Korea University น้องแจน นิเทศศาสตร์ ประสบการณ์ชีวิต ภาษาเกาหลี มหาวิทยาลัยโคเรีย

แชร์ประสบการณ์ชีวิต “น้องแจน” กับการเรียนนิเทศศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเกาหลี

สำหรับใครที่ตั้งใจจะไปเรียนภาษาเกาหลีที่ประเทศเกาหลี แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะไปมหาวิทยาลัยไหนดี อยากรู้ประสบการณ์ชีวิตของเด็กไทยที่เคยไปเรียนที่นั้นเป็นอย่างไร เครียดไหม ยากขนาดไหน รวมไปถึงบรรยากาศในการเรียนเป็นอย่างไร ถ้าอยากรู้มาติดตามกันเลย แชร์ประสบการณ์ชีวิต “น้องแจน” กับการเรียนนิเทศศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเกาหลี น้องแจน เรียนคณะ Media & Communication…

Home / CAMPUS / แชร์ประสบการณ์ชีวิต “น้องแจน” กับการเรียนนิเทศศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเกาหลี

สำหรับใครที่ตั้งใจจะไปเรียนภาษาเกาหลีที่ประเทศเกาหลี แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะไปมหาวิทยาลัยไหนดี อยากรู้ประสบการณ์ชีวิตของเด็กไทยที่เคยไปเรียนที่นั้นเป็นอย่างไร เครียดไหม ยากขนาดไหน รวมไปถึงบรรยากาศในการเรียนเป็นอย่างไร ถ้าอยากรู้มาติดตามกันเลย

แชร์ประสบการณ์ชีวิต “น้องแจน”
กับการเรียนนิเทศศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเกาหลี

(cems.org)

น้องแจน เรียนคณะ Media & Communication อยู่ที่มหาวิทยาลัยโคเรีย (Korea University) เรียกกันง่ายๆ ว่า “มีเดีย” คณะนี้จัดตั้งได้ 50 ปีนิดๆ เอง แต่ชื่อเดิมคือ “วารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน” แต่เพราะรูปแบบของสื่อเปลี่ยนไปเร็วมาก (ยกตัวอย่าง…สมัยนี้น้องๆหลายคนคงแทบจะไม่ได้อ่านหนังสือพิมพ์เลยใช่มะ ดูข่าวในเฟสบุคกันมากกว่า) ดังนั้นม.โคเรียก็เลยเปลี่ยนชื่อคณะให้เป็น “Media & Communication” ในปี 2010 เลยครอบคลุมทุกแขนงของสื่อเลยทีเดียว

(samoo.com)

คณะที่แจนเรียนอยู่เรียกว่า Media Hall ตึกแก้วเก๋ๆ แบบนี้ เป็นตึกสร้างใหม่สุดในมหาลัยเลยนะ อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินด้วย ข้างในมีล็อบบี้เก๋ๆ ให้นั่ง ชั้น 4 ก็มีโรงหนังด้วยนะเออ (โรงหนังนี้เป็นคลาสเรียนด้วยค่ะ เช่นพวกวิชาวิจารณ์ภาพยนตร์ ฯลฯ)

วิชาที่เรียนเป็นอย่างไรบ้าง?

เรียนเป็นทั้งภาษาเกาหลีและอังกฤษ (มีคอร์สที่สอนเป็นภาษาอังกฤษ โดยอาจารย์ที่จบจากอเมริกาเยอะมากๆ ถ้าเทียบกับคณะอื่น ประมาณเกือบครึ่งของวิชาทั้งหมดเลย) โดยมีวิชาบังคับของคณะทั้งหมด 3 ตัวคือ Introduction to Media Studies, Writing Practice for Media, Freshman Seminar ที่เหลือก็เลือกได้ แต่ต้องอย่าต่ำกว่าหน่วยกิตที่กำหนดนะ เดี๋ยวเรียนไม่จบเด้อ

ตารางนี้อธิบายคร่าวๆ ก็คือ ยูต้องเทควิชาบังคับของคณะ (Major Required) ทั้งหมด 6 หน่วยกิต (วิชาละ 3 หน่วยกิต มี 2 วิชาคือ Introduction & Writing ส่วน Seminar เป็นแค่ Pass / Fail) และวิชาเลือกของคณะ (Major Elective) ต้องเรียนให้มากกว่า 30 หน่วยกิต ก็คือประมาณ 10 คอร์สขึ้นไป ที่เหลือเป็นวิชาเลือกอิสระ (General Studies) ซึ่งต้องเรียนให้มากกว่า 30 หน่วยกิตขึ้นไปเช่นกัน

ตัวอย่างวิชาในคณะ

จะเห็นได้ว่ามีบางวิชาที่สอนเป็นภาษาอังกฤษ (English) เยอะพอสมควร คร่าวๆเลยคือ วิชาที่เรียนจะมีทั้ง เทคนิคการถ่ายภาพยนต์ การสื่อสารในหมู่คณะและองค์กร การวางแผนโฆษณา การถ่ายทำสารคดีและรายการโทรทัศน์ การทำแคมเปญ การสื่อสารทางการเมือง การทำมาร์เก็ตติ้ง ฯลฯ

บรรยากาศในการเรียน?

