แม็กซ์ ภาณุวัฒน์ หนุ่มนักเดินทาง กับรถแวนโปรเจคเตอร์ตะลอนทัวร์ ซึ่งมีความสุขกับการเดินทางได้มิตรภาพและได้ความรู้ใหม่ๆ จากที่เราไม่เคยอยากรู้หรือที่เราไม่เคยคิดจะเรียนรู้ Next People จะพาทุกคนมาฟังเรื่องราวและแรงบันดาลใจดีๆ จากหนุ่มนักเดินทางคนนี้กัน
ชีวิตเปลี่ยน เพราะรถคู่ใจ
“ก่อนหน้านี้ช่วยที่บ้านส่งขนมครับทำมาประมาณ 10 ปีละ มีงานอดิเรกก็เป็น production ทำวิดีโอครับก็คือถ่ายเอง ตัดต่อเอง ก็คือเป็นโปรดักชั่นเอง ทำสตอรี่เองได้หมดทุกอย่างเลย พอเรามีความฝันเราอยากจะมาทำ Camper Car เพราะว่าเรามีรถอยู่แล้วที่เราส่งขนม แล้วเราก็มีศักยภาพของเราที่เราสามารถถ่ายได้ ตัดต่อได้ แล้วเราก็มองว่าเราสามารถทำช่องได้ เราก็เลยมาลงมือทำครับ”
“มันเหมือนกับพอเราชอบอยากจะทำรถนี้เป็น Camper Car เราอยากจะเดินทาง เราชอบท่องเที่ยวแต่ว่าเราทำงาน 7 วัน เราไม่มีเวลาที่เราได้ไปเที่ยว เขาเรียกว่ามันเป็นการเหมือนระเบิดออกมานะ เราชอบ Camper Car เราชอบมันมากจนเราอยากจะลงไปทำเต็มตัวแล้ว ในเมื่อเรามองเห็นว่าเราทำได้ ช่องทางที่เราจะทำแบบไหน รูปแบบที่เราจะนำเสนอเป็นยังไง ในเมื่อเรามองเห็นได้ทุกอย่างเป็นภาพรวมหมดแล้วเหลือแค่อย่างเดียวก็คือ การก้าวออกมา”
ความอยากรู้ อยากสัมผัส วิถีชีวิตของคน
“เราไม่รู้ว่าแต่ละชุมชนเขาจะเป็นยังไงนะ แต่ว่าสิ่งที่เราเห็นตอนแรกคือ อาจจะเป็นด้วยความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวของชุมชนนั้นๆ ครับ แล้วเราก็อยากสัมผัสกับวิถีชีวิตเพราะว่าแต่ละชุมชนเขาก็จะมีอาหารท้องถิ่นที่ไม่เหมือนกันแต่ละที่ เราก็อยากที่จะไปเจอสิ่งเหล่านั้นนะครับ การที่เราเดินทางท่องเที่ยวในชุมชนอะครับมันก็เป็นการที่เราแบบได้อุดหนุนคนในชุมชนเขาด้วย จริงๆ ผมก็หาข้อมูลเหมือนกันว่าเราจะไปที่ไหนบ้างแต่ว่าอย่างทริปที่แล้วผมไปเหนือเดือนนึง ก็คือที่แม่ฮ่องสอนที่ทุ่งดอกบัวตอง ซึ่งเป็นสถานที่ที่เป็นภูเขาที่เป็นดอกบัวตองสีเหลืองทั้งหมดทั้งภูเขาอะครับ มันเป็นที่ที่เหมาะกับรถเรามาก แล้วเราก็อยากพารถไปเที่ยวที่นั่นมากๆ เลย เป้าหมายเราที่ทุ่งดอกบัวตองที่เดียว เราไปเจอใคร เขาก็แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ให้กับเรา เราก็ลองไปดู มันเป็นอะไรที่เราไม่ได้คาดหวังแล้วไม่ได้แพลนเอาไว้ครับ มันทำให้เราแบบพบเจอสิ่งใหม่ๆ สิ่งที่มันแตกต่างออกไป”
