THE OPINION สตรีทฟู้ด เยาวราช

หลังพิงฝา – หน้าสู้เตา : เยาวราชสตรีทฟู้ด กับมุมมองคลายล็อก – เปิดประเทศ

หลังเผชิญกับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากโควิด-19 ในระลอกที่ผ่าน ๆ มา

Home / TELL / หลังพิงฝา – หน้าสู้เตา : เยาวราชสตรีทฟู้ด กับมุมมองคลายล็อก – เปิดประเทศ

ประเด็นน่าสนใจ

  • [NOTE] บทความนี้เป็นมุมมอง-ความเห็นของพ่อค้าแม่ค้าอาหารในบนถนนเยาราช
  • ท่ามกลางการระบาดของโควิด-19 หลายระลอกทำให้ร้านค้าอาหารในหลายพื้นที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการที่เกิดขึ้น และเยาวราชก็เป็นสถานที่หนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการที่เกิดขึ้น ซึ่งไม่ต่างกับในตลาดโต้รุ่งในหลายพื้นที่
  • พ่อค้า-แม่ค้า ระบุ การเปิดประเทศผ่อนคลายมาตรการ ถือเป็นโอกาสที่จะเดินหน้า ต่อลมหายใจได้อีกครั้ง
  • แต่อยู่ในสภาวะหลังพิงฝา ถอยไม่ได้ มีเพียงต้องหันหน้าสู้ต่อไป
  • ฝากความหวังถึงภาครัฐ ในการจัดหาวัคซีนให้ได้ทั่วถึงมากขึ้น เพื่อเดินหน้าต่อไป อย่างน้อยก็ยังคงไปต่อได้

ตลอดระยะเวลาปีเศษที่ผ่านมา หลังจากการระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทย และมีการระบาดเพิ่มมากขึ้น นำไปสู่มาตรการการล็อกดาวน์ เคอร์ฟิว และมาตรการอื่น ๆ และร้านอาหารก็มักจะเป็นหนึ่งในธุรกิจที่จะได้รับผลกระทบจากมาตรการที่เกิดขึ้น หลาย ๆ อย่างตลอดเวลาที่ผ่านมา

เยาวราช หนึ่งในแหล่ง “สตรีทฟู้ด” ที่ขึ้นชื่อและได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดหลายปีที่ผ่านมา ก็ได้รับผลกระทบจากมาตรการที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในทุกระลอกของการระบาด ทั้งจากการห้ามนั่งรับประทานอาหารในร้าน และเคอร์ฟิว เนื่องจากร้านขายอาหารที่ถนนเยาราชจะเป็นร้านที่เปิดให้บริการในช่วงกลางคืน

พ่อค้า – แม่ค้าส่วนใหญ่ จะต้องรอให้ร้านขายของบริเวณนั้น ที่จะเปิดขายตั้งแต่ช่วงเช้าไปจนถึงเย็น กว่าร้านอาหารจะมาตั้งร้านเปิดได้นั้นก็เกือบจะ 18.00 น. ซึ่งเมื่อตั้งร้านขายอาหารเสร็จจะเหลือเวลาขายได้เพียงไม่เกิน 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น ก็ถึงช่วงเวลาเคอร์ฟิว

เมื่อรวมจำนวนของคนที่มาเดินน้อยลง ระยะเวลาที่สั้น แม้จะพยายามเปิดขายผ่านช่องทางต่าง ๆ แต่ก็ไม่เท่ากับการเปิดร้านให้นั่งรับประทาน

แต่เมื่อมีการผ่อนปรน ลดระยะเวลาในช่วงเคอร์ฟิวลง ทำให้การขายอาหารบริเวณถนนเยาวราชเริ่มกลับมาคึกคักมากขึ้น ถึงแม้จะไม่เท่าสถานการณ์ปกติ แต่อย่างน้อยก็ทำให้ผู้ประกอบการร้านอาหารหลายๆร้าน ได้มีช่วงเวลาต่อลมหายใจได้มากขึ้น และยังคงคาดหวังว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 จะเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน

พ่อค้า-แม่ค้ามอง เปิดประเทศก็พอดีขึ้นบ้าง

พ่อค้า – แม่ค้า มีมุมมองของการเปิดประเทศ เปิดพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว ว่าเป็นแนวทางที่จะช่วยกระตุ้นได้บ้าง แต่ก็ไม่ได้คาดหวังว่า สถานการณ์จะกลับมาเป็นเหมือนก่อนหน้านี้ ด้วยหลาย ๆ สาเหตุ แต่ท้ายที่สุดแล้ว ก็ยังคงพอที่จะให้ประคับประคองเดินต่อไปได้

ผู้ค้า ก. : ในความคิดเราเอง คิดว่าน่าจะยังไม่ดีขึ้นหรอก เพราะว่าไม่ใช่ประเทศเราประเทศเดียวที่โดน ประเทศอื่นก็โดน เค้าก็คงไม่มีกำลังทรัพย์ที่อยากจะมาเที่ยวอะไรแบบนี้ มันคงไม่ได้ แต่ถ้าเที่ยวในประเทศคงจะได้

ผู้ค้า ข. : น่าจะดีขึ้น แต่ก็คงไม่ได้ดีขึ้นเหมือนเมื่อก่อนเกิดการระบาด เผลอๆอาจจะไม่ถึง 50% ด้วยซ้ำ ในความคิดนะ

