แม้สถานการณ์โควิคจะเกิดการระบาดระลอกใหม่ แต่ทางรัฐบาลก็ไม่ได้มีการล็อคดาวน์ในประเทศ เราก็ต้องหาที่เที่ยวซิจ๊ะรออะไร วันพักร้อนก็มีเหลือก็จัดไปลายาวๆ แบบพักผ่อนสบายๆ เริ่มจากการมองหาสถานที่เที่ยวที่เรายังไม่เคยไปค้นหาข้อมูลไปเรื่อยๆ พอดีสายตาไปสะดุดกับที่พักบนเกาะแห่งหนึ่งในจังหวัดกระบี่ เกาะจำรีสอร์ท ซึ่งบอกตามตรงเลยว่ายังไม่เคยไปไม่เคยได้ยินชื่อเท่าไร แค่คุ้น ๆ เท่านั้น ตัดสินใจทันทีที่เห็นราคาแพคเกจแล้วดึงดูดใจมากๆ เลยตัดสินใจทันทีว่า เราต้องไปที่เกาะจำ เที่ยวอย่างแน่นอนค่ะ
เช้าวันเดินทางเราออกแต่เช้าเพราะได้เที่ยวบินราคาไม่แพง พอถึงกระบี่ คนขับรถที่มารับตามที่แจ้งรีสอร์ทไว้น่ารักมาก โทรตั้งแต่เครื่องยังไม่ลงเลย นั่งรถผ่านมาตามทางเริ่มหิว เลยขอคุณโชเฟอร์ใจดีแวะหาไรรองท้องสักนิดก่อนให้สบายใจ อิ่มแล้วไปต่อ เดินทางไปที่ท่าเรือ มูตู ภาพที่เห็นเป็นท่าเรือแบบบ้าน ๆ ชาวเรือเลย แปลกตาดี เรือลำไม่ใหญ่คล้ายเรือประมงเป็นเรือไม้หางยาว ทางขึ้นเรือก็ธรรมชาติมากเดินพลาดเป็นตกน้ำแน่ รองเท้าส้นสูงอย่าคิดใส่ไปเชียวนะที่นี่ รองเท้าแตะ หรือ ผ้าใบกับใจถึง ๆ ดีที่สุด เรือมีสองชั้น บนและล่าง แถมหน้าเรือกว้างยาวไว้สำหรับบรรทุกสัมภาระ รถจักรยานยนต์ได้อีกหลายคัน
สำหรับค่าเรือคนละ 50 บาท และค่ารถคันละ 50 บาท เช่นกัน ส่วนเราซื้อมาในแพคเกจแล้ว รวมหมด เลยไม่ต้องเสียเงินตั้งแต่รถที่มารับสนามบินเลยทีเดียว (สะดวกสุด ๆเลยกับที่พักรีสอร์ทนี้ ขอชมจากใจ) นั่งเรือไปเรื่อย ๆ รู้สึกรอบข้างมีแต่น้ำทะเลสีเขียวใบไม้ ข้าง ๆ เป็นป่าโกงกางบอกได้เลย ธรรมชาติแบบไม่ต้องปรุงแต่ง สองข้างทางที่นั่งรถมาจังหวัดนี้ก็ช่างสดใสเขียวขอุ่มชุ่มชื่นจริง ๆ ดูเหมือนฝนเพิ่งจะตกไปก่อนเรามาแค่หนึ่งวันเองสักประมาณ 45 นาที เรือก็ถึงฝั่งที่ท่าเรือ ของเกาะจำ เช่นเคยมีคนช่วยยกสัมภาระกระเป๋าใบใหญ่ของเราขึ้นรถของรีสอร์ทที่มารอรับ น่ารักมากมายเลย คนขับพูดภาษาไทยไม่ค่อยชัด ไม่ใช่สำเนียงภาคใต้ที่เราคุ้นเคยแต่เป็นภาษายาวีเลยทีเดียว เอาละน่าฟังไปรู้บ้างเดาบ้าง ให้เขาอธิบายฟังเพลินกันไปจ้า
