how to ชีวิตมหาวิทยาลัย ชีวิตเด็กหอ นักศึกษา ปัญหาวัยรุ่น มหาวิทยาลัย วิธีปรับตัว เด็กปีหนึ่ง เฟรชชี่ เรียนต่อมหาวิทยาลัย

How To วิธีปรับตัวเข้ามหาวิทยาลัย

ไม่ต้องซีเรียส หรือเป็นกังวลจนเกินไปนะคะ กับการปรับตัวเพื่อเข้าเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัย เขาผ่านกันมาแล้วทุกคน เราก็ต้องผ่านไปได้เช่นกัน ความแตกต่างจากชีวิตสมัยเป็นนักเรียนมาเป็นนักศึกษา อาจทำให้เรามีความรู้สึกตื่นเต้น แปลกใหม่ รู้สึกเป็นอิสระและเสรีภาพมากขึ้นกว่าเดิม ทั้งในด้านความคิดและการแสดงออก ไม่มีกรอบทางด้านกฎระเบียบมาคอยควบคุมเหมือนสมัยเป็นนักเรียน ดังนั้นสิ่งที่ควรนึกถึงเสมอคือ ตั้งใจเรียนให้จบ How To…

Home / CAMPUS / How To วิธีปรับตัวเข้ามหาวิทยาลัย

ไม่ต้องซีเรียส หรือเป็นกังวลจนเกินไปนะคะ กับการปรับตัวเพื่อเข้าเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัย เขาผ่านกันมาแล้วทุกคน เราก็ต้องผ่านไปได้เช่นกัน ความแตกต่างจากชีวิตสมัยเป็นนักเรียนมาเป็นนักศึกษา อาจทำให้เรามีความรู้สึกตื่นเต้น แปลกใหม่ รู้สึกเป็นอิสระและเสรีภาพมากขึ้นกว่าเดิม ทั้งในด้านความคิดและการแสดงออก ไม่มีกรอบทางด้านกฎระเบียบมาคอยควบคุมเหมือนสมัยเป็นนักเรียน ดังนั้นสิ่งที่ควรนึกถึงเสมอคือ ตั้งใจเรียนให้จบ

How To วิธีปรับตัวเข้ามหาวิทยาลัย

ดังนั้นเพื่อลดความกังวล ที่จะเกิดขึ้นกับน้องๆ ทั้งสังคมใหม่ เพื่อนใหม่ อาจารย์ใหม่ และการใช้ชีวิตแบบใหม่ วันนี้เรามีวิธีปรับตัวเมื่อเข้ารั้วมหาวิทยาลัยมาฝากกัน ดังนี้

1. ความเป็นอยู่ 

หลายคนเดินทางมาจากต่างจังหวัด ต้องย้ายมาอยู่หอใกล้สถานศึกษา ทำให้เราต้องรับผิดชอบตัวเองทุกอย่างมากขึ้น ตั้งแต่การเรียน การใช้ชีวิตที่ห่างไกลครอบครัว เพื่อนเก่า ดังนั้นจะต้องจัดการบริหารเวลาให้ดี ตั้งแต่เวลาเข้านอน ตารางเรียนในแต่ละวัน การบ้าน รวมไปถึงเรื่องซักเสื้อผ้าและทำความสะอาดห้องด้วยนะ

2. เวลาเป็นสิ่งสำคัญ

อย่างที่บอกต้องบริหารเวลาให้ได้ เพราะในช่วงเฟรชชี่ เด็กปี 1 จะมีกิจกรรมแน่นมากๆ ทั้งการรับน้อง ขึ้นสแสตนเชียร์ ประกวดดาว-เดือน และอีกบลาๆๆ ทำให้น้องๆ หลายคนมักจะเกรดตกในเทอมแรก แล้วเกิดความเครียด ดังนั้นห้ามขี้เกียจ พยายามเข้าเรียนให้ครบทุกชั่วโมง มีเวลาต้องใช้ให้เป็นประโยชน์ ทำการบ้าน อ่านหนังสือทบทวนแต่ละวันด้วยนะ

3. การคบเพื่อน

เพื่อนใหม่อาจไม่ซี้ปึ๊กเหมือนตอนมัธยม ต่างคนต่างมาจากแต่ละที่ไม่เหมือนกัน อย่าเพิ่งไว้เนื้อเชื้อใจ หรือคล้อยตามมาก ใครชวนไปไหนที่ไม่เกี่ยวกับการเรียนก็อย่าตามไป ดังนั้นควรระวัง การเลือกคบเพื่อน และศึกษานิสัยใจคอเขาให้ดีก่อน จะได้เรียนจบ 4 ปีไปพร้อมกัน

4. อย่าเครียดเกินไป

เข้าใจว่าเรียนระดับมหาวิทยาลัยนั้นยากกว่าเรียนม.ปลายมากๆ บางวิชาเรามีพื้นฐานไม่แน่นพอ ก็อาจฉุดเกรดเทอมนั้นๆ ให้ร่วงลงได้ วิธีแก้ก็คือ เมื่อเรามีเรื่องไม่สบายใจ หันหน้าปรึกษาอาจาร์ที่ปรึกษา ครอบครัว พี่น้อง หรือเพื่อนเก่าเราก่อนดีกว่า อย่าตัดสินปัญหาโดยการคิดสั้น หรือทำร้ายตัวเองเด็ดขาดนะคะ พยายามมองอนาคตไกลๆ เข้าไว้

5. เงินทอง

คุมเงินไว้ให้มั่น อย่าใช้เงินฟุ่มเฟื่อย ต้องรู้จักใช้เงินให้เป็น จะต้องวางแผนการใช้เงินกันหน่อย ไม่งั้นปลายสัปดาห์ หรือปลายเดือนคงได้กินมาม่าทุกวันแน่ๆ แล้วจะหาว่าไม่เตือน และอีกเรื่องที่สำคัญ อย่าให้ใครยืมเงินเราจำนวนมากๆ เด็ดขาด ไม่งั้นต้องมานั่งตามทวงเป็นทุกข์ไม่จบสิ้น

6. พี่ว้าก

คงเคยได้ยินกันบ่อยๆ กับ “พี่ว้าก” ที่เราเจอแน่นอนในกิจกรรมรับน้อง ถือเป็นกิจกรรมเด่นที่รุ่นน้อง Freshy ปี 1 ต้องเจอ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อทำให้รุ่นน้องที่เข้าใหม่ได้ทำความรู้จักกับรุ่นพี่ และทำให้น้องๆ เรียนรู้วิธีการประพฤติปฏิบัติตัวในสังคมของมหาวิทยาลัย ในช่วงการรับน้องนั้นรุ่นพี่ก็จะแนะนำรุ่นน้องในหลายๆ ด้าน เช่น การแต่งตัวระหว่างการรับน้อง เพื่อให้คงไว้ซึ่งระเบียบวินัย การมีสัมมาคารวะ หรือการนับถือกันระหว่างรุ่นพี่และรุ่นน้อง ซึ่งกิจกรรมนี้จะช่วยสานความสัมพันธ์ของรุ่นพี่ รุ่นน้องได้เป็นอย่างดี ดังนั้นก็ไม่ต้องกลัวพี่เขาหรอกนะคะ


เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง