หมดโควิดนี้ต้องมีแพลน เผย 17 ที่เที่ยว ภาคเหนือ ที่คุณอาจรู้แต่ไม่เคยไป

ช่วงนี้กระแสเที่ยวทิพย์กำลังมาแรง สำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังเตรียมตัวมองหาสถานที่ท่องเที่ยวแบบฉบับ Unseen...

Home / TELL, TRAVEL, TREND / หมดโควิดนี้ต้องมีแพลน เผย 17 ที่เที่ยว ภาคเหนือ ที่คุณอาจรู้แต่ไม่เคยไป

ผ่านไปหลายเดือนที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้การใช้จ่ายในด้านท่องเที่ยวของคนไทยลดลง แต่ทาง Mthai เชื่อว่าสำหรับเพื่อนๆ คงมีความอัดอั้นอยู่ไม่น้อย จากการที่ไม่สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อนหย่อนใจได้ในช่วงนี้

หากเราพูดถึง ภาคเหนือ เป็นภูมิภาคที่ขึ้นชื่อเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวสวยสะกดใจดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมาย มีศิลปะวัฒนธรรมที่มีประวัติมาอย่างยาวนาน อาหารการกินที่เป็นเอกลักษณ์และสภาพภูมิอากาศยังเอื้ออำนวยให้เที่ยวได้ทุกสไตล์ตลอดทั้งปี อีกทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวมากมายที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการท่องเที่ยวไทยจากกรมการท่องเที่ยว กระจายตัวอยู่ในพื้นที่ของภาคเหนือ ไม่ว่าจะเป็นสายธรรมชาติ สายบุญ สายคาเฟ่ สายกิน หรือสายอาร์ต จะรอช้าอยู่ไย มาออกเดินทางท่องเที่ยว #แอ่วเหนือม่วนใจ๋ไปโตยกั๋น

1. เชียงใหม่ – เปิดตำนานโลหะปราสาทพระธาตุศรีเมืองปง

เชียงใหม่ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่นักท่องเที่ยวมักจะเดินทางมาเป็นอันดับแรกๆ  นอกจากอากาศดี บรรยากาศดี  ร้านกาแฟฮิบๆทั่วเมือง ที่นี่ยังมีวัดวาอารามที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อีกมากมาย สำหรับสายบุญไม่ควรพลาด ตำนานมนต์เสน่ห์แห่งเมืองล้านนา หนึ่งในนั้นคือ วัดบ้านปง (อรัญญวาส) วัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองชาวล้านนา อีกทั้งยังมีงานพุทธศิลป์อันทรงคุณค่า นั่นคือ งานจิตรกรรมฝาผนังในวิหารของวัดบ้านปงแต่ดั้งเดิม พร้อมนมัสการพระธาตุศรีเมืองปง โลหะปราสาททิพยวิมานคำแห่งเมืองล้านนาและถาวรวัตถุที่สำคัญภายในวัด รอให้ทุกคนได้นมัสการเพื่อเป็นสิริมงคลในชีวิต

สถานที่ตั้ง : ตำบลบ้านปง อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด : https://goo.gl/maps/pZaBArCnN9yFCPca6

2. เชียงราย – พระลักแล วัดหิรัญญาวาส

เชียงราย เชิญทุกท่านนมัสการพระสิงห์สาน พระพุทธรูปหนึ่งเดียวที่สานด้วยไม้ไผ่องค์ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ที่วัดหิรัญญาวาส พร้อมชม “พระลักแล” พระพุทธรูปศิลปะพม่าที่สามารถเหลียวหน้ามองตามเราไปทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าเราจะมองพระพุทธรูปด้านใด โดยเปิดให้เข้าชมทุกวัน ไม่มีค่าใช้จ่าย ตั้งแต่เวลา 07.00 น. – 19.00 น

สถานที่ตั้ง : อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
พิกัด : https://goo.gl/maps/6EqbEhfdoh277JkL7

