หากมีโอกาสได้มาเยือนจังหวัดหนองคายตั้งแต่เช้าตรู่ ไม่อยากให้พลาดลานน้ำพุพญานาค ที่เป็นจุดชมวิวไฮไลท์ของตัวจังหวัด เพราะเป็นจังหวะที่จะได้ตักบาตรข้าวเหนียว และอีกอย่างที่พลาดไม่ได้ของไฮไลท์ยามเช้า คือรถกาแฟเคลื่อนที่
ตรงนี้ยังเป็นจุดชม พระธาตุหล้าหนอง มีขนาดใหญ่พอๆ กับพระธาตุพนม ของจังหวัดนครพนมเลย แต่เดิมพระธาตุหล้าหนองอยู่ริมน้ำฝั่งหนองคาย แต่ด้วยพลังธรรมชาติ แรงน้ำกัดเซาะตลิ่งทำให้พระธาตุเอียงตัวลงไปในแม่น้ำโขง ส่วนที่โล่พื้นน้ำให้เห็นนั้นคือช่วงฐานนั่นเอง เพระาช่วงยอดนั้น ลงไปอยู่ในน้ำแล้ว จึงได้อีกชื่อหนึ่งว่า พระธาตุกลางน้ำนั่นเอง
ก่อนไปที่อื่นอย่าลืมแวะอุโบสถวัดโพธิชัย หรือที่เรียกว่า วัดพระใส มีเรื่องเล่าว่าในสมัยก่อนมีเจ้าหญิงจากเมืองล้านช้าง 3 พระองค์ ทั้ง 3 พระองค์ก็ได้สร้างพระคนละพระองค์ คือ พระสุก พระเสริม พระใส เมื่อสร้างเสร็จจากล้านช้างก็อัญเชิญมาประดิษฐานที่หน้องคาย โดยล่องมาทางแม่น้ำโขง แต่ระหว่างทางเกิดฝนฟ้าคะนองและพายุ ทำให้แพของพระสุกแตก ทำให้จมอยู่ในน้ำ ซึ่งทุกวันนี้ยังไม่มีใครหาเจอ เหลือ 2 องค์ก็คือพระเสริมกับพระใสที่มาอยู่ที่หนองคาย รัชกาลที่ 4 ก็มีพระราชประสงค์ที่จะอัญเชิญพระเสริมกับพระใสไปประดิษฐานที่กรุงเทพ ก็ทำการขนย้ายกันไป แต่ระหว่างเดินทาง เกวียนของพระใสได้เกิดหักขึ้น ทำให้เคลื่อนย้ายไปไม่ได้ไม่ว่าวิธีไหนก็ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ ชาวบ้านก็เลยตังจิตอธิษฐานว่า ถ้าพระใสไม่อยากไปกรุงเทพ อยากจะอยู่ที่วัดโพธิ์ชัยแห่งนี้ ก็ขอให้หลังจากนี้เคลื่อนย้ายท่านได้ หลังจากนั้นก็สามารถยกองค์พระใส่ขึค้นได้ ส่วนพระเสริมจึงถูกย้ายไปประดิษฐานที่สัดปทุมวนาราม ดังนั้นจึงเป็นที่มาว่าเหตุใดพระใสถึงถูกประดิษฐานอยู่ที่วัดโพธิ์ชัยแห่งนี้
มาถึงชุมชนบ้านเดื่อ สิ่งแรกที่จะได้เจอคือการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากชาวบ้านมาด้วยการรำออซอนบ้านเดื่อ และเต้นบาสโลบด้วย จากนั้นสักการะบูชาหลวงพ่อทันใจหรือปู่วงมณีศรีนาคาของชุมชนบ้านเดื่อ มาพระรูปหนึ่งเดินทางมาจากจ.อุดรมาสร้างให้
ไฮไลท์ของชุมชนบ้านเดื่อ คือทำกระทงดอกไม้เพื่อนำไปลอยสักการะบูชาวัดพังโคนที่จมอยู่ใต้น้ำ ทำนกใบตลาไว้สำหรับขอพรพระไชยเชษฐา ขันหมากเบ็ง ที่ต้องทำเป้นคู่ เพื่อนำไปสักการะพระพุทธพระธรรมและพระสงค์