ณรงค์ สายรัตน์ TAXI โชห่วยที่มีพร้อมทุกอย่างในรถเพื่อปันความสุขสู่ลูกค้า คุณณรงค์เล่าว่านอกเหนือจากที่ผมให้กับลูกค้า ที่ผมได้รับจากลูกค้าก็มีรอยยิ้ม มีความสุข มองกระจกหลังเห็นลูกค้าขึ้นมา เขามีรอยยิ้ม มีความสุข มีคำพูดคำจา พูดคุยกับเรา อัธยาศัยที่ดีๆ ต่อกัน มันก็เลยมีความมุ่งมานะ จากเราเหนื่อย เราล้า เราก็ยังฮึดสู้ สำหรับรอยยิ้มลูกค้ามันก็คือพลังแล้ว
ส่วนต่างค่ามิเตอร์ ทำให้เกิด “Taxi โชว์ห่วย”
“นอกเหนือจากส่วนต่าง ที่ผมได้เก็บจากลูกค้าแบบอัตโนมัติ เศษน้ำใจตรงนั้น มานั่งมอง เราเอาเปรียบเขาเกินไปไหม? เลยเอามาหยอดกระปุกไว้ ก็เลยซื้อขึ้นมาอันไหนที่พอมีประโยชน์กับลูกค้า ซื้อมาวางไว้ในคอนโซลรถ เผื่อคนที่ไม่มี เขาได้หยิบจับไปใช้ พอซื้อไปซื้อมา น้ำใจลูกค้าก็เติมให้ เติมให้จนติดไว้เต็มคอนโซลรถ ทำอยู่อย่างนั้น ทำไปทำมามันก็เต็มรถเลยทีนี้”
รถ Taxi ที่เหมาะสมกับคำว่า “สากกะเบือยันเรือรบ”
“โชห่วยมาได้ประมาณ 10 กว่าปีแล้ว จะ 13 ปีแล้ว คันเก่ามีทั้งครกทั้งสาก สากกะเบือยันเรือรบนะ คันเก่าหมดครกกับสากไป 3 ชุดนะ ลูกค้าเขาเอาไป “ลุงๆ อยากได้ครกกับสาก” หื้ม…จัดไปๆ พอได้ครกกับสากถือขึ้นคอนโด ยิ้มแป้น พอรถจะออก ก็ลงมาหาใหม่ ลุงๆ ฝากมาหยอดกระปุกไว้เหมือนเดิม”
“ของในรถผมมีแต่สินค้าดีๆ นะ เรากล้าให้ในสิ่งดีๆ กับเขา เขาก็จะตอบแทนในสิ่งดีๆ กลับมา คิดซะว่าเราให้สิ่งดีๆ เขาไป คนเขาไม่กินไม่ใช้ เขาเห็นเราแสดงออก เอื้อเฟื้อคนอื่น คนที่เขามีเขาก็เติมให้เรา”
“สิ่งไหนที่มันขาดหายแหว่งจากตำแหน่งเดิม มันคือความสบายใจที่สุด คุณสามารถหยิบจับไปกิน หยิบจับไปใช้ได้ตามอัธยาศัย แม้แต่คุณจะควักเงินซื้อผมก็จะบอกลูกค้าตลอดว่า สิ่งที่เห็นในรถมันไม่ใช่สิ่งของของผมนะครับ มันเป็นเศษน้ำใจพวกคุณ แล้วแต่ความสะดวกแล้วแต่น้ำใจจะต่อเติมกันไป ถ้าขอซื้อไม่ขาย ถ้าถามว่าเงินที่ได้มามันเยอะขนาดไหน ถ้าตีเป็นตัวเลขมันตีไม่ได้หรอก เพราะว่าเราได้มา เราก็ซื้อไป แต่ถามว่าน้ำใจลูกค้าให้ผมกลับมา ล้นไหม? มันล้นครับ”
ความสุขของเรา คือ รอยยิ้มของลูกค้า
“ถ้าถามว่าผมได้กำลังใจจากไหน? ได้ความสุขจากไหนกับลูกค้า? นอกเหนือจากที่ผมให้กับลูกค้า ที่ผมได้รับจากลูกค้าก็มีรอยยิ้ม มีความสุข มองกระจกหลังเห็นลูกค้าขึ้นมา เขามีรอยยิ้ม มีความสุข มีคำพูดคำจา พูดคุยกับเรา อัธยาศัยที่ดีๆ ต่อกัน มันก็เลยมีความมุ่งมานะ จากเราเหนื่อย เราล้า เราก็ยังฮึดสู้ สำหรับรอยยิ้มลูกค้ามันก็คือพลังแล้ว”
“มันก็มีทุกคนคำว่าเหนื่อยหรือท้อ แต่ก็ต้องหันไปมองคนอื่น คนที่เขาแย่กว่าเรา บางทีขับไปแดดร้อนๆ คนก็ไม่มีโบก ไปเจอรถซาเล้ง เขาขายเกลือ สะพายกระเป๋า 1 ใบ แดดร้อนๆ เราก็ไม่มีลูกค้า เออ…เขายังสู้ว่ะ ไอ้เรายังนั่งอยู่ในห้องแอร์ ไม่มีใครโบกก็ช่างมันเถอะ ขี่ตามหลังเขาไป ในเมื่อเขาแย่กว่าเรา เขายังสู้”
“ซึ่งตรงนี้มันก็สามารถสื่อสารสอนจิตใจคนได้ในสังคม ให้เราซื่อสัตย์กับลูกค้า ในหน้าที่การงานของเรา ในงานบริการ คำพูดคำจา น้ำเสียงให้รู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน สอนให้เรารู้จักเอื้อเฝื้อเผื่อแผ่คนอื่น คนเราต้องรู้จักคำว่าให้ ก่อนที่เราจะอยากได้ของคนอื่นเขา”
“ชีวิตผมเป้าหมายมันก็ไม่มีอะไรหรอก ที่ผมบอกว่าอย่างนี้ เพราะว่าชีวิตผมคนมันไม่มีต้นทุนชีวิตเหมือนครอบครัวอื่น คนอื่นเขามีต้นทุนชีวิตที่ดี เขาหันไปหาพี่หาน้อง ติดขัดเงินตรงไหน ตรงนั้นเขายังมีพี่มีน้องหยิบยืม ประทังตัวผมต้นทุนชีวิต พ่อแม่ก็ไม่มี มันต้องดิ้นต้องหาด้วยตัวเอง คิดอยู่อย่างเดียวว่าเราอย่าคิดไปสร้างหนี้สร้างอะไร และอีกอย่างอาชีพในการขับ Taxi มันไม่ใช่อาชีพที่น่าเกลียดในการหาเงิน มีแต่สิ่งดีๆ นี่แหละครับ สู้ต่อไป แล้วก็ตอบแทนลูกค้าครับผม”