Hardware Wallet move2024 NFT Game คริปโตเคอร์เรนซี

การใช้ Hardware Wallet กับ NFT Game

Hardware Wallet มีลักษณะคล้าย Flash Drive เป็นอุปกรณ์ในการจัดเก็บเหรียญคริปโตฯ ถูกออกแบบมาให้มีจุดเด่นในเรื่องของการความปลอดภัยแนวระดับสูงสุด

Home / TELL / การใช้ Hardware Wallet กับ NFT Game

ประเด็นน่าสนใจ

  • Hardware Wallet มีลักษณะคล้าย Flash Drive เป็นอุปกรณ์ในการจัดเก็บเหรียญคริปโตฯ
  • ถูกออกแบบมาให้มีจุดเด่นในเรื่องของการความปลอดภัยแนวระดับสูงสุด
  • เป็นอุปกรณ์ส่วนสำคัญในการป้องกันจากการถูกแฮกได้เป็นอย่างดี

Crypto Wallet หรือ กระเป๋าที่จัดเก็บเหรียญคริปโตเคอร์เรนซีของเรานั้น ใช้ในการทำธุรกรรมทั้งการรับ-ส่ง โอน-ย้าย หรือการแปลงสกุลเหรียญคริปโต โดยเจ้า Crypto Wallet นั้นจะมีระบบรักษาความปลอดภัยในการเข้าถึงกระเป๋า การยืนยันตัวตนเข้าถึง Wallet ที่แตกต่างกันไป

ยกตัวอย่างการใช้ Wallet ของ Metamask ในขั้นตอนการสมัครจะมี private key หรือ Seed phrase ซึ่งจะกำหนดคำศัพท์เป็นภาษาอังกฤษจำนวน 12 คำ โดยในการสมัครบัญชีจะมีการสุ่มคำศัพท์ภาษาอังกฤษแตกต่างกันไป คำในส่วนนี้เราจำเป็นต้องจดบันทึกไว้ ซึ่งแนะนำว่าควรจดไว้ในกระดาษและเก็บไว้ในที่ปลอดภัย

เนื่องจาก Seed phrase เปรียบเสมือนรหัสผ่านในการเข้าตู้เซฟของเรา ซึ่งหากรหัสในส่วนนี้ตกไปอยู่ในมือของมิจฉาชีพ หรือพวก hacker เหรียญคริปโตฯ ต่าง ๆ ที่เราจะเก็บใน Wallet นี้ก็จะถูกดูดออกไปจนเกิดความเสียหายตามมา

สาเหตุที่ทำให้ถูก Hack Wallet ?

เป็นที่ทราบกันดีว่าในปัจจุบันนี้ NFT Game มีการเปิดให้บริการเป็นจำนวนมาก โดยในแต่ละเกมก็จะมีชื่อเหรียญที่แตกต่างกันไป รวมถึงเว็บไซต์ที่เปิดให้บริการ ซึ่งจะมีกลุ่มมิจฉาชีพทำเว็บไซต์ Scam ขึ้นมาเลียนแบบ โดยเว็บไซต์เหล่านี้มีหน้าตาเว็บไซต์เหมือนกับเว็บไซต์เกมตัวจริง แล้วจะมีการเชื่อมต่อกับ Wallet ของเรา โดยเป็นคำร้องให้เราใส่ Seed phrase

โดยหากเราเผลอไปใส่ Seed phrase นั่นหมายความว่า เราได้มอบรหัสผ่านกระเป๋าให้กับมิจฉาชีพแล้ว ซึ่งตัวอย่างที่ยกมานี้ สามารถเกิดได้กับทุกคนหากไม่มีการตรวจสอบชื่อเว็บไซต์ก่อนใช้งาน ก็จะทำให้เสียเหลี่ยมโจรได้ ฉะนั้นทุกครั้งที่เข้าลิ้งค์ NFT Game หรือเกมที่เราเล่นอยู่ ควรตรวจสอบ URL อย่างละเอียด หรือทำการบุ๊กมาร์กไว้เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานครั้งต่อ ๆ ไป

