ใกล้ถึง เทศกาลสงกรานต์ อีกหนึ่งวันสำคัญของไทยที่สมาชิกในครอบครัวจะได้ รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่เพื่อแสดงความเคารพและความกตัญญูพร้อมทั้งรับพรเพื่อความเป็นสิริมงคล บางครอบครัวก็รวมตัวกันรับประทานอาหารอร่อยๆ อัปเดตชีวิตกันและกัน วันนี้ขอนำเสนอ “8 เมนูดังจาก 10 ร้านอาหารสิงคโปร์ในไทย ต้อนรับเทศกาลสงกรานต์ ในราคาสบายกระเป๋า เผื่อใครจะลิสต์ไว้ฉลองกับครอบครัว
8 เมนูดังจาก 10 ร้านอาหารสิงคโปร์ในไทย
เมนูที่ 1 ข้าวมันไก่สิงคโปร์ (Singapore Chicken Rice)
เมนูที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกยกให้เป็นอาหารประจำชาติสิงคโปร์ที่จะพลาดไม่ได้ โดยจะมีความแตกต่างจากข้าวมันไก่ทั่วๆไป ตรงที่นำข้าวสารลงไปผัดกับมันไก่เจียวและกระเทียมทั้งกลีบในกระทะ ก่อนจะนำไปหุงให้มีกลิ่นหอมจากน้ำซุปไก่ผสมสมุนไพร ทำให้ข้าวมีความมันและร่วนซุยดูน่ารับประทาน ส่วนเนื้อไก่ใช้ไก่คัดพิเศษ นำมาต้มในน้ำซุปหอมกลิ่นกระเทียมและขิง เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มสามชนิด สามารถหาทานข้าวมันไก่รสชาติสิงคโปร์แท้ๆ ได้ที่ ร้านบุญตงกี่ (Boon Tong Kee) เปิดให้ลิ้มลองความอร่อยกว่า 12 สาขาทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งเป็นร้านต้นตำรับที่เริ่มต้นจากรถเข็นเล็กๆ จนกลายเป็นร้านดังที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต้องห้ามพลาด และอีกหนึ่งร้านในดวงใจใครหลายๆ คนคือ ร้าน เซอร์เจนท์ คิทเช่น (Sergeant Kitchen) ที่ใช้เครื่องเทศในการหุงข้าวกว่า 14 ชนิด พร้อมน้ำจิ้มและไก่ต้มเนื้อนุ่มละเอียดแบบละลายในปาก ซึ่งเป็นสูตรเฉพาะทางร้าน
เมนูที่ 2 ไก่ต้มซีอิ๊ว (Boiled Chicken With Soy Sauce)
อีกหนึ่งเมนูไก่ที่ขึ้นชื่อลือชา สูตรเด็ดคือการใช้ไก่คัดพิเศษเพื่อให้ได้เนื้อที่เต็มคำ แล้วนำไปตุ๋นกับสมุนไพร ซีอิ๊วและเหล้าจีน ทานคู่กับน้ำจิ้มรสเด็ดสูตรเฉพาะที่มีความหอมจากพริกโทบันจันผสมผสานกับน้ำมันงา ทำให้รสชาติจัดจ้านถูกปากคนไทย ซึ่งร้านที่ทำไก่ต้มซีอิ๊วอร่อยล้ำจนได้รับรางวัลมิชลินสตาร์ 1 ดาว คือ ร้านฮอกเกอร์ ชาน (Hawker Chan) ของเชฟ Chan Hong Meng ที่ได้รับการขนานนามว่า “ร้านอาหารมิชลินสตาร์ราคาถูกที่สุดในโลก” จนนักชิมจากทั่วสารทิศปักหมุดมาเพื่อลิ้มรส