ครั้งนี้เราตั้งใจจะมาพักผ่อนให้เต็มที่กับแพคเกจหรูรวมทุกอย่างแล้วในโรงแรม เส้นทางทีจะมาถึงที่พัก แม่เจ้า…ทางขึ้นเขาเล็กน้อยเป็นหินดินแดงที่แสนเป็นหลุม เหมือนผ่านการใช้งานมานานมากและไม่ได้ซ่อมแซม แต่คนขับรถระดับมือโปรพาเราไปถึงที่พักอย่างปลอดภัยไร้กังวล แค่มองเห็นป้ายเท่านั้นก็รู้ว่าไม่ธรรมดา พร้อมเห็นทางลงไปแสดงว่าที่นี่อยู่บนเขาไล่ระดับลงไปถึงชายหาด อลังการไหมละ บอกได้เลยว่า อเมดซิ่งมาก ๆ กับที่พักบนเกาะและธรรมชาติสุด ๆ
เห็นห้องพักเรียงรายทิวแถวเราก็รู้ว่าเรามาเร็วไปมาถึงประมาณ 10.00 น. ดังนั้นห้องที่คนยังไม่เช็คเอาท์ทำความสะอาดยังไม่เสร็จ จึงต้องเดินสำรวจ หาวิวถ่ายรูปไปพลาง ๆก่อน ดื่มน้ำผลไม้เวลคัมดริ๊งที่แสนอร่อย ชื่นใจสุด ๆ หามุมถ่ายรูปไม่ยากเพราะที่นี่มีมุมน่ารักธรรมชาติเยอะ มีสระว่ายน้ำที่มองเห็นวิวจากที่สูงลงไปชายหาด มีทิวต้นไม้ใหญ่น้อยพอประมาณ เหมือนแต่งแต้มให้เป็นธรรมชาติแท้ ๆ ปานเกาะสวรรค์ก็ไม่ปาน
รออยู่สักพัก พนักงานที่ต้อนรับแสนสวยและน่ารักก็บอกว่าห้องของพี่ที่จองไว้โชคดีมาก อยู่ใกล้ๆ และแขกคนเดิมเช็คเอาท์ไปเร็ว เลยสามารถเข้าพักก่อนเวลาอันควรได้ ยิ่งทำให้รู้สึกว่ามาที่นี่โชคดีมาก ๆ เมื่อน้องคนสวยพาไปที่ห้องพัก เรางี้แทบกรี๊ดเลยทีเดียว ห้องพักเป็นห้องที่ทำด้วยไม้สัก หลังคาหุ้มด้วยใบหญ้าคา ห้องใหญ่มาก พื้นเป็นไม้สักมันแวบ ที่สำคัญ มองเห็นทะเลมีระเบียง เรียกว่าเห็นทะเลตั้งแต่เตียงนอนเลยทีเดียวเพราะข้างฝาเป็นกระจกบานบนกรอบไม้ซีวิวตั้งแต่ก้าวท้าวเข้ามาในห้อง มีโชฟา หน้าต่างกระจกรอบห้อง มีมุ้งบนที่นอน ทีวีจอใหญ่ทันสมัย และที่ขาดไม่ได้ ห้องน้ำที่แสนกว้างขวาง มีอ่างอาบน้ำเห็นซีวิวทะเลชัดเจน มีโซนฝักบัวแยกต่างหาก และมีพื้นที่ห้องน้ำเท่ากับห้องพักบางแห่งเลยทีเดียว ถูกใจละ เราชอบอะไรที่กว้าง ๆโ ล่ง ๆ สบายตา สบายใจ ขออาบน้ำพักสายตาแป๊บ เล่นไวไฟสักพักก็สลบไปเหมือนไม่ได้นอนมาหลายวันเพราะตื่นเช้ามากวันนี้เที่ยวบินแรกเลยทีเดียว
