี วิธีฝึกฝนตัวเอง วิธีอ่านหนังสือ วิธีเพิ่มเกรด วิธีเรียนดี วิธีเรียนเก่ง เคล็ดลับการอ่านหนังสือ เคล็ดลับการเรียน เทคนิคการเรียน

10 วิธีเด็ดสำหรับวัยมัธยม ฝึกฝนตัวเองอย่างไร ให้ได้เกรดดีขึ้น

น้องๆ หลายคนยังแบ่งเวลากันไม่ค่อยเป็น ทำให้ช่วงใกล้สอบจะเจอปัญหาเดิมๆ คือทำคะแนนสอบไม่ดี เพราะอ่านหนังสือไม่ทัน ในขณะที่เพื่อนบางคนเขาสามารถทำคะแนนออกมาได้ดี ทั้งๆ ทีเรามี 24 ชั่วโมงใน 1 วันเท่ากัน แต่ก็ไม่ต้องน้อยใจไป วันนี้ทีนเอ็มไทยมีวิธีการแบ่งเวลาฝึกฝนตัวเอง ซึ่งสำคัญมากสำหรับวัยมัธยม…

Home / CAMPUS / 10 วิธีเด็ดสำหรับวัยมัธยม ฝึกฝนตัวเองอย่างไร ให้ได้เกรดดีขึ้น

น้องๆ หลายคนยังแบ่งเวลากันไม่ค่อยเป็น ทำให้ช่วงใกล้สอบจะเจอปัญหาเดิมๆ คือทำคะแนนสอบไม่ดี เพราะอ่านหนังสือไม่ทัน ในขณะที่เพื่อนบางคนเขาสามารถทำคะแนนออกมาได้ดี ทั้งๆ ทีเรามี 24 ชั่วโมงใน 1 วันเท่ากัน แต่ก็ไม่ต้องน้อยใจไป วันนี้ทีนเอ็มไทยมีวิธีการแบ่งเวลาฝึกฝนตัวเอง ซึ่งสำคัญมากสำหรับวัยมัธยม มาฝากกันนี้ ถ้าทำครบตามนี้ รับรองว่าเกรดน้องๆ จะดีขึ้น และมีเวลาทำอย่างอื่นได้มากขึ้นอีกด้วย

10 วิธีแบ่งฝึกฝนตัวเองอย่างไร
ให้ได้เกรดดีขึ้น

1. โน้ตสิ่งสำคัญที่ต้องทำในแต่วัน

เริ่มจากหาสมุดเล่มเล็กๆ พกพาสะดวก มา list สิ่งที่จะต้องทำในแต่ละวันเป็นข้อๆ เพื่อจัดระเบียบความคิดของเราก่อน โดยเอาเรื่องสำคัญไว้บนสุดแล้วไล่ลงมา หากเราทำงานสำเร็จตามเป้าที่เราลิสต์ไว้ อย่าลืมให้รางวัลกับตัวเองซะหน่อย ด้วยของกินแสนอร่อย หรือการ์ตูนเล่มโปรด

2. ทบทวนสิ่งที่ได้เรียนรู้วันต่อวัน

เชื่อว่าน้องๆ หลายคนเป็นกัน หลังจากเรียนเสร็จในแต่ละวัน ชอบปล่อยความรู้ให้ลอยละล่องไปกับอากาศ แล้วก็จดจำไม่ได้ ยิ่งปล่อยนานๆ นานเข้า ความรู้ก็จะยากขึ้นๆ ดังนั้น ในแต่ละวันควรมานั่งทบทวนบทเรียน ทำความเข้าใจอีกรอบ เสียเวลาแค่ 1 ชั่วโมง น้องๆ จะได้พื้นฐานวิชานั้นไปอย่างมั่นคง พอใกล้ถึงช่วงสอบก็ไม่ต้องหักโหมทบทวนหนัก

3. ทำ Short note แต่ละวิชา

เอาละ…ถึงเวลาการใช้ความคิดสร้างสรรค์มาผสมกับวิชาการสักหน่อย หาสมุดเล่มเล็กอีกสักเล่ม มาโน้ตแต่ละวิชา เอาเรื่องสำคัญที่ต้องท่องจำ อย่างสูตรต่างๆ ชื่อเฉพาะ หรือคำศัพท์ใหม่ๆ เขียนด้วยปากกาสีที่อ่านง่าย เห็นเป็นต้องสะดุดตา และอยากหยิบขึ้นมาอ่านตลอดเวลา เพื่อช่วยกระตุ้นตัวเอง