มีงานกลุ่มเยอะมากถึงมากที่สุด แทบจะทุกวิชาเลยที่ต้องมีงานกลุ่ม ถ้าคลาสไหนสอนเป็นภาษาอังกฤษก็จะมีนักเรียนแลกเปลี่ยนจากประเทศอื่นๆเยอะหน่อย (อเมริกา แคนาดา จีน ยุโรป ไรงี้) เวลาทำงานกลุ่มก็แล้วแต่ว่าจับกลุ่มเองหรืออาจารย์จัดให้ งานกลุ่มส่วนใหญ่จะให้วิจัย คือตั้งหัวข้อที่จะศึกษาแล้วออกแบบสอบถาม หรือไปสัมภาษณ์ หรือทำการทดลอง จากนั้นต้องทำ presentation หรือเขียนรายงาน งานกลุ่มที่ทำกับคนเกาหลี คนต่างชาติ คนจีน มีอุปสรรคและแง่คิดที่ต่างกัน ใครอยากฟังจะเล่าให้ครั้งหน้า (นะจ๊ะ)

เครียดไหม ยากเปล่า นักเรียนแข่งกันเรียนจริงหรือเปล่า?

ส่วนตัวแล้วคิดว่าเครียดน้อยกว่าที่เคยมองภาพไว้นะเพราะก่อนมามีคนมาบอกว่าเครียดมากๆ แข่งกันเรียนเอาเป็นเอาตาย คือมันก็จริง สังคมเกาหลีมีความแข่งขันสูงอยู่แล้ว แจนมองว่าตัวเองไม่ได้เป็นคนเกาหลี เลยมีมาตรฐานสำหรับตัวเองอีกแบบหนึ่ง ไม่ใช่นักเรียนเกาหลีทุกคนที่หวัง A+ ทุกวิชาหรอก บางคนเป็นสายชิว สายเอ็นจอยชีวิต ก็มีเยอะ แต่ว่าส่วนมากเขาหวังให้ได้เกรดดีที่สุด เพื่อจะได้สมัครงานในบริษัทใหญ่โตอย่างซัมซุง แอลจี จะได้ประสบความสำเร็จในชีวิต แนวคิดนี้มีเป็นพื้นฐานในสังคม ดังนั้นภาพที่เห็นโดยรวมก็จริงอยู่ที่จะตั้งใจเรียนแบบหักโหมกันเยอะ

ส่วนเรื่องที่ว่าเครียดไหม? ก็เครียดเยอะมากๆตอนช่วงใกล้สอบและทำงานกลุ่ม เพราะด้วยความที่เป็นคนต่างชาติก็ต้องสู้ๆเยอะหน่อย เครียดยิ่งกว่าเดิมช่วงฤดูหนาวเพราะมืดเร็วมาก หดหู่สุดๆ ส่วนวิชาเรียนยากไหม? อันนี้แล้วแต่ว่าเป็นวิชาไหน ถ้าเรียนเป็นภาษาอังกฤษก็แน่นอนว่าง่ายกว่าภาษาเกาหลีเยอะ บางวิชาให้งานยากๆก็มี หรือสั่งให้เขียนเปเปอร์ทุกอาทิตย์ หรือบางวิชาให้ดูหนังในคาบ เข้าไปหลับบ้างก็มี (อ่ะๆ ห้ามทำตาม) แล้วค่อยกลับบ้านเขียนรายงานส่ง แตกต่างกันไป

อ่ะไหนมารีวิววิชาที่เรียนกันหน่อย!

INTRODUCTION TO MEDIA STUDIES เรียนเกี่ยวกับแนวคิดเบื้องต้นเกี่ยวกับสื่อ เช่น Media & Feminism / Sexism/ Racism, Frankfurt School ฯลฯ เป็นวิชาบังคับนะเออ สอนเป็นภาษาเกาหลี ตอนนั้นเราเฟรชชี่ใสๆ เพิ่งเข้าไปเทอมแรก ความเงิบมาจริง แต่อาจารย์ใจดีให้หนังสือเป็นภาษาอังกฤษ สอนแบบopen book เขียนตอบเป็นภาษาอังกฤษได้ โชคเอกันไปฮะ

WRITING PRACTICE FOR MEDIA สอนเป็นภาษาเกาหลีอีกแล้ว พูดง่ายๆเลยคือ “เรียนเขียนข่าวเป็นภาษาเกาหลี” อันนี้ยากของจริง อาจารย์จะสอนเรื่องของแกรมม่า การสะกดคำ แล้วก็ให้ไปเขียนเกือบทุกอาทิตย์ มีงานกลุ่ม (แบ่งกันเขียน ซึ่งก็ลำบากลำบนมาก เพราะในทีมเป็นคนเกาหลี ก็ต้องมาช่วยเราขัดเกลาภาษา) ตอนสอบก็ให้ดูประกาศแล้วเขียนข่าวออกมา ใครสอบ TOPIK ระดับสูงและเขียนเก่งๆ อาจจะไม่ลำบากมากนะ

