สุดคุ้ม เดินทางทริปเดียว ได้เที่ยว 3 แม่ แม่สอด – แม่สะเรียง – แม่ฮ่องสอน

ถ้าเราออกเดินทางจากกรุงเทพมุ่งหน้าสู่แม่ฮ่องสอน ถ้าเริ่มจากแม่สอดแล้วมุ่งหน้าสู่แม่ฮ่องสอน เราจะพบเส้นทางใหม่ที่มีที่เที่ยง ถึง 4 แม่ด้วยกัน

Home / TRAVEL / สุดคุ้ม เดินทางทริปเดียว ได้เที่ยว 3 แม่ แม่สอด – แม่สะเรียง – แม่ฮ่องสอน

ใครหลายคนที่ชอบอากาศหนาวๆ ปนกับความนิ่งเรียบใกล้ชิดธรรมชาติ และหลีกหนีจากความวุ่นวาย ลองเดินทางเที่ยว 3 แม่ แม่สอด – แม่สะเรียง – แม่ฮ่องสอน คุณอาจจะได้เจอสิ่งที่แตกต่างกว่าที่เคย

บ้านป่าไร่เหนือ ชุมชนเล็กๆ ของชาวปาเกอะญอ ที่โอบล้อมด้วยหุบเขา กลิ่นไอสไตล์กะเหรี่ยงดั้งเดิม ที่อยู่และหากินกับธรรมชาติ มาสัมผัสผ้าทอปาเกอะญอ ผ้าทอกี่กระตุกแบบปาเกอะญอลวดลายเป็นเอกลักษณ์ งานประณีต เย็บปักถักร้อย งานฝีมือชิ้นต่อชิ้น ชมต้นสะดือ ตามความเชื่อของการดูแลระหว่างชุมชนกับธรรมชาติในการฝากรกของเด็กแรกคลอดไว้กับต้นไม้ใหญ่ประจำหมู่บ้าน ตามความเชื่อมนุษย์มีชีวิต ต้นไม้ก็มีชีวิต เกิดมาแล้วต่างต้องดูแลรักษาซึ่งกันและกัน เข้าถ้ำซามูไร ถ้ำที่เดิมเป็นที่ตั้งของฐานทัพญี่ปุ่น ซึ่งยังคงเห็นซากของอาวุธยุทโธปกรณ์ ทิวไผ่งาม ทิวไผ่ตงแหล่งป่าไผ่ตงธรรมชาติที่สวยงามตามวิถีของชาวปาเกอะญอ

ชุมชนแม่กาษา เป็นชุมชนในหุบเขาของอำเภอแม่สอด ภายในชุมชนมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากกมาย อาทิ บ่อน้ำร้อนแม่กาษา น้ำตกแม่กาษา ถ้ำแม่อุษา และอโรคยศาลโป่งคำราม บริเวณที่ทำการชุมชน มีกิจกรรมสาธิตของผู้สูงอายุในชุมชนแม่กาษาที่พร้อมให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้วิถีชุมชนมากมาย อาทิ ขนมว้อง ก่องข้าว โม่แป้ง ไม้กวาด ขูดมะพร้าว ทอผ้า สีข้าวมือ และตำข้าว

ออนเซ็นถังไม้โอ๊คสไตล์ญี่ปุ่นเก๋ๆ ที่อโรคยศาลโป่งคำราม โดยใช้สายธารน้ำร้อนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติมาปรับปรุงเสริมแต่งเพื่อความเหมาะสม ใช้เป็นสถานที่บำบัดรักษาโรค สำหรับแช่น้ำร้อนและพอกบ่อโคลนเพื่อสุขภาพ เพื่อช่วยผ่อนคลายและเพื่อการท่องเที่ยว เป็นบ่อน้ำแร่ที่มีคุณภาพเต็มไปด้วยแร่ธาตุต่างๆ ที่มีความเชื่อว่าสามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บและอาการเมื่อยล้าต่างๆ ได้ และยังมีบริการนวดไทยโบราณที่ให้ความสบายหลังจากการแช่น้ำร้อน

อุทยานแห่งชาติแม่เมย อยู่ในเขตอำเภอท่าสองยาง มีพื้นที่ติดต่อกับชายแดนสหภาพพม่าโดยมีแม่น้ำเมย เป็น เส้นแบ่งเขตแดน อุทยานแห่งชาติแม่เมยขึ้นชื่อในเรื่องของความสวยงามและอลังการของทะเลหมอก มาช้านาน ไม่ว่าจะเป็น ม่อนปุยหมอก ม่อนครูบาใส  ม่อนกระทิง ม่อนกิ่วลม และม่อนพูนสุดา ซึ่งแต่ละจุดเป็น จุดชมทิวทัศน์ ของขุนเขาและทะเลหมอกที่มีชื่อเสียง บริเวณที่ทำ การอุทยานฯ มีการจัดภูมิทัศน์ และตกแต่งพื้นที่ด้วยไม้ประดับดูสวยงาม บรรยากาศโดยรอบที่ ทำการสงบร่มรื่นด้วย ป่าเขา และยังมีสัตว์ป่าต่างๆ เช่น กวาง ละมั่ง เป็นต้น นอกจากนั้นทางอุทยานฯ ได้จัด เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ใช้เวลาเดินประมาณ 6 ชั่วโมง ต้องมีเจ้าหน้าที่นำทางโดยติดต่อล่วงหน้าที่อุทยานฯ เป็น เส้นทางเดินแบบไปเช้า- เย็น กลับ หรือจะพักแรมก็ได้ ระหว่างเส้นทาง ที่เดินเป็นทางขึ้นเขาบ้าง ลงเขาบ้าง ทางเดินไม่ชันมาก เดินเรียบลำน้ำขึ้นไปเรื่อยๆ ผ่านน้ำตกเล็กๆ บางครั้งต้องปีนบันไดไม้ไผ่ที่สร้าง ขึ้น ขนานไปกับ น้ำตก ละอองน้ำจากน้ำตกจะกระเด็นเข้ามาปะทะที่ใบหน้าทำให้สดชื่นขึ้น หากมาในช่วงปลายฝนต้นหนาวจะพบ ดอกไม้ป่านานาชนิดหลากสีสันบานอยู่ริมทางเดินหรือริมน้ำตก เช่น ดอกกระทือสีแดง ดอกบัวตองสีเหลืองบาน เป็นกอชวนสะดุดตา ตัดกับผืนป่าสีเขียว บางดอกซ่อนตัวอยู่กับพรมมอสสีเขียวเข้ม