“เสน่ห์ของการเดินทางจริงๆ มันเป็นเรื่องราวระหว่างการเดินทางนะ มันไม่ใช่แค่ปลายทางอย่างเดียวครับ นอกจากเราขับรถไปแล้ว เราจะเห็นวิวทิวทัศน์ที่มันแตกต่างจากที่เราเห็นทุกๆ วัน อย่างถ้าเราไปเที่ยวทะเล แล้วเราขับผ่านเราก็จะเห็นแบบวิวทะเล เห็นทิวต้นมะพร้าว หรืออะไรอย่างนี้”
การเดินทางด้วยความฝันที่อยากฉายหนังให้เด็ก
“อีกอย่างนึงที่เราอยากทำก็คือ อยากไปฉายหนังให้เด็กๆ ดูที่เขาอยู่ห่างไกล การที่เราจะไปได้เราก็ต้องเดินทางไปหาเขา เราก็เลยทำจอ Projector ติดรถเอาไว้ นี่ก็คือเป็นหนึ่งในเรื่องราวที่ผมอยากใส่เข้าไปในการเดินทางของเรา ที่ทำรถประมาณปีครึ่งครับ แต่จริงๆ รถคันนี้อยู่กับผมมา 10 ปีแล้ว แต่ว่าเราเพิ่งมาทำประมาณปีกับ 4-5 เดือนเท่านั้นเองครับ จริงๆ มีคนถามผมเหมือนกันนะว่าแบบ ที่ผมเก็บขยะลงในคลิป แบบสร้างภาพหรือเปล่าอะไรอย่างนี้ เราอยากให้เขามองว่ามันเป็นการสร้างจิตสำนึกมากกว่า การที่เรามาทำยูทูบ สิ่งที่เราทำไปเป็นตัวอย่างให้กับสังคมให้กับคนที่ดู แล้วถ้าเกิดในช่องของเรามีเด็กๆ ดูด้วย คือเราเป็นแบบอย่างให้กับเขาเลยนะครับ เราควรสร้างจิตสำนึกให้กับเด็กๆ ทำให้เขาดูหรือเราพาเขาทำ มันจะปลุกจิตสำนึกให้เขาแล้วเขาจะเติบโต และเขาจะทำอย่างนั้นตลอดไป แล้วมันก็เกิด feedback กลับมา ครอบครัวนึงเขาก็ส่งรูปมาให้เราดูว่าแบบ ‘พี่แม็กซ์คะ ลูกๆ อยากไปเที่ยวที่เดียวกับพี่แม็กซ์ แล้วพอไปเขาก็เดินเก็บขยะด้วย’ มันประทับใจมากเลย เหมือนการที่เราทำลงไปมันเหมือนเราหว่านเมล็ดพันธุ์ลงไปแล้วแบบต้นไม้ที่เราหว่านไป มันงอกเงยขึ้นมาครับ”
“ตั้งแต่ออกไปมาก็จะมีที่ไปฉายหนังให้เด็กๆ ดูครับ อันนี้ประทับใจมากเลย จริงๆ มันเริ่มมาจากเด็กสลัม ที่ผมอยากทำอะครับ ก็คือมองว่ามันไม่ใช่แค่เด็กที่เขาอยู่ห่างไกล แต่ว่าคนที่เขาขาดโอกาส เด็กที่เขาขาดโอกาส ที่เขาอยู่ใกล้ๆ อยู่ในเมืองเลย แต่เขาแบบด้วยคุณภาพชีวิตเขาอะไรอย่างงี้ มันทำให้เขาไม่มีฝัน มองว่าเป็นแรงบันดาลใจที่เราอยากไปฉายสื่อดีๆ ให้เขาดู ให้เขาได้เห็นโลกที่มันกว้างขึ้น ถ้าเราตอนเป็นเด็กเรามีทัศนคติกับมุมมองในชีวิตแค่นี้ แต่พอเราค้นหา เราเติบโตขึ้นมา เราก็จะเห็นที่มันกว้างขึ้น แต่ถ้าเขายังอยู่จุดเดิมต่อให้เขาเติบโตขึ้นทัศนคติของเขาก็อาจจะไม่ได้เติบโตตาม แต่ถ้าเกิดเราไปช่วยขยายทัศนคติเขา ขยายความรู้เขาขึ้นมา เขาก็จะมีความฝัน