3. พะเยา – วัดห้วยผาเกี๋ยง

วัดห้วยผาเกี๋ยง สายบุญทั้งหลายต้องห้ามพลาดชมพุทธศิลป์ท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม โด่ดเด่นในเรื่องพุทธศิลป์ที่แกะสลักบนหน้าผาหินทรายโดยศิลปินชั้นครูของจังหวัดพะเยา จำนวน 23 ชิ้น มีทั้งพระนอนแกะสลักบนหินทรายฝีมืออดีตเจ้าอาวาสที่มรณะภาพและพระพุทธรูปปางต่างๆ มากมาย เปิดให้เข้าชมฟรีทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00 น. – 19.00 น.

สถานที่ตั้ง : ท่าวังทอง อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา      
พิกัด :
https://goo.gl/maps/5x2i74zctyiKE9rX7

4. น่าน – พระอุโบสถวัดบ่อแก้ว

วัดบ่อแก้ว เป็นวัดที่สร้างด้วยศิลปะแบบล้านนา พระอุโบสถมีสีขาวทั้งหลังงดงามวิจิตรด้วยลวดลายแกะสลักปูนปั้นประดับกระจกสีต่างๆ ภายในวัด มีพระธาตุบ่อแก้ว เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของอำเภอนาหมื่นและพระแก้วโบราณยืนอุ้มบาตร เปิดให้เข้าชมฟรีทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 น. – 17.00 น.

สถานที่ตั้ง : ตำบลบ่อแก้ว อำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน 
พิกัด  :
https://goo.gl/maps/y5tpGSuRrruMds5i6

5. พิจิตร – โบสถ์จระเข้ วัดศรีศรัทธาราม

วัดศรีศรัทธาราม วัดชื่อดังเมืองพิจิตร ใครได้มาเยือนเมืองพิจิตรต้องห้ามพลาด โบสถ์จระเข้ ภายในวัดมีโบสถ์หลังใหญ่สีขาวสวยงามตระหง่านตา รอบโบสถ์ล้อมไปด้วยรูปปั้นจระเข้ขนาดใหญ่นอนขนาบข้างบันได 2 ตัว และ บริเวณราวบันไดทั้งสองข้าง จะมีรูปปั้นจระเข้กำลังกลืนกินรีนอนอยู่อีก 4 ตัว ส่วนราวบันไดทางขึ้นโบสถ์จะมีจระเข้กำลังกลืนกินรีอยู่อีก 6 ตัว ระหว่างบันไดทางเข้าโบสถ์ยังมีรูปปั้นจระเข้นอนอ้าปากอยู่ 2 ตัว โดยหางจะชี้ฟ้าขึ้นไปบนเสาหลังคาโบสถ์ ส่วนบริเวณด้านหลังโบสถ์มีรูปปั้นจระเข้นอนอ้าปากหางชี้ฟ้าอีกจำนวนหนึ่ง เมื่อนับรวมจระเข้ทั้งหมดพบว่ามีจำนวนถึง 22 ตัว รูปปั้นจระเข้ทั้งหมดนี้นอกจากจะดูแปลกตาแล้วยังมีความสวยงามเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ ภายในโบสถ์มีหลวงพ่อดำเป็นพระประธาน ภาพวาดผนังภายในโบสถ์จระเข้เป็นภาพวาดด้วยลวดลายลงสีสวยงาม บอกเล่าเรื่องในวรรณคดีเรื่องไกรทอง ชาละวัน ที่เป็นตำนานของเมืองพิจิตร เปิดให้เข้าชมฟรีทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 น. – 17.00 น. 