ยังไม่นับรวมเล่ห์เหลี่ยมต่าง ๆ ของมิจฉาชีพ ที่มาในรูปแบบของการปลอมเป็น Dev หรือทีมงานของเกม โดยส่วนใหญ่จะมาในอุบายการทักแชทไปหาผู้เล่น ซึ่งจะแฝงตัวอยู่ในกลุ่ม community อาทิ ใน Telegram , Discord ปลอมเป็นทีมงานเกมส์ให้คำปรึกษาแก่ผู้เล่น ก่อนที่จะแฝงลิ้งค์ Scam เพื่อให้เหยื่อใส่ข้อมูลหรือรหัส Wallet

ซึ่งต้องเน้นย้ำสำหรับมือใหม่ที่จะเข้ามาเล่นเกม ควรศึกษาและเช็กข้อมูลให้ถูกต้องก่อนทำการลงทุน ไม่เช่นนั้นเราอาจจะเสียเงินไปฟรี ๆ ให้กับกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้ได้ ทั้งนี้เราสามารถเพิ่มความปลอดภัยของ Wallet ได้ นั้นคือ Hardware Wallet เป็นอุปกรณ์ที่สามารถจัดเก็บเหรียญคริปโตได้อย่างปลอดภัย

การใช้ Hardware Wallet

Hardware Wallet มีลักษณะคล้าย Flash Drive เป็นอุปกรณ์ในการจัดเก็บเหรียญคริปโตฯ ซึ่งถูกออกแบบมาให้มีจุดเด่นในเรื่องของการความปลอดภัยแนวระดับสูงสุด เปรียบเสมือนด่านสุดท้ายในการเข้าถึงสินทรัพย์ของเรา โดยเจ้าอุปกรณ์นี้จะมีบทบาทสำคัญทุกครั้งที่เราจะทำธุรกรรม ซึ่งจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์นี้ในการยืนยันรหัสผ่านจากเจ้าของอุปกรณ์เท่านั้น จึงจะสามารถเข้าถึงสินทรัพย์ได้

ถือได้ว่าเป็นอุปกรณ์ส่วนสำคัญในการป้องกันจากการถูกแฮกได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันมีการนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย เนื่องจากมีความปลอดภัย สามารถนำติดตัวพกพาไปได้ตลอดเวลา มาพร้อมกับการใช้งานที่สะดวกสบาย โดยสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์มือถือสมาร์ทโฟน หรือ คอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊ก เพียงเท่านี้ก็สามารถใช้งานได้แล้ว

โดยระบบความปลอดภัยของ Hardware Wallet จะถูกเริ่มขึ้นเมื่อเราเปิดการใช้งานครั้งแรก ผ่านขั้นตอนการเปิดใช้งานซึ่งจะมีการใช้รหัส Seed หรือ รหัสคำศัพท์ โดยอาจจะมีคำประมาณ 24 คำ ซึ่งจะคล้ายกับการที่เราเปิดใช้ Wallet ในรูปแบบทั่วไป คำเหล่านี้ควรจดและจัดเก็บไว้ในที่ปลอดภัย และอุปกรณ์จะให้เรากำหนดรหัสผ่านหรือ Pin Code ซึ่งเป็นรหัสผ่านที่เราจำเป็นต้องใช้ทุกครั้งก่อนการทำธุรกรรมสินทรัพย์ของเรา

ในกรณีที่ hardware wallet ของเราเกิดพังเสียหาย เราสามารถกู้ข้อมูลโดยนำรหัส Seed ที่เราจดไว้ นำไปซิงค์ข้อมูลกับ hardware wallet ตัวใหม่ได้เช่นกัน

Hardware Wallet จึงเป็นอุปกรณ์ส่วนสำคัญที่ผู้เล่น NFC Game ควรจะมีติดตัวไว้ หรือจะใช้กับสาย Defi เทรดเหรียญก็สามารถใช้ได้เช่นกัน