ผู้ค้า ค. : มันก็น่าจะกระเตื้องขึ้นหน่อย ถ้าเค้ามีมาตรการในการควบคุมให้มันรัดกุม เพราะไม่งั้นรัฐบาลก็เอาแต่กู้มา เศรษฐกิจมันก็ไปไม่ได้สักที

ไม่ทรงก็ทรุด หากระบาดรอบใหม่

แน่นอนว่า สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เมื่อต้องมีการเปิดประเทศ ผ่อนคลายมาตรการ ความเสี่ยงต่อการเกิดการระบาดอีกระลอกก็โอกาสที่จะเกิดขึ้นได้ แต่สิ่งที่สัมผัสได้คือ ทุกคนอยู่ในสภาวะหลังพิงฝา ต้องเดินหน้าสู้ต่อไป

ผู้ค้า ก. : ก็อย่างที่ทางภาครัฐบอก สวมแมส ล้างมือ ก็อย่างที่เราเคยทำเหมือนเดิม เพราะถ้าจะทำมากกว่านี้คงไม่ได้ เพราะชีวิตเรายังต้องขายของอยู่ตรงนี้ มันก็ยังต้องทำตรงนี้อยู่ จะให้อยู่แต่บ้านคงไม่ได้

ผู้ค้า ข. : ตายแน่!! เพราะทุกวันนี้ก็ประคองร้าน ดูแลลูกน้องไป ถ้ามาอีกเปิดร้านไม่ได้อีก ก็คงไม่มีอะไรเหลือแล้ว เพราะบ้าน รถยนต์ หรือว่าทองที่มีก็ขายจนหมดละ หมดไปกับรอบนี้แหละ แถมยังเป็นหนี้แบงค์อีก

ผู้ค้า ค. : เราก็เหมือนเดิม แต่ก็ต้องเข้มงวดขึ้นอีกหน่อย และก็ขอให้รัฐบาลดูแลเรื่องการฉีดวัคซีน และดูแลคนที่จะเข้ามาพยายามคัดกรองให้ได้มากที่สุด

คาดหวัง..

หลังจากผ่านสถานการณ์การระบาดมาหลายระลอก จนถึงวันนี้ บรรดาผู้ค้าบนถนนเยาวราช ล้วนแล้วแต่ยังคงคาดหวังว่า อย่างน้อยชีวิตจะยังคงเดินต่อไปได้

ผู้ค้า ก. : ศักยภาพของประเทศเรา จะรอรัฐบาลช่วยอย่างเดียวคงไม่ได้ เราคงต้องช่วยตัวเองก่อน

ผู้ค้า ข. : ช่วยหาวัคซีนให้กับประชาชนได้ครบ ทุกๆคนจะได้มีภูมิต้านทาน แม้การเปิดประเทศจะโอเค แต่ความเสี่ยงมันก็ 50 – 50 ถามว่าข้อดีมีมั้ยก็มี ข้อเสียก็มี คือเราก็ไม่แน่ใจว่าชัวร์หรือไม่ชัวร์ ถ้าคนในประเทศได้รับวัคซีนครบแล้ว พอโรคเข้ามาก็ยังพอทุเลาได้ ที่เหลือก็ให้นักท่องเที่ยวช่วยเซพตัวเอง เช่นใส่แมส ล้างมือ ดูแลตัวเอง

ผู้ค้า ค. : อยากให้งดเว้นเรื่องการเก็บภาษีเกี่ยวกับโครงการคนละครึ่ง อยากให้ภาครัฐงดเว้นเรื่องนี้ไว้ก่อน เพราะอยากให้ประเทศเริ่มฟื้นตัวแล้วค่อยกลับมาคิดเรื่องภาษีใหม่ และที่สำคัญอยากให้คัดกรองผู้ที่กำลังจะเข้ามาในประเทศให้ดีที่สุด

ในการเปิดประเทศ การผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันนี้ หลายฝ่ายยังคงคาดหวังว่า หลาย ๆ เรื่องจะดีขึ้น และยังคงสามารถขับเคลื่อนต่อไปข้างหน้าได้ หลายคนอยู่ในสถานะ “หลังพิงฝา-หน้าสู้เตา” เพราะถึงจุดที่ต้องสู้ ต้องเดินต่อไป แม้ว่า โอกาสที่จะเกิดขึ้นข้างหน้ายังมีความเสี่ยงยังคงมีอยู่ แต่หลายคนก็พร้อมรับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้

วัคซีน ยังคงเป็นเรื่องหลักที่ทุก ๆ คนพูดถึง และคาดหวังให้ภาครัฐจัดหามาเป็นเรื่องหลัก สำหรับการเดินหน้าใช้ชีวิตร่วมกับโควิด-19 เพราะคิดว่า โควิด-19 จะยังคงอยู่ ดังนั้นการป้องกันที่มีอยู่ในขณะนี้คือการให้วัคซีนกับทุก ๆ เพื่อลดการเสียชีวิต เพราะอย่างน้อย ชีวิตที่ยังเหลืออยู่ ก็ยังคงเดินหน้าต่อไปได้นั่นเอง


ภาพ – วิชาญ โพธิ, ธนโชติ ธนวิกรานต์