สถานที่ตั้ง : ซอยเทศบาลตำบลกำแพงดิน ตำบลกำแพงดิน อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร 
พิกัด  :
https://goo.gl/maps/UMz9SC2NYKYLHYs26

6. ลำพูน – วัดมหาธาตุเจดีย์ศรีเวียงชัย

พระมหาธาตุเจดีย์ศรีเวียงชัยสีทอง ออกแบบและก่อสร้างโดยหลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนาเพื่อให้เป็นพุทธเจดีย์ของพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ เป็นสถาปัตยกรรมทางพระพุทธศาสนาศิลปะล้านนา สร้างด้วยศิลาแลงมีขนาดฐานกว้าง 40×40 เมตร ความสูงจากฐานถึงยอดฉัตร 64.39 เมตร รูปทรงคล้ายกับชเวดากองจำลอง

สถานที่ตั้ง : ตำบลนาทราย อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน
พิกัด :
https://goo.gl/maps/QKMZUkfrVVmcbJ126

7. ตาก – Workshop ธูปอัมพัน แห่งนครแม่สอด

สำหรับคนที่อยากลองทำธูปหอม สักครั้งในชีวิต ต้องไปที่นี่  “ร้านธูปอัมพัน” (Amphan) แห่งนครแม่สอด จากผู้ก่อตั้งแบรนด์และผลิตสินค้า OTOP ระดับพรีเมี่ยมของจังหวัดตาก “คุณสันติ-คุณเจ๊ก-คุณมล” ต้องปรับตัวในภาวะวิกฤติ COVID-19 ที่ไม่สามารถออกงานส่งเสริมการขายต่าง ๆ ได้ จึงทำการปรับพื้นที่หลังบ้าน ให้กลายเป็นแหล่งพบปะ เรียนรู้ และสร้างความสุขในครบครัวและชุมชน เปิดสอนเวิร์คช็อปทำธูปกำยานในชื่อ “ชนบท Workshop by Amphan” ชวนเรียนรู้วัตถุดิบจากการใช้ Sense ต่างๆ ของร่างกาย ทดลองทำธูปหอมในสไตล์ของคุณเองให้กับนักท่องเที่ยวที่สนใจนอกจากนี้ยังมีกิจกรรมเวิร์คช็อปอื่น ๆ มากมาย ทั้งการทำถ่านอัดดูดกลิ่นจากเมล็ดปาล์มและแมคคาเดเมียผลผลิตของสวนต่างๆ ที่ไม่ใช้แล้วให้กลับมามีคุณค่าอีกครั้ง รวมถึงการทำ Pizza ขนมอบ และเบเกอรี่ต่างๆ จากเตาถ่าน ที่ผลิตถ่านใช้เอง และยังมีเครื่องดื่มเย็นๆ ชื่นใจไว้คอยบริการอีกด้วย

สถานที่ตั้ง 82 หมู่ 3 ตำบลแม่ตาว อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก

8. นครสวรรค์ – พาสาน แลนด์มาร์คสุดล้ำ 

พาสาน อาคารสุดล้ำแห่งเมืองปากน้ำโพ นอกจากจะสร้างขึ้นเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวเอาไว้ชมวิวทิวทัศน์ของโค้งสายแม่น้ำหลัก 4 สาย ปิง วัง ยม น่าน ที่มาประสานกันเป็นสองสายและรวมเป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว ที่นี่ยังมีห้องจัดนิทรรศการด้วยระบบมัลติมีเดีย เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมประเพณีของจังหวัดนครสวรรค์ สามารถเดินทางมาโดยรถยนต์ และบริการเรือข้ามฟาก (ค่าบริการ 30 บาท/คน)

สถานที่ตั้ง : แหลมเกาะยม อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์
พิกัด :
https://goo.gl/maps/iZu5XVeB3dXUypLB7

