22 มกราคม คำทักทาย คำทักทายประจำชาติ จอมพล ป.พิบูลสงคราม ประวัติศาสตร์ พระยาอุปกิตศิลปสาร วันนี้ในอดีต สวัสดี เรื่องน่ารู้

วันนี้ในอดีต 22 มกราคม ประกาศใช้ “สวัสดี” เป็นคำทักทายประจำชาติ

คำว่า “สวัสดี” ถือเป็นคำทักทายของคนไทย โดยเราจะใช้เมื่อแรกพบกัน หรือ เมื่อต้องการบอกลา ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานให้ความหมายของคำว่า “สวัสดี (สวัสดิ์) “ ว่าหมายถึง ความดี ความงาม ความเจริญรุ่งเรือง ค่ะ และทราบหรือไม่คะว่า วันที่…

Home / CAMPUS / วันนี้ในอดีต 22 มกราคม ประกาศใช้ “สวัสดี” เป็นคำทักทายประจำชาติ

คำว่า “สวัสดี” ถือเป็นคำทักทายของคนไทย โดยเราจะใช้เมื่อแรกพบกัน หรือ เมื่อต้องการบอกลา ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานให้ความหมายของคำว่า “สวัสดี (สวัสดิ์) “ ว่าหมายถึง ความดี ความงาม ความเจริญรุ่งเรือง ค่ะ และทราบหรือไม่คะว่า วันที่ 22 มกราคม 2486 คือวันประกาศใช้คำว่า “สวัสดี” เป็นคำทักทายประจำชาติครั้งแรก!! ด้วย

วันนี้ในอดีต 22 มกราคม 2486
ประกาศใช้ “สวัสดี”


ที่มาของคำว่า “สวัสดี”

พระยาอุปกิตศิลปสาร

โดยผู้ที่ริเริ่มใช้คำว่า “สวัสดี” คือ พระยาอุปกิตศิลปสาร (นิ่ม กาญจนาชีวะ) โดยพิจารณามาจากศัพท์ “โสตฺถิ” ในภาษาบาลี หรือในภาษาสันสกฤต โดยได้เริ่มใช้เป็นครั้งแรก ณ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขณะที่พระยาอุปกิตศิลปสาร (นิ่ม กาญจนาชีวะ) เป็นอาจารย์อยู่ที่นั่น หลังจากนั้น ในปี พ.ศ. 2486 จอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีในสมัยนั้นเห็นชอบให้ใช้คำว่า “สวัสดี” เป็นคำทักทายอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม 2486 เป็นต้นมา

จอมพล ป.พิบูลสงคราม

“สวัสดี” เป็นภาษาสันสกฤต มาจากคำว่า “สุ” เป็นคำอุปสรรค แปลว่า ดี งาม หรือ ง่าย และคำว่า “อสฺติ” เป็นคำกิริยาแปลว่า มี แผลง คำว่า “สุ” เป็น “สว” (สฺวะ) ได้เอา “อุ” เป็น “โอ” เอา “โอ” เป็น “สฺว” ตามหลักไวยากรณ์ แล้วสนธิกับคำว่า “อสฺติ” เป็น “สวสฺติ” อ่านว่า สะ-วัด-ติ แปลว่า “ขอความดีความงามจงมี (แก่ท่าน) “

พระยาอุปกิตศิลปสาร (นิ่ม กาญจนาชีวะ) ได้ปรับเสียงของคำว่า “สวสฺติ” ที่ท่านได้สร้างสรรค์ขึ้นให้ง่ายต่อการออกเสียงของคนไทย จากคำสระเสียงสั้น (รัสสระ) ซึ่งเป็นคำตาย มาเป็นคำสระเสียงยาว (ทีฆสระ) ซึ่งเป็นคำเป็น ทำให้ฟังไพเราะ รื่นหูกว่า จึงกลายเป็น “สวัสดี” ใช้เป็นคำทักทายที่ไพเราะและสื่อความหมายดี ๆ ต่อกันของคนไทย

คำว่า “สวัสดี” นั้น จะทำหน้าที่ทั้งการทักทาย และอวยพรไปในคราวเดียวกัน และเมื่อเรากล่าวคำว่าสวัสดี คนไทยเรายังยกมือขึ้นประนมไหว้ตรงอก มือทั้งสองจะประสานกันเป็นรูปดอกบัวตูม เหมือนสัญลักษณ์ที่สื่อความหมายถึงสิ่งสูงค่าที่เป็นมงคล เพราะชาวไทยใช้ดอกบัวในการสักการะผู้ใหญ่ บูชาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ส่วนการวางมือไว้ตรงระดับหัวใจนั้น เป็นการถ่ายทอดความรู้สึกให้เห็นว่า การทักทายนั้นมาจากใจของผู้ไหว้

ดังนั้น เมื่อกล่าวคำว่าสวัสดีพร้อมกับการยกมือขึ้นประนม จึงแฝงให้เห็นถึงความมีจิตใจที่งดงามของคนไทย ที่หวังให้ผู้อื่นพบเจอแต่ในสิ่งที่ดี ซึ่งการกระทำดังกล่าวนี้ ถือเป็นมงคลต่อทั้งตัวผู้พูดและผู้ฟัง และยังสามารถเพิ่มเสน่ห์ในตัวบุคคลได้อีกด้วย

ที่มาข้อมูล wikipedia.org