วัดมงคลคีรีเขตร์ อ. ท่าสองยาง จ. ตาก ตั้งอยู่ริมทางหลวงสายแม่สอด-ท่าสองยาง-แม่สะเรียง บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 136 หมู่ที่ 1 ตำบลท่าสองยาง อยู่ติดกับ ลำห้วยแม่จวง สร้างขึ้นประมาณ พ.ศ.2462 สิ่งที่น่าใจภายในวัดนี้ คือ กุฏิครูบาสร้อย ขันติสาโร อดีตเจ้าอาวาสวัดมงคลคีรีเขตร์ มรณภาพเมื่อวันที่ 19   มกราคม 2541 เป็นที่เคารพของประชาชนทั่วไป ทั้งชาวไทยและชาวพม่าเชื้อสาย กะเหรี่ยงที่อยู่ตรงข้ามอำเภอชายแดนฝั่งตะวันตก เชื่อกันว่าเป็นผู้ที่มีอาคมกล้าแข็งสามารถป้องกันอันตรายต่างๆให้กับผู้ที่เคารพนับถือ ซึ่งวัดนี้อยู่ตรงข้ามกับค่ายทหารกระเหรี่ยง มีชื่อค่ายว่า แม่ตะวอ เมื่อมีการสู้รบรุนแรง ดังนั้นชาวบ้านและกระเหรี่ยง ทั้งไทยและพม่าจึงเข้ามาหลบภัยอยู่ที่วัดนี้นี่เอง ครูบาสร้อยได้มรณภาพเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2541 ปัจจุบันอยู่ในโลงแก้วในกุฏที่ท่านเคยอยู่โดยไม่เน่าเปื่อย

แม่ลาน้อย เมืองร้อยนา ทุ่งนาสีเขียวผืนใหญ่ที่ชาวนานิยมทำนา ปลูกข้าวไปตามสภาพภูมิประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ทุ่งบนพื้นราบแบบทางภาคกลาง ทุ่งนาขั้นบันไดบนเนินเตี้ยๆ ความลาดชันไม่มาก และทุ่งนาขั้นบันไดตามไหล่เขาที่ลาดชัน

วัดพระธาตุดอยกองมู วัดศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองจังหวัดแม่ฮ่องสอน สถานที่ชมทัศนียภาพเมืองแม่ฮ่องสอนที่สามารถชมวิวเมืองแม่ฮ่องสอนได้แบบ 180 องศา สักการะพระธาตุด้วยการไหว้ธาตุทั้งสี่ ดิน น้ำ ลม ไฟ และด้านหลังวัดสามารถชมพระอาทิตย์ตกจากร้านกาแฟก่อนตะวันลับแนวเหลี่ยมภูผา

สะพานซูตองเป้ สะพานไม้ไผ่ทอดยาวประมาณ 500 เมตร ผ่านทุ่งนา        ซึ่งชาวบ้านและพระภิกษุสงฆ์ก็ได้ใช้สะพานนี้ในการสัญจรไปมา เกิดเป็นการเชื่อมโยงกันระหว่างชาวบ้านและพระพุทธศาสนาได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยไฮไลท์ในการมาเที่ยวสะพานซูตองเป้ คือการชมพระอาทิตย์ขึ้น และใส่บาตรในยามเช้า ประมาณ 6.30 น.

ปางอุ๋ง แหล่งท่องเที่ยวที่สวยจนถูกขนานนามว่าสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย คือ อ่างเก็บน้ำหรือทะเลสาบตรงกลางที่ล้อมรอบไปด้วยป่าสนสองใบ สนสามใบ ช่วงฤดูฝนจะมีหมอกฝน ลอยสลับกับภูเขาเขียวๆ

บ้านรักไทย หมู่บ้านชาวจีนยูนานที่โดดเด่นในเรื่องของการปลูกชาพันธุ์ดี และอาหารจีนยูนานเลิศรส อย่างเช่น ขาหมูหมั่นโถว ยำใบชา และซุปจงเปา รวมไปถึงที่พักบนไร่ชา อย่างลีไวน์รักไทย รีสอร์ท