พอบ่ายแก่ ๆ ลืมตามา เห็นท้องทะเลน้ำขึ้นมาสาดเข้าฝั่งเสียงดังครืน ๆ เล็กน้อยสงบเงียบยิ่งนัก เหมือนเรามาติดเกาะที่เคยดูในหนังก็ไม่ปาน ฟินนนนนนสุด ๆ ไปทานอาหารกลางวัน โดยรวมอยู่ในเซทแพคเกจอาหารกลางวัน 1 มิ้อ เราเลือกข้าวผัดสับปะรด ที่แสนจะน่ารักรสชาติดี ขอพริกน้ำปลาเติมหน่อยได้รสชาติเผ็ด ๆ หวาน ๆ เปรี้ยวๆ และภาชนะที่ใส่ โดนใจคนชอบถ่ายรูปอย่างเราเลย จากนั้นก็เริ่มหามุม แชะ ๆๆ กันจนเพลิน บอกเลยว่าวิวสวยงาม ธรรมชาติจริง ๆเหมือนที่ฝันไว้ ความงามสงบเงียบแถมพระอาทิตย์สาดแสงสวยงามกำลังตกพ้นขอบฟ้าลงมาที่ทำเลเบื้องหน้ามันช่างน่ากดชัตเตอร์รัว ๆ จริง ๆ
เสร็จภารกิจก็ไปที่รับประทานอาหาร ริมทะเลใกล้ชายหาดนั่นแหละ เขาจัดการวางแปลนไว้อย่างสวยงามสมส่วน ใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ และมองผ่านไปสัมผัสแสงอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า อาหารเซทตอนเย็นส่งมา 5 อย่าง สำหรับ 2 ที่ จัดมาอย่างน่ารักสวยงาม ไม่วายถ่ายภาพอีกหลายชอตไว้เชยชม อาหารจัดว่ารสชาติดี ส่วนใหญ่เป็นอาหารใต้ที่มีรสชาติกลาง ๆ ตามแบบฉบับสำหรับชาวต่างชาติ ต้องแอบกระซิบว่าเราคนไทยจัดมาให้เต็มที่เลยไม่ต้องเกรงใจ รสชาติจัดจ้านได้โลด
อิ่มแล้วท้องฟ้ามืดแล้วจงเดินกลับขึ้นไปห้องพัก อาบน้ำเปิดทีวีชมรูปภาพที่ถ่ายมาวันนี้ และหลับไปอย่างสบายใจ
เช้าวันที่สองทานข้าวเช้าเสร็จ ก็เตรียมตัวไปลงเรือ ลืมบอกไปตอนแรกว่าจะอยู่เกาะนี้แบบธรรมชาติตลอดสองคืนสามวัน แต่พอเห็นโปรแกรมของเรือ และมีน้อง ๆ สองคนร่วมจอยทริปด้วย ประหยัดค่าใช้จ่าย ได้อุดหนุนคนท้องถิ่นด้วยส่วนใหญ่คนที่นี่เป็นชาวอิสลาม จึงไม่ต้องไปหาอาหารประเภทหมูที่เราชอบเลย ยากมาก ตัดสินใจลงเรือไปเที่ยวเกาะพีพีและเกาะไข่ใกล้เคียง โดยมีเรือหางยาวของชาวบ้าน ได้อุดหนุนคนท้องถิ่นด้วย พร้อมน้องสาวคนสวยสองคนร่วมเดินทางมุ่งหน้าไปเกาะพีพี ใช้เวลาประมาณ 45 นาที
เราก็จะถึง เกาะพี พี หลังจากไม่ได้มานานมากหลังโควิคนี้เกาะนี้ยิ่งสวยงาม สีน้ำทะเลเป็นสีเขียวมรกตใสจนเห็นหินและปลาใต้น้ำตั้งแต่อยู่บนเรือ ไม่รอช้า ได้มุมก็ถ่ายภาพ แชะๆๆ คนเรือก็น่ารักพาไปหาที่สวย ๆ ถ่ายภาพ เกาะพีพีดอน พีพีเล อ่าวมาหยา ได้ลงไปเดินบนหาดทรายขาวสะอาดวิวเขาด้านหลัง สวยโคตรขอบอก คนไม่เยอะมาก สบาย ๆ ให้ระวังคุณลิงเจ้าถิ่นเท่านั้น จึงห้ามเอาอาหารมากินบนเกาะ ไม่งั้นจะโดนคุณลิงแย่งและอาจเจ็บตัวได้ถ่ายภาพชุด กระโดด โลดเต้นจนพอใจ ได้เวลาอยากดำน้ำแล้ว