4. อย่าปล่อยเวลาว่างให้เสียเปล่า

น้องๆ ในกรุงเทพฯ บางคน ต้องเสียเวลาติดอยู่บนรถเป็นชั่วโมงๆ เพราะการจราจรอันหนาแน่น เสียเวลาไปเปล่าๆ กลับถึงบ้านก็มืดแล้ว หมดแรงทบทวนหนังสือ ดังนั้นในช่วงอยู่บนรถ หา Short note เล็กๆ ที่จดสิ่งที่ควรจำในแต่วิชา มาฝึกท่องวนไปในหัวให้เกิดความเคยชิน

5. หาเวลาฝึกสมาธิ

เด็กหลายคนเริ่มสมาธิสั้น ไม่สามารถนั่งอ่านหนังสือได้นานๆ เดี๋ยวต้องหันไปดูทีวี หยิบมือถือขึ้นมาเล่น ตอบแชทโซเชียล ทำให้อ่านหนังสือไม่จบ พาลไปนอนดึกเสียสุขภาพไปอีก ดังนั้นควรฝึกสมาธิด้วยการปิดเครื่องสื่อสาร โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ แล้วใช้เวลาอ่านหนังสืออย่างเต็มที่ วิชาละ 60 นาที และหาเวลาพักสักสิบนาทีแล้วเริ่มวิชาต่อไป ทำแบบนี้บ่อยๆ จะรู้ว่าตัวเองสามารถเข้าใจเนื้อหาที่อ่านได้ดีมากขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น น้องๆ สามารถปรับแต่ละวิชาตามเวลาและสถานการณ์ที่เหมาะสมได้ เพราะบางคนมีสมาธิมากตอนกลางวัน แต่ก็มีหลายคนที่ชอบความเงียบตอนกลางคืน

6. เมื่อเกิดความสงสัย ต้องหาคำตอบให้เคลียร์

เป็นไหมคะ เวลาเรียน หรืออ่านหนังสือ แล้วมีข้อสงสัยที่หาคำตอบไม่ได้ แต่ดันคิดว่ามันยากปล่อยผ่านไปละกัน สิ่งนี้ละคะที่เป็นตัวการให้น้องๆ ทำข้อสอบไม่ได้ เมื่อเจอปัญหาหรือข้อสงสัยควรยกมือถามครู หรือปรึกษาคุณครูหลังเลิกเรียนทันที เมื่อเราได้คำตอบ สมองจะทำการจดจำไปได้เอง

7. แบ่งเวลานอนให้พอ

อย่าหักโหมอ่านหนังสือมืดค่ำจนเลยเวลาที่ควรนอนไปนะคะ เพราะมันจะส่งผลเสียกับสมองของน้องๆ ทันที เมื่อเรานอนไม่พอ ร่างกายก็จะอ่อนเพลีย ไม่อยากทำอะไร สมองโล่งๆ และว่างเปล่า

8. เลิกนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง

เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยเริ่มอ่าน เดี๋ยวค่อยเริ่มทำ บอกตัวเองไปแบบนี้เรื่อยๆ หันมามองปฎิทินอีกทีก็ใกล้สอบเข้าไปแล้ว จะทำยังไงดีละทีนี้ ดังนั้นควรเริ่มต้นหยิบหนังสือขึ้นมาทบทวน เริ่มจากวิชาที่เราถนัดและชอบก่อน แล้วค่อยๆ เพิ่มเลเวลความยากของวิชาอื่นๆ

9. คุยเม้าส์กับเพื่อนให้เป็นเวลา

เดี๋ยวชีวิตวัยรุ่นจะไม่มีรสชาติ การคุยเม้าส์กับเพื่อนบ้างก็ดี แต่ควรมีขอบเขตเวลาสักหน่อย อย่าง ถ้าอยากจะเมาส์ขอให้โทรมาคุยได้หลังสองทุ่มนะ ใช้เวลาประมาณ 30-40 นาที เป็นต้น

10. เป้าหมายมีไว้พุ่งชน

หากระดาษมาเขียนเป้าหมายในชีวิต อยากเรียนต่อที่ไหน? ฝันอยากมีอาชีพอะไรในอนาคต? แปะไว้ที่กำแพงเลยค่ะ ท้อเมื่อไรก็หันไปมอง สร้างพลังและกำลังใจให้กับตัวเองว่าต้องทำให้ได้ ชีวิตเป็นของเรา เราควรทำสิ่งที่ตั้งใจไว้ให้สำเร็จ สู้ๆ ไม่มีอะไรยาก ถ้าเราได้ตั้งใจลงมือทำ