พ่อค้าขนมครกฝีปากกล้าหลากหลายคอนเซ็ปต์ หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ เจ๊แขกแหกปาก จากจุดเริ่มต้นที่ไม่มีอะไรเลยกระทั่งได้ฝึกทำขนมครกและมาขายเอง เกิดไอเดียความคิดสร้างสรรค์จุดขายให้ลูกค้าจำได้จึงกลายเป็นกระแส คนจำได้ และทำให้เจ๊แขกแหกปากเป็นที่รู้จักมาจนถึงทุกวันนี้
“ขายขนมครกครับ ของผมจะเป็นคลาสสิกครับ ไม่ได้ชาววัง และก็ไม่โบราณครับ มันจะเป็นแบบว่า อารมณ์แบบว่าขนมครกแบบไส้เยอะๆ ครับพี่ประมาณนี้ ขนมครกคือที่บ้านขายมานานแล้วครับ ก็คือคุณป้าขายก่อนเมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่แล้วครับ แล้วคราวนี้ช่วงนั้นแม่กับพ่อผมเลิกกันใช่ไหมครับ แม่ผมก็ไปอยู่บ้านป้าอย่างงี้พี่ ก็เลยไปฝึกทำขนมครกกับป้า แล้วก็มาขายเอง ตอนนั้นผมยังเรียนอยู่เลยครับ ก็เลยแบบว่าเรียน แล้วคราวนี้เหมือนที่บ้านเขาไม่มีเงินส่ง ผมก็เลยออกไปทำงานก่อนได้ประมาณ 2 ปี ปีหนึ่ง ก็เลยกลับมาขายขนมครกครับ”
ไส้ทะลัก เพราะคำทักนักศึกษา
“ก็คือแบบเริ่มขายในม.เกษตร แล้วคราวนี้มีนิสิตคนนึงมาบอกว่าให้ผมแบบ ใส่ไส้เยอะๆ ให้หน่อย แบบใส่ข้าวโพดเยอะๆ ให้หน่อยครับพี่ อะไรอย่างงี้ คือเหมือนเราก็แบบขายไปด้วยพูดไปด้วยอย่างงี้ เพราะสไตล์เราคือ คนแบบแซวไปเรื่อย ก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นและไอเดียของผมว่า เอ้ย เราจะทำไรดีวะ ให้มันเป็นที่น่าสนใจ เราก็เริ่มแบบว่าใส่ไส้เยอะตั้งแต่ตอนนั้นมา”
พ่อค้าฝีปากกล้า มากคอนเซ็ปต์
“ก็คือตอนที่เรารู้ว่าเราเป็นกระแส เราจะทำยังไงให้กระแสของเรายังอยู่ แบบว่ายังอยู่ตลอดเวลา ถ้าเราใช้เสียงทุกวันก็ไม่ได้ใช่ไหมครับ ผมก็เลยแบบว่าเริ่มหาอะไรมาติดหัว เริ่มทำให้ทุกคนเปลี่ยนจุดสนใจเรา มาดูเราขายขนมครกแล้วไม่เครียดครับ ก็เลยเริ่มแต่งหน้า เมื่อก่อนผมจะเป็นเอลซ่าที่มีหนวดครับ พอเดี๋ยวนี้ผมก็จะเป็นมาเลฟิเซนต์ในเวอร์ชั่นที่เราอยากจะเป็น ก็มีปีก มีเขา แล้วก็แบบแต่งได้ทุกสไตล์แล้วครับเดี๋ยวนี้ คือแบบวันนี้อยากทาตาสีฟ้า สีส้มแล้วแต่ครับ บางทีก็ถามลูกค้าว่าอยากได้สีอะไร ก็ทำตามลูกค้าครับ”
สีสันความสนุก คลิปไวรัลจากลูกค้า
“คือผมจะดูก่อนเลยครับ ผมไม่อยากให้เกิดปัญหาดราม่าตามมาอะไรงี้ ผมจะดูลูกค้าก่อนว่าถ้าลูกค้าคนนี้เล่นได้ หรือว่าลูกค้าคนนี้หยอกไปแล้วยิ้มอารมณ์ดี เราจะเล่น แต่ถ้าลูกค้าคนไหนแบบว่าหยอกไปแล้วปุ๊บชะงักเนี่ย ผมจะไม่เล่นเลย เพราะว่าผมคิดว่าแบบทีอารมณ์คนเรามันไม่เหมือนกัน ลูกค้าส่วนมากจะมาให้ด่า เด็กๆ อะไรงี้พี่ ก็คือแบบตามมาจากในติ๊กต๊อก ตามยูทูปเบอร์มาอะไรงี้ เขาก็จะดูสไตล์การขายของของเรา เราก็จะหัวเราะอะไรงี้ เขาก็บอกพี่หัวเราะให้ฟังหน่อย ด่าหนูหน่อยอะไรงี้ประมาณนี้ครับ”
ความลำบาก ที่ยากถึงขีดสุด
“เมื่อก่อนผมเป็นหนี้รายวัน วันละ 6000 อะไรงี้ คือผมก็ไม่มีตังค์อะพี่ คำว่าไม่มีตังค์คือไม่มีจริง ๆ ต้องแบบกู้เขา คือมันท้อมาก ตอนนั้นคือแบบว่าจะทำยังไงวะให้เราจะพ้นจากบ่วงกรรมอันนี้ มันไม่พ้นอะพี่เข้าใจป่ะ เรารู้สึกว่าทำไมชีวิตเราถึงไม่เหมือนคนปกติวะ ทำไมต้องแบบตื่นเช้ามาแล้วทำงานใช้หนี้ๆๆ อย่างเดียว คือแบบช่วงนั้นผมบอกเลยว่าท้อ แบบอยากให้รถใครก็ได้ขับมาชนผมให้ตายไปเลย เราก็นึกถึงพ่อแม่เราอะไรงี้เพราะว่าเราอยากให้พ่อแม่สบายใช่ไหมพี่ จะพูดยังไง เดี๋ยวร้อง จะร้องจริงๆ ด้วย คือผมจะคิดถึงพ่อกับแม่ตลอดครับว่า ทำไมวะ ทำไมพ่อแม่เราถึงไม่สบายเหมือนคนอื่น คือคนที่ทำให้เรามีทุกวันนี้ได้ คือพ่อกับแม่ที่คอยเตือนสติ”
แรงสนับสนุน ที่ไม่เคยลืม
“คือผมผ่านมาหมดแล้ว ผมผ่านแบบไม่มีข้าว โดนตัดไฟ ที่โดนไล่อะไรอย่างงี้ ผมเจอมาทุกรูปแบบ มันถึงแบบมันท้อที่สุดในชีวิตแล้ว แล้วคราวนี้พอเรามาเจอแสงสว่างเราก็อยากทำให้ท่านมีความสุขที่สุด ผมอยากจะขอบคุณพ่อกับแม่ก่อนที่ทำให้เราเกิดมา ขอขอบคุณแฟน ขอขอบคุณพี่ปลายฝนหมูกระทะ ขอขอบคุณครัวชลธาร และ FC ทุกคน เพื่อนๆ พ่อแม่พี่น้อง ที่ทำให้เรามีวันนี้ เพราะว่ามันต้องได้รับแรงสนับสนุนอย่างพ่อ แม่ พี่ แฟน แล้วก็ขอบคุณพี่ที่มาถ่ายคลิปในวันนั้นที่ทำให้ชีวิตเราเปลี่ยนไปเลย”