9. แพร่ – Walking Street Art

แพร่ Walking Street Art สายอาร์ตต้องห้ามพลาดกับสถานที่เที่ยวแห่งใหม่ในเมืองแพร่ จุดถ่ายรูปกับภาพวาดบนฝาผนังกำแพง 20 จุด รอบชุมชนเหมืองหิตต้นธง ชุมชนเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นชุมชนที่มีเอกลักษณ์ที่น่าสนใจ พร้อมสัมผัสเสน่ห์ของวิถีชีวิตของชาวบ้านชาวพื้นเมือง เช่น ชาวไทยใหญ่ ชาวเงี้ยว การเดินทางมีถนนสายสำคัญ 2 สายคือ ถนนสายยันตรกิจโกศลและถนนเจริญเมือง ถนนสายสำคัญของจังหวัดแพร่ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อคุณหนึ่ง ชุมชนเหมืองหิตต้นธง 087 361 5567

สถานที่ตั้ง ชุมชนเหมืองหิตต้นธง ถ. สายยันตรกิจโกศลและ ถ.เจริญเมือง จ.แพร่

10. เพชรบูรณ์ – ท้องทะเลดึกดำบรรพ์ ภูน้ำหยด

พื้นที่ ที่มีหลักฐานชัดเจนว่าเคยเป็นไหล่ทวีปใต้ท้องทะเลดึกดำบรรพ์ เกิดในช่วงตอนปลายยุคเพอร์เมียน ประมาณ 240 ล้านปีก่อน ซึ่งเกิดจากการยกตัวของเปลือกโลกที่มีการสะสมของหินปูนใต้ทะเล ทำให้หินปูนตรงจุดที่ยกตัวขึ้นมานั้นได้รับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิและแสงแดด จึงเกิดการแตกกระจายเป็นก้อนเล็กก้อนน้อย ปัจจุบันได้รับฉายาเป็น “มหัศจรรย์แผ่นดินเพชรบูรณ์” แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่น่าสนใจและยังเป็นแหล่งศึกษาธรณีวิทยาให้กับผู้ที่สนใจเข้ามาศึกษาหาความรู้อีกด้วย

สถานที่ตั้ง : บ้านยางจ่า ตำบลภูน้ำหยด อำเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์
พิกัด : https://goo.gl/maps/A8AK9AdH6gTzs5h99

11. แม่ฮ่องสอน – ปาย จุดชมวิวทะเลหมอกหยุนไหล

อำเภอปาย เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ยังคงรอคอยให้นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศเดินทางมาสัมผัสอากาศหนาวเย็นและชมทะเลหมอกยามเช้า สำหรับคู่รักที่อยากสัมผัสบรรยากาศสุดแสนโรแมนติก ต้องไม่พลาด จุดชมวิวทะเลหมอกหยุนไหล สามารถดื่มด่ำบรรยายกาศทิวเขาแบบโพโนราม่าโดยรอบและบรรยากาศเมืองปายทั้งเมืองได้ในภาพเดียวกัน อีกทั้งยังมีระเบียงชมวิวและจุดถ่ายภาพน่ารักๆ หลายจุด จุดคล้องกุญแจคู่รัก ป้ายร้อยที่บอกรัก เพื่อให้คู่รักได้มาเติมความหวานซึ่งกันและกัน มีศาลาสำหรับนั่งชมวิว รับแสงแดดอุ่นๆ ยามเช้า มีบริการเครื่องดื่มชาร้อนให้จิบไปชมวิวไปในตัว ราคาชุดละ 20 บาท ที่นี่สามารถเดินทางเข้าชมได้ทั้งฤดูฝนและฤดูหนาว นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสบรรยากาศประทับใจที่ต่างกันแบบไม่รู้ลืม

สถานที่ตั้ง : หมู่บ้านสันติชล ตำบลเวียงใต้ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน

12. อุตรดิตถ์ – สกายวอล์คห้วยน้ำรี

สายลุยไม่ควรพลาด จุดชมวิวทิวทัศน์อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำรีในมุมสูง ลักษณะเป็นสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กความยาว 720 เมตร เหมาะสำหรับชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกในบรรยากาศสุดแสนธรรมชาติ เปิดให้เข้าชมฟรี ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 -16.00 น.