MEDIA AESTHETICS AND PRODUCTION THEORY คลาสนี้สอนเป็นภาษาอังกฤษ สนุกสนาน ดูหนัง ดูมิวสิควิดิโอ แล้วเรียนรู้เทคนิคมุมกล้อง วิธีตัดต่อและใช้เสียง รวมถึงการนำเสนอเรื่องราวผ่านกล้อง สอบเป็นข้อเขียนนะ ในห้องเน้นการถามตอบเยอะมากๆ

HUMAN COMMUNICATION สอนเป็นภาษาอังกฤษอีกแล้ว เรียนทฤษฎีเยอะมากๆ แต่เป็นเรื่องของความสัมพันธ์มนุษย์ เรื่องนิสัยของคน เรื่องการจัดการคนในบริษัท คนรอบตัว พ่อแม่ พี่น้อง เพื่อน แฟน กิ๊ก โอ๊ย สนุกมากๆ เป็นเนื้อหาที่เข้าใจง่ายและใช้จริงในชีวิต แต่ต้องจำพวกคำศัพท์และทฤษฎีเยอะหน่อย มีงานกลุ่มที่ยิ่งใหญ่มากคือให้ทำวิจัยแล้วพรีเซ้นท์ อาจารย์เป็นคนเกาหลีที่ไปเรียนต่ออเมริกา มีสตอรี่สนุกๆเล่าเสริมตลอด

ADVERTISING MANAGEMENT คอร์สนี้คือทำงานกลุ่มตลอดเทอมเลย เรียนไปทำงานกลุ่มไป ในแต่ละเทอมจะมีองค์กรที่มาสปอนเซอร์พร้อมว่าให้นักเรียนในคลาสวางแคมเปญโฆษณาให้ แล้วจัดเป็นการแข่งขัน แต่ละทีมก็ต้องนำเสนอ ถ้าถูกใจกรรมการก็ได้รางวัลจากองค์กรนั้น (และมีผลต่อเกรดด้วย เอบวกมาชัวร์) องค์กรที่เคยมาจัดก็เช่น เครือข่ายโทรคมนาคม KT, กรมการท่องเที่ยวโซล บางคนอาจจะบอกว่าเรียนเนื้อหาน้อย เน้นทำงาน ก็แล้วแต่ว่าจะชอบแบบไหน แต่งานกลุ่มโหดจริงเด้อ

MEDIA EFFECTS AND THEORIES เป็นคอร์สที่หลายคนอาจจะมองว่าน่าเบื่อ เพราะเรียนทฤษฎีล้วนๆเลย มีงานกลุ่ม งานเดี่ยว มาเต็ม อาจารย์โหดมาก เน้นความเป๊ะ แต่จริงๆใจดีและเอ็นดูนักเรียนต่างชาติมาก เนื้อหาการเรียนเกี่ยวกับผลที่สื่อมีต่อคนดู เช่นดูข่าวบันเทิงมากๆ จะทำให้คนสนใจการเมืองน้อยลงจริงไหม? ดูรูปไอจีนางแบบมากๆ จะทำให้ผู้หญิงอยากลดความอ้วนมากขึ้นจริงไหม? อะไรประมาณนี้ ส่วนตัวแล้วแจนชอบคลาสนี้ เพราะทำให้อธิบายสถานการณ์สื่อปัจจุบันได้เข้าใจ รวมถึงทำให้คิดถึงปัญหาและการปรับปรุงให้ดีขึ้นด้วย

แล้วสรุปแจนเรียนเอกอะไรคะเนี่ย?

ที่คณะมีเดียนี้ไม่ได้มีให้เลือกเอกการแสดง เอกโฆษณา หรืออะไรแบบนี้เลย สามารถเลือกที่อยากเรียนได้แต่ละเทอม แล้วก็พอขึ้นปีสองสามารถเลือกโทคณะอื่นได้ (เช่นคณะบริหาร คณะภาษาอังกฤษ คณะจิตวิทยา คณะออกแบบ ฯลฯ) แต่แจนไม่ได้เลือกเลยค่ะ ดังนั้นเรียนมีเดียมาเต็มๆ ตลอด

ถ้าใครอ่านมาจนถึงตอนนี้แล้วรู้สึกใช่มากๆ อยากรู้ข้อมูลเพิ่มขึ้น ให้ถามเข้ามากันได้เลย กลัวจะเขียนยาวจนเกินไปเดี๋ยวเบื่อโนะ ส่วนถ้าใครอ่านแล้วเริ่มรู้สึก เฮ้ย มันไม่ใช่เรา ก็อยากแนะนำให้ไปหาข้อมูลคณะอื่น มหาลัยอื่น แล้วลองดูเยอะๆ ว่าตัวเองจะเหมาะไหม เดี๋ยวขอตัวไปกินส้มตำก่อนเพราะเพิ่งถึงเมืองไทย รักน้องๆ ทุกคนผู้ล่าฝันแดนกิมจิค่ะ

ขอบคุณที่มาข้อมูลดีๆ จาก jannapas