เมนูที่ 3 ปูผัดพริก (Chilli Crab)
หนึ่งในเมนู Zi Char (ซือชา) ยอดฮิตของสิงคโปร์ สาเหตุที่เมนูนี้สามารถครองใจนักชิมทั่วโลกได้นั้น เป็นเพราะมีวัตถุดิบและกระบวนการปรุงที่พิถีพิถัน โดยเลือกใช้ปูทะเลสายพันธุ์ศรีลังกาที่มีขนาดใหญ่ บวกกับซอสพริกที่ผสมผสานรสชาติจากวัตถุดิบอันหลากหลาย ทั้งกระเทียม หอมแดง ขิง ปรุงรสด้วยซอสพริก ซอสมะเขือเทศ น้ำส้มสายชู น้ำตาล เกลือและน้ำมันงา จนออกมาเป็นเมนูปูผัดพริกที่รสชาติกลมกล่อมหอมเครื่องเทศ เสิร์ฟคู่กับหมั่นโถวนึ่งหรือทอดร้อนๆ ที่แค่ได้กลิ่นก็น้ำลายสอแล้ว สำหรับนักชิมชาวไทยสามารถลิ้มรสความอร่อยได้ที่ ร้านจัมโบ้ ซีฟู้ด (JUMBO Seafood) ที่มีเมนูซิกเนเจอร์อย่าง Award-Winning Chili Crab นำเข้าซอสพริกจากสิงคโปร์ทำให้คงรสชาติความอร่อยแท้ๆ แบบไม่ผิดเพี้ยน
เมนูที่ 4 บักกุ๊ดเต๋ (Bak Kut Teh)
แบบจีนแต้จิ๋วจากร้านซงฟา บักกุ๊ตเต๋ (Song Fa Bak Kut Teh) การันตีความอร่อยตั้งแต่ปี 1969 จนได้รับรางวัล Michelin Bib Gourmand 2016 – 2019 ติดต่อกัน 4 ปีซ้อน เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่สูตรน้ำซุปใสรสชาติเข้มข้นด้วยเครื่องเทศต่างๆ ทั้งกระเทียมกลีบใหญ่ และพริกไทยขาวคั่วอบ อีกทั้งยังเลือกเฟ้นแต่ซี่โครงหมูเกรดพรีเมียมนำมาตุ๋นจนเนื้อนุ่มกำลังดี ทานคู่กับซีอิ๊วดำจนเป็นรสชาติที่นุ่มนวลกลมกล่อม จะรับประทานกับปาท่องโก๋หรือข้าวสวยร้อนๆ ก็ฟินกำลังดี ส่วนร้าน โอลด์ สตรีท บักกุ๊ตเต๋ (Old Street Bak Kut Teh) ก็มีเมนูที่ต้องร้องว้าว! อย่างบักกุ๊ตเต๋กบแบบแห้ง ที่เนื้อกบนุ่มหนึบผัดกับซอสหม่าล่าเข้มข้น กลิ่นหอมติดจมูก เสิร์ฟแบบร้อนๆ สำหรับคนที่อยากทานบักกุ๊ดเต๋รสชาติสิงคโปร์แท้ๆ ต้องลอง
เมนูที่ 5 ลักซา (Laksa)
เมนูที่มีการผสมผสานกลิ่นอายของวัฒนธรรมเปอรานากันอันเด่นชัด ซึ่งลักซาของสิงคโปร์จะมีเอกลักษณ์เฉพาะ โดยจะใช้เส้นเหมือนก๋วยเตี๋ยว รูปร่างกลมมีความเหนียวนุ่มหนึบและเครื่องแกงที่มีกลิ่นหอมของสมุนไพรอันหลากหลาย ทั้งพริกชี้ฟ้าแดง หอมแดง ตะไคร้ ข่าและขมิ้นสด นำมาโขลกกับหัวกะทิเข้มข้น เพื่อความกลมกล่อมของรสชาติ เสิร์ฟพร้อมกับปลาเส้น