พิกัด : https://goo.gl/maps/5dSiE3naFnMgTUxz5

13. อุทัยธานี – ส้มซ่ากาแฟ TONE Cafe

เมื่อมาเมืองอุทัยธานี สายคาเฟ่ ต้องมาเช็คอินที่ร้านคาเฟ่เล็กๆ ที่แสนอบอุ่นแห่งนี้  TONE CAFÉ  พร้อมสั่งเมนู Signature ของร้าน เมนูกาแฟส้มซ่า ส้มซ่าเป็นผลไม้ขึ้นชื่อของ จ.อุทัยธานี เปลือกหอมเป็นเอกลักษณ์ เปรี้ยว หวาน เมื่อนำมาผสมกับกาแฟจะได้รสชาติที่กลมกล่อมอย่างลงตัว

สถานที่ : ซอยสุขเกษม ตำบลอุทัยใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี 
พิกัด :
https://goo.gl/maps/CisbqQq9oEscQFD18

14. กำแพงเพชร – KEY café & gallery

อีกหนึ่งคาเฟ่สุดฮิป ที่สาย Café Hopping ต้องมาเช็คอิน KEY café & gallery  ที่นี่ไม่ได้เป็นแค่คาเฟ่อย่างเดียว ตัวร้านยังตกแต่งด้วยสไตล์ลอฟท์ มีมุมชิคๆ เก๋ๆ ให้ได้ถ่ายรูปอย่างมากมาย อีกทั้งเมนูก็มีให้เลือกหลากหลาย ทั้งเครื่องดื่ม เบเกอรี่ แบบที่เป็น Homemade และนำเข้าจากต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น Americano Orange ที่ใช้ส้มคั้นสดทุกวัน, Croissant นำเข้าจากประเทศฝรั่งเศส อร่อยฟิน, นามะช็อกโกแลตสดสูตร signature ที่ร้านคิดค้นขึ้นมาไม่แพ้ต้นตำรับจากญี่ปุ่น และ Earl grey Scone สูตรเด็ดของทางร้าน บอกเลยว่าหากไปแล้วเจอต้องรีบคว้าเพราะหมดเร็วมาก

สถานที่ : สายเลี่ยงเมือง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร 
พิกัด :
https://goo.gl/maps/JoXpFNzYxdNKcYje6

15. สุโขทัย – วัดเชิงคีรี

วัดเชิงคีรี หรือ วัดตีนเขา เป็นวัดที่มีความเก่าแก่มากกว่า 700 ปี โดยยังมีหลักฐานทางโบราณสถานที่หลงเหลือมาถึงปัจจุบัน คือ โบสถ์และพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ หลวงพ่อโต เป็นพระพุทธรูปหน้าตักกว้าง 100 นิ้ว สูง 138 นิ้ว นับว่าเป็นพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ที่มีหน้าตักกว้างที่สุดใน จังหวัดสุโขทัย นอกจากนี้ภายในยังมี พระพุทธรูปสัมฤทธิ์ อีก 2 รูป ที่ชาวบ้านเรียกชื่อว่า ปลัดซ้าย และปลัดขวา ตัวโบสถ์เก่าแก่สร้างขึ้นด้วยอิฐและศิลาแลง ปัจจุบันยังคงรักษาไว้แบบทรงเดิม แต่ด้านหน้าได้บูรณะขึ้นใหม่ 

