ช่วงนี้หลายคนหันมา ซื้อสินค้าออนไลน์ กันมากขึ้น เพราะมีความสะดวกสบายและไม่ต้องออกไปเสี่ยงโรคโควิด-19 แตก็ยังมีกลุ่มมิจฉาชีพที่จ้องมาฉวยโอกาส แอบอ้างเป็นพ่อค้า-แม่ค้าออนไลน์ เพื่อหลอกเอาเงินจากลูกค้า หลังจากลูกค้าโอนเงินให้เรียบร้อยก็จะหายไปด้วยการบล็อก หรือขาดการติดต่อไปเลย หากใครเจอสถานการณ์ ซื้อของออนไลน์แล้วโดนโกง ต้องทำยังไง? มารู้แนวทางไว้
ซื้อของออนไลน์แล้วโดนโกง ต้องทำยังไง?
คำแนะนำจาก กองปราบปราม เมื่อลูกค้าถูกหลอกก็คือตกเป็น “ผู้เสียหาย” สามารถเข้าแจ้งความเอาผิดกับมิจฉาชีพได้แต่ต้องภายใต้รายละเอียดดังนี้
หลังจากถูกโกงควรแจ้งความตอนไหน?
- ควรแจ้งความให้เร็วที่สุด เพื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ธนาคาร จะได้ช่วยติดตามเอาทรัพย์คืน และเอาผิดกับมิจฉาชีพเหล่านี้ ไม่ให้ลอยนวลต่อไป
ขั้นตอนการแจ้งความ เมื่อตกเป็น ผู้เสียหาย
- ตามกฎหมายต้องแจ้งความภายใน 3 เดือนนับแต่รู้เรื่องและรู้ตัวผู้กระทำความผิด
- โดยไปแจ้งความที่สถานีตำรวจท้องที่ที่มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น เช่น สถานที่โอนเงิน ถ้าโอนเงินออนไลน์ที่บ้าน ก็แจ้งได้ที่สถานีตำรวจที่บ้านท่านตั้งอยู่
- ต้องมีเอกสารเพื่อประกอบการแจ้งความดังต่อไปนี้ด้วย
5 เอกสาร เพื่อประกอบการแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
- ภาพ โปรไฟล์ของพ่อค้าแม่ค้าหรือผู้ขายสินค้า
- โพสต์ ที่ประกาศขายสินค้า
- แชท ข้อความการพูดคุยระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย
- บัญชี ธนาคารที่โอนเงินไป
- สลิป การโอนเงินชำระค่าสินค้า
*หมายเหตุ เอกสารตามข้อ 1 และ 2 ควรปรากฎ ที่อยู่ หรือ URL ของพ่อค้า-แม่ค้า โดยทำการถ่ายภาพ หรือแคปเจอร์ผ่านมือถือหรือคอมพิวเตอร์
หลังจากเตรียมเอกสารประกอบการแจ้งความเรียบร้อยแล้ว
- ให้เข้าพบพนักงานสอบสวนแจ้งความประสงค์ขอ “แจ้งความดำเนินคดี” กับมิจฉาชีพที่หลอกขายสินค้า
- โดยทางเจ้าหน้าที่จะลงบันทึกประจำวัน และออกหนังสือตรวจสอบรายการเดินบัญชี(สเตทเม้น) ไปยังธนาคาร มาประกอบสำนวนการสอบสวน
ที่มาจาก: csdthai