Hardware Wallet มีแบบไหนบ้าง

Trezor One

Hardware Wallet ของ Trezor One ตัวนี้ถือว่าราคาไม่สูงมากหนัก อยู่ที่ประมาณ 2,000-2,700 บาท ด้วยลักษณะที่มีขนาดเล็กสามารถพกพาได้สะดวก และสามารถเชื่อมต่อได้ทั้งคอมพิวเตอร์ และมือถือสมาร์ทโฟน อีกทั้งยังรองรับเหรียญคริปโตฯ ได้เป็นจำนวนมาก

Trezor One

นอกจากนี้ในเรื่องระบบความปลอดภัยมีทั้ง Seed ประมาณ 24 คำ รวมทั้งสามารถตั้ง Pin Code รหัสผ่านในการใช้การแบบเฉพาะตัวบุคคล อีกทั้งทางผู้พัฒนายังมีการอัปเดตตัว Firmware อยู่ตลอด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน และเพิ่มระบบความปลอดภัยในดียิ่งขึ้น

ข้อมูลเบื้องต้น

  • ขนาด : 60 x 30 x 6 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก: 12 กรัม
  • หน้าจอ : แบบ OLED สว่าง ให้ความละเอียด 128×64 พิกเซล
  • การเชื่อมต่อ : ช่องต่อ Micro USB สำหรับเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือ
  • รองรับมากกว่า 1,000 สกุลเหรียญคริปโตฯ

ความปลอดภัย

Trezor ได้รับการรับรอง CE และ RoHS ดังนั้นจึงเป็นไปตามมาตรฐานคุณภาพ ความน่าเชื่อถือ และสิ่งแวดล้อมทั้งหมด สามารถนำ Trezor ติดตัวไปบนเครื่องบินได้ เช่นเดียวกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สมัยใหม่ทั้งหมด X-Rays

ระบบปฏิบัติการที่รองรับ

ปัจจุบันอุปกรณ์ Trezor รองรับระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์หลัก ๆ ทั้งหมด : Windows (เวอร์ชัน 10 หรือใหม่กว่า), MacOS (เวอร์ชัน 10.11 ขึ้นไป), Linux บนอุปกรณ์พกพา รองรับ Android ยังไม่รองรับ iOS และ Windows Phone ChromeOS ยังไม่รองรับอย่างเป็นทางการ แต่ควรทำงานผ่าน WebUSB ของ Google

ราคา : 2,000-2,700 บาท

Ledger Nano S

ตัว Ledger Nano S ออกมามีให้มีลักษณะคล้ายกับแฟลชไดร์ฟ พกพาง่าย และมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยระดับสูง ซึ่งต้องใช้ Pin Code ที่ทางผู้ใช้งานตั้งไว้ โดยเมื่อมีการทำธุรกรรมเพียงเชื่อมต่ออุปกรณ์ี้เข้ากับคอมพิวเตอร์ หรือ สมาร์มโฟน ก็สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกและปลอดภัย

Ledger Nano S

ข้อมูลเบื้องต้น

  • ขนาด : 104 x 58 x 5 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก: 16.2 กรัม
  • หน้าจอ : แบบ OLED สว่าง
  • การเชื่อมต่อ : ช่องต่อ Micro USB สำหรับเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือ
  • รองรับมากกว่า 1,100 สกุลเหรียญคริปโตฯ

ระบบปฏิบัติการที่รองรับ

Ledger Nano S รองรับคอมพิวเตอร์ 64 bit (Windows 8.1+, macOS 10.14+, Linux) ไม่รวมโปรเซสเซอร์ ARM ทั้งนี้ตัวอุปกรณ์และแอปพลิเคชั่น Ledger Live ไม่สามารถใช้งานร่วมกับ Chromebook ได้ นอกจากนี้ยังรองรับ Android 7+ รองรับบน iOS โดยต้องใช้สาย OTG เพื่อเชื่อมต้องกับสมาร์ทโฟน