จริงๆ ที่อยากทำก็คือ อยากพัฒนาคุณภาพชีวิตคนหลักๆ เลยครับ คือเราอยากเห็นเด็กๆ ที่เราไปช่วยเหลือเขาเติบโตขึ้นมาเขามีความฝัน อย่างที่ผมทำเก็บขยะ กลายเป็นว่าเราได้เห็นเมล็ดพันธุ์ที่เราปลูกไปแบบเติบโตขึ้นมาแล้ว เราได้เห็นคนที่เขาทำตามเราคนที่ไปเที่ยวแล้วเก็บขยะตามเรา นี่มันคือผลผลิตของเราคือสิ่งที่เราต้องการมันไม่ได้ยิ่งใหญ่มากมายขนาดนั้นนะ แต่เรารู้สึกว่าถ้าเกิดทำต่อไปเรื่อยๆ คนที่เขาทำตามเรามันจะกระจายเป็นวงกว้างไปเรื่อยๆ จากหนึ่งเป็นสอง จากสองเป็นสี่ สุดท้ายมันก็คือแบบจะพัฒนาในสังคมในชุมชนขึ้นไปเรื่อยๆ เป็นการปลูกฝังจิตสำนึกครับ”
ฝันไปเรื่อยๆ แล้วทำให้มันสำเร็จ
“คือคนเรามีความฝันได้เรื่อยๆ คนเราจะไม่ได้ฝันแค่อย่างเดียว ตอนเด็กๆ เราอาจจะฝันเป็นอย่างนึง คนเราฝันอย่างนั้น เพราะว่าด้วยมุมมองและทัศนคติหรือสิ่งที่เราพบเจอมันยังอยู่แค่ในวงจำกัดเล็กๆ แต่พอเราเติบโตขึ้นไป เราเห็นกว้างขึ้น ให้ดีที่สุดก็คือ ถ้าเราฝันแล้วถ้าเราชอบรักมันจริงๆ ทำให้มันสำเร็จพอทำสำเร็จแล้ว และเรามีฝันใหม่เราก็ไปคว้าฝันใหม่ ไม่ใช่ว่าเราฝันแล้ว โอ๊ย…ทำไม่ได้หรอก ไปฝันอย่างอื่นดีกว่า อย่า ถ้าเรารักมันจริงๆ เราฝันที่อยากจะทำมันจริงๆ ทำให้ได้นะ ทำได้แล้วเราก็ฝันต่อไปเรื่อยๆ สำหรับผมเอง ผมไม่ได้ลุกขึ้นมาฝันอยากเป็น Camper Car แล้วผมก็ลงมือทำ ผมฝันอยากเป็น Camper Car มาก่อนหน้าที่จะทำช่องประมาณ 5-6 ปี ผมฝันอยากเป็น Camper Car มาตั้งนานแล้ว”
ความสุขจากการเดินทางไกล
“มันก็ได้ความสุขนะ ได้มิตรภาพและก็ได้ความรู้ใหม่ๆ จากที่เราไม่เคยอยากรู้หรือที่เราไม่เคยคิดจะเรียนรู้อะครับ การที่เราไปเที่ยวเราอย่าเลือกว่าเราไปมองเฉพาะวิวที่สวยงาม เราอย่าฟังเพลงเฉพาะที่เราอยากฟัง เราลองเปิดใจฟังเพลงอย่างอื่นดู เราลองเปิดใจกับอาหารใหม่ๆ ดู พวกนี้มันให้กลับมา มันก็แบบความรู้สึกดีๆ และก็รสชาติใหม่ๆ ในชีวิตที่เราไม่เคยได้รับรู้ มันเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นมากๆ สำหรับการเดินทาง เราก็อยากให้คนออกไปเที่ยว ถ้าพูดตรงๆ เลยอยากให้เขาไปเที่ยวเหมือนเรา ไปเที่ยวในชุมชนโดยการอุดหนุนชุมชน ไปแล้วก็แบ่งปันให้กับชุมชน ให้กับเด็กๆ ในชุมชน กระจายรายได้สู่ชุมชน กระจายความรู้สู่เด็กๆ ในชุมชน อันนี้คือสิ่งที่เราอยากให้มันเป็นรากแตกแขนงกันออกไปในชุมชนในประเทศของเรานะครับ”