กุ้งสด หอยแครง เนื้อไก่ เต้าหู้ ไข่ไก่ พริกเผาซัมบัล และสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลย คือ ใบลักซา (ผักแพรว) สำหรับคนไทยสามารถอิ่มอร่อยกับเมนูนี้ได้ที่ ร้าน ชวน คิทเช่น (Chuan Kitchen) ร้านอาหารสัญชาติสิงคโปร์ที่เข้ามาเปิดในไทยเจ้าแรกๆ ตั้งแต่ปี 2005
เมนูที่ 6 ไก่ทอดกรอบสไตล์สิงคโปร์ (Singapore Crispy Chicken)
จากร้านโฟร์ฟิงเกอร์ คริสปี้ชิกเก้น (4Fingers Crispy Chicken) ที่มีรสชาติโดดเด่นจากการหมักไก่กับเครื่องเทศจนเข้าเนื้อ ทอดด้วยเทคนิคพิเศษจนหนังไก่กรอบแต่เนื้อยังคงความชุ่มฉ่ำ พร้อมคลุกเคล้าซอสซอยการ์ลิค (Soy Garlic Sauce) ที่มีกลิ่นหอมของกระเทียม และซอสแบบเผ็ด (Hot Sauce) ที่ได้กลิ่นพริก พร้อมรสสัมผัสที่จัดจ้าน หรือเลือกทานแบบผสมผสานทั้งสองรสชาติก็ยิ่งยั่วน้ำลาย
เมนูที่ 7 ขนมปังปิ้งสังขยา (Kaya Toast)
เมนูยามเช้า ทานง่ายและอิ่มท้อง ซึ่งมีที่มาจากชาวจีนไหหลำ ถือกำเนิดครั้งแรกที่สิงคโปร์เมื่อปี ค.ศ.1944 สำหรับคนไทยที่หลงใหลความกรุบกรอบของขนมปังปิ้งบนเตาถ่านร้อนๆ และความหอมหวานของสังขยาเลิศรสที่เป็นสูตรเฉพาะ จิ้มกับไข่ลวก ทานคู่กับชาหรือกาแฟดำโบราณ สามารถสั่งทานได้ที่ ร้านยาคุน คายาโทสต์ (Ya Kun Kaya Toast) ร้านดังต้นตำรับขนมปังปิ้งสิงคโปร์
เมนูที่ 8 เบเกอรี่จากร้านเบรดทอล์ค (Breadtalk)
ร้านเบเกอรี่ชื่อดังจากสิงคโปร์ที่มีสาขากว่า 51 สาขาทั่วไทย ด้วยขนมปัง โทสต์ และเค้กกว่า 100 รายการ เมนูเด็ดของที่นี่คือ ขนมปังหมูหยองและขนมปังไก่หยอง ซึ่งเป็นต้นตำหรับและเป็นซิกเนเจอร์ของร้าน เหมาะสำหรับช่วงวันหยุดยาวหยุดอยู่บ้าน การันตีรสชาติและคุณภาพด้วยสถิติการขาย 1 ชิ้นในทุกๆ 10 วินาที หรือกว่าร้อยล้านชิ้นทั่วโลก
สำหรับผู้ที่สนใจจะลิ้มลองเมนูดังอาหารสัญชาติสิงคโปร์ สั่งได้ในแกร็บฟู้ด ใส่โค้ด “ILOVESG” รับส่วนลดทันที่ 100 บาทต่อการสั่งอาหารมูลค่า 250 บาทขึ้นไป นอกจากนี้รับฟรี กิ๊ฟท์เซ็ตสุดพรีเมียม “SG Clean Kit” สำหรับ 200 ท่านแรก เพียงถ่ายภาพหรือแคปหน้าจอใบเสร็จ ส่งอินบอกซ์มาที่ เฟซบุ๊ก VisitSingaporeTH ตั้งแต่วันนี้ถึง 25 เมษายน 2564 ถามรายละเอียดเพิ่มเติม https://www.facebook.com/VisitSingaporeTH/