ราคา : 2,224-2,700 บาท

Trezor Model T

Trezor Model T เป็นกระเป๋าสตางค์ฮาร์ดแวร์สกุลเงินดิจิทัลขั้นสูง จัดเก็บ Bitcoin รหัสผ่าน โทเค็น และคีย์อื่น ๆ ซึ่งรองรับได้มากถึง 1,600 สกุลเหรียญคริปโตฯ ซึ่งในรุ่นนี้นอกจากความปลอดภัยสูง ยังมาพร้อมกับหน้าจอทรัชสกรีน เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน

Trezor Model T

ข้อมูลเบื้องต้น

  • ขนาด : 64 x 39 x 10 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก: 22 กรัม
  • หน้าจอ : Bright color LCD – 240×240 พิกเซล
  • การเชื่อมต่อ : USB-C สำหรับเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือ
  • รองรับมากกว่า 1,600 สกุลเหรียญคริปโตฯ

ความปลอดภัย

Trezor ได้รับการรับรอง CE และ RoHS ดังนั้นจึงเป็นไปตามมาตรฐานคุณภาพ ความน่าเชื่อถือ และสิ่งแวดล้อมทั้งหมด สามารถนำ Trezor ติดตัวไปบนเครื่องบินได้ เช่นเดียวกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สมัยใหม่ทั้งหมดอย่าง X-Rays

ระบบปฏิบัติการที่รองรับ

รองรับระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์หลัก ๆ ทั้งหมด: Windows (เวอร์ชัน 10 หรือใหม่กว่า), MacOS (เวอร์ชัน 10.11 ขึ้นไป), Linux บนอุปกรณ์พกพา รองรับ Android ยังไม่รองรับ iOS และ Windows Phone ChromeOS ยังไม่รองรับอย่างเป็นทางการ แต่ควรทำงานผ่าน WebUSB ของ Google

ราคา : 10,000 บาท

ซึ่งนอกเหนือจากยี่ห้อที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว ปัจจุบัน Hardware Wallet ยังมีอีกหลายแบรนด์ให้เลือกซื้อ มีราคาตั้งแต่ 1,xxx ไปจนถึงหลักหมื่น ก็ขึ้นอยู่กับความพึ่งพอใจของแต่ละคน

ขั้นตอนการใช้ Hardware Wallet

ตัวอย่างที่จะนำเสนอในครั้งนี้จะเป็น Hardware Wallet ของ Trezor One Black เมื่อเราได้อุปกรณ์มาแล้ว ให้ทำการลงไดร์เวอร์ของ Trezor ผ่านเว็บไซต์ https://suite.trezor.io/ จากนั้นติดตั้งตัวโปรแกรม Trezor suite ดำเนินการตามขั้นตอน

ซึ่งเมื่อถึงขั้นตอนรหัส Seed โดยจะมีทั้งหมด 24 คำ ให้ทำการจดแต่ละคำใส่ไว้ในกระดาษ ตามลำดับคำตั้งแต่คำที่ 1-24 ให้ถูกต้อง ในขั้นตอนนี้แนะนำว่าควรรอบคอบและจด Seed ให้ถูกต้อง คำจะปรากฏอยู่บนหน้าจอของ Trezor เมื่อครบ 24 คำ ตัวอุปกรณ์จะให้ทบทวน Seed อีกครั้ง เพื่อความแน่ใจ

หลังจากนั้น Trezor suite จะมีขั้นตอนให้ใส่ Seed เพื่อทำการยืนยันอีกครั้งหนึ่ง หลังจากเสร็จสิ้นในขั้นตอนนี้ ระบบจะให้ผู้ใช้งานกำหนด Pin Code หรือรหัสผ่านส่วนตัวเป็นตัวเลข 1-9 เมื่อตั้งรหัสผ่านเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงจะสามารถใช้งานได้