ในอดีตโบสถ์นี้ใช้เป็นที่ถือน้ำพิพัฒน์สัตยาของเจ้าเมืองสวรรคโลก ด้านข้างโบสถ์ของหลวงพ่อโต เป็นอาคารจตุรมุขที่สร้างขึ้นใหม่ เป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทสมัยสุโขทัย มีเนินเขาทางด้านหลังวัดเดิมมีมณฑปไม้ประดิษฐาน รอยพระพุทธบาททำด้วยหินชนวน สร้างขึ้นโดยพระมหาธรรมราชาลิไทย กษัตริย์แห่งราชวงศ์พระร่วง พระพุทธบาทแลบ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า พระตีนแลบ เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ตั้งอยู่ที่มณฑปด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ของโบสถ์หลวงพ่อโต และในมณฑปยังมีพระพุทธรูปสัมฤทธิ์สมัยสุโขทัยอีกหลายองค์ หนึ่งในนั้น คือ หลวงพ่อนิรนามที่ไม่มีใครทราบประวัติความเป็นมา แต่ได้ประดิษฐานอยู่ที่วัดนี้มานานแล้ว ทางวัดเปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 07.00-18.00 น. ไม่มีค่าใช้จ่าย  ติดต่อสอบถามได้ที่ เจ้าอาวาสวัดเชิงคีรี โทร. 092 486 4841

สถานที่ : อ.ศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย
พิกัด : https://goo.gl/maps/M58BWLRBoKiqS15HA

16. ลำปาง – วัดพุทธบาทสุทธาวาส หรือ (วัดพระบาทปู่ผาแดง)

เดิมชื่อวัดเฉลิมพระเกียรติ พระจอมเกล้าราชานุสรณ์ (วัดพระบาทปู่ผาแดง) หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า ดอยม่อนปู่ยักษ์ (ดอยพระบาทปู่ผาแดง) ความน่าสนใจของวัดนี้คือ มีองค์เจดีย์น้อยใหญ่กระจายไปตามยอดภูเขาหินปูน แถมยังมีรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าจารึกไว้บนแผ่นหินขนาดใหญ่ รวมถึงปล่องลมมหัศจรรย์ที่มีลายหินงาม และเตาหินปูนแบบโบราณ จึงทำให้ที่นี่ได้รับการยกย่องเป็นแหล่งท่องเที่ยว “Unseen Thailand”  โดยวัดนี้แบ่งออกเป็น 2 ชั้น คือวัดในบริเวณชั้นล่าง ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถขับรถไปจอดบริเวณหน้าวัดได้ และวัดบริเวณชั้นบนตั้งอยู่บนยอดเขา ซึ่งมีวิวทิวทัศน์สวยงามสามารถมองเห็นอำเภอแจ้ห่มได้ทั้ง 360 องศา สามารถเข้าชมได้ทุกเวลา 

สถานที่ตั้ง : ตำบลวิเชตนคร อำเภอแจ้ห่ม ลำปาง
พิกัด :
https://goo.gl/maps/kcy3uuK9fQ5SCR7y5

17. พิษณุโลก – ซับบอร์ด ล่องแม่น้ำน่าน

สายแอดแวนเจอร์ต้องไม่พลาดกับกิจกรรมผจญภัยทางน้ำด้วยกีฬาสุดชิคของยุคนี้ พายซับบอร์ด ล่องแม่น้ำน่าน คุณจะได้ดื่มดำกับธรรมชาติสองฝั่งแม่น้ำน่านที่ไหลผ่านกลางเมือง สัมผัสวิถีชีวิตชุมชนชาวแพ และฟินไปกับบรรยากาศแสงอาทิตย์ยามเย็น รวมระยะทางประมาณ 5.5 กิโลเมตร

สถานที่ตั้ง: สนใจสามารถติดต่อคุณแฮม โทร.088 281 4691 หรือ 095 6299 352
พิกัด : https://goo.gl/maps/fhkuiwLhWdU6mPr2A

ใครไม่รู้ว่าจะเที่ยวไหนดี หลังหมดโควิดนี้ อย่าลืมวางแพลนวันหยุดยาวกัน บอกเลยว่าภาคเหนือมีดีกว่าที่เราคิด ตอบโจทย์ที่สุด แถมครบรสสุด ๆ ไม่ว่าจะเป็นสายบุญ สายคาเฟ่ สายกิน และสายอาร์ต อย่างแน่นอน