หลังจากกินข้าวบนเรือเรียบร้อย ข้าวผัดไก่ ฝีมือชาวเรือเรียบง่าย ต่อด้วยแตงโมหวานฉ่ำ อร่อยล้ำยามนี้พร้อมน้ำจืดเย็น ๆ ชื่นใจคลายร้อน จุดสุดท้ายของทริปนี้เกาะไข่เราบอกคนเรือไม่ขึ้นเกาะขอให้หาที่ดำน้ำชมความงามใต้ท้องทะเลสวย ๆ ก็พอ สมใจนึกเลยทีเดียว ด้านล่างช่างเป็นประการังแนวยาวสวยงามอย่างมาก ฝูงปลาน้อยใหญ่ หลายสายพันธ์ สารพัดสี มาล้อมรอบตัวเราอย่างไม่เกรงกลัวเหมือนจะมาขออวดโฉมให้ชม เหมือนรู้ว่าเรารักธรรมชาติแค่ชื่นชมไม่ชอบทำลายหรือทำร้ายเด็ดขาด
ดื่มด่ำกับบรรยากาศพอควรแล้ว ได้เวลาเดินทางกลับ ขากลับรู้สึกเร็วมากไม่นานก็ถึงฝั่ง เดินทางขึ้นฝั่งอย่างหมดแรงนิด ๆ พอได้ไปอาบน้ำพักผ่อนสักหน่อยก็สดชื่นขึ้นมาอีก
เปลี่ยนชุดลงไปถ่ายรูปพระอาทิตย์ที่วันนี้ไม่กลมโตเหมือนเมื่อวานแต่มีลำแสงเนื่องจากมีเมฆบาง ๆ บังอยู่ แต่อารมณ์ก็สวยไปอีกแบบเรียกว่าประทับใจกันอีกชอต กินข้าวตามเซทอีก 5 อย่าง อาหารไม่ซ้ำกัน รสชาติอร่อยกลมกลืนกับธรรมชาติเสร็จแล้ว ไปอาบน้ำพักผ่อนได้ พรุ่งนี้ต้องตื่นมาชมความงามอีกวัน
เช้าวันที่สามตื่นมาแต่เช้าเปลี่ยนชุดว่ายน้ำไปหามุมถ่ายภาพท้องทะเลงาม ๆไว้เป็นที่ระลึกก่อนไปทานข้าว เราอยากอยู่ให้นานสุดเลยบอกจะออกจากที่พักเที่ยงขึ้นรถบ่ายโมง ดื่มด่ำกินบรรยากาศให้มีความสุขแบบสงบสุด ๆก่อนจะต้องเก็บกระเป๋าเดินไปขึ้นรถกลับ ขากลับก็ได้คุยกับน้องแผนกต้อนรับที่น่ารัก อยู่ประทับใจในการให้บริการ ที่พัก อาหาร บรรยากาศ รวมทั้งความสะดวกสบายที่ได้รับทั้งที่อยู่บนเกาะที่สำคัญจะลืมไม่ได้ น้ำจืดที่นีดีมากกว่าที่เคยพบในเกาะอื่น ทั้งยังไหลแรง ไม่กร่อย ไม่ลื่นตัว อาบน้ำด้วยความสุข ที่พักสะอาด พนักงานเป็นมิตร ถามดูรู้ว่าที่เกาะนี้มีแหล่งน้ำจืดเองไม่ต้องพึ่งพาน้ำจากฝั่ง มิน่าละ น้ำถึงดีมีความเป็นธรรมชาติจริง ๆ
เดินทางมาถึงท่าเรือก็นั่งเรือกลับ บ๊ายบายเกาะจำ ที่จำจนขึ้นใจ ประทับใจไม่มีวันลืม หากมีโอกาสจะต้องกลับมาใหม่แน่นอน ครั้งนี้ยังไม่ได้เที่ยวรอบเกาะ ครั้งหน้าไม่พลาดแน่นอน สนุกสนานบันเทิงทั้งกายและใจ ชาร์ตแบตเติมพลังเต็มที่พร้อมสู้เมื่อกลับไปทำงาน ผจญภัยกับมลพิษต่อ ประทับใจไม่รู้ลืมเลย เกาะจำรีสอร์ทที่พักบนเกาะจำที่แสนงดงาม………….สมควรค่าแห่งการจดจำ