การเชื่อมต่อ Hardware Wallet สู่ NFT Game

หลังจากที่เรามี Metamask แล้ว และทำการ Login ให้กดไปที่ Connect Hardware Wallet โดยให้ทำการเชื่อมต่อการ Hardware Wallet ของเรา พร้อมให้เลือกกระเป๋าที่ต้องการจะเชื่อมต่อ ในขั้นตอนนี้จะมีการเข้ารหัส Pin Code จากทาง Trezor ด้วยเช่นกัน

การเชื่อมต่อ Hardware Wallet กับ Metamask

เมื่อทำการเชื่อมต่อ Hardware Wallet กับ Metamask แล้ว เราก็สามารถเข้าเล่น NFT Game ได้แล้ว

หลังจากนั้นให้เราเปิด URL เกมที่เราจะเข้าเล่น กรณีนี้ขอยกตัวอย่างเกม Luna Rush แล้วทำการเชื่อมต่อ Wallet โดยระบบจะขึ้นคำร้องว่าจะให้เชื่อมต่อกับ Wallet ตัวไหน หากเราใช้ Hardware Wallet ก็สามารถเลือกใช้กระเป๋าที่เราเลือกไว้ตอนเชื่อมต่อกับ Metamask ได้เลย

ขั้นตอนถัดมาตัว Trezor จะขึ้นหน้าต่างการยืนยันเข้าระบบ ซึ่งให้ขั้นตอนนี้ผู้ใช้งานจำเป็นต้องเชื่อมต่อตัว Trezor เข้าก็คอมพิวเตอร์ จึงจะสามารถดำเนินการต่อไปได้ หลังจากนั้นระบบจะให้ทำการใส่รหัส Pin Code โดยตัวเลขรหัสจะปรากฏอยู่บนหน้าจอ Trezor ซึ่งตัวเลขจะสลับตำแหน่งกันไปทุกครั้งที่ใช้งาน

หลังจากใส่รหัส Pin Code แล้ว ตัวอุปกรณ์แสดงหน้าจอให้กดยืนยันการเข้าระบบ ในส่วนนี้ให้ทำการกด Confirm จากปุ่มกดของอุปกรณ์ Trezor ได้เลย เพียงเท่านี้ก็สามารถเข้าไปเล่น NFT Game ได้แล้ว อย่างไรก็ตามบางเกมอาจทำการเข้าระบบเฉพาะ Login ครั้งแรกเท่านั้น ซึ่งก็ขึ้นกับทางผู้พัฒนาเกมนั้น ๆ

กดเชื่อมต่อ Wallet
ส่ Pin Code ที่เราตั้งไว้
เมื่อเข้าระบบเสร็จสิ้นแล้ว ก็สามารถเข้าสู่ตัวเกมได้

ทั้งนี้การใช้ Hardware Wallet เมื่อเราจะทำธุรกรรม ไม่ว่าจะเป็นการ Swab เหรียญ ฝากเหรียญเข้าตัวเกม ก็ต้องยืนยัน Pin Code จากตัวอุปกรณ์ Hardware Wallet ทุกครั้ง ซึ่งถือได้ว่าเป็นจุดเด่นที่สำคัญของอุปกรณ์ดังกล่าว ช่วยในการป้องกันการถูก Hack ได้เป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตามแม้เจ้าอุปกรณ์นี้จะมีระบบความปลอดภัยสูง แต่หากผู้ใช้งานพลาดไปกดเว็บไซต์ Scam และเผลอไปกรอก Seed ก็เสี่ยงถูก Hack เหรียญได้เช่นกัน

เพราะฉะนั้นเมื่อคิดจะลงทุนในโลกคริปโตฯ แล้ว ทุกขั้นตอนต้องมีสติ รอบคอบ ตรวจสอบความถูกต้องก่อนทำธุรกรรม หรือ เช็ก URL ให้ถูกต้อง เพราะให้โลกคริปโตฯ หากคุณทำพลาดไปไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนไหนก็แล้วแต่ อาจสูญเสียเงินที่มีอยู่ก็เป็นได้


อ้างอิงข้อมูล

  • https://www.ledger.com/
  • https://shop.trezor.io/