NEXTPEOPLE คนไม่หมดไฟ

ไทบ้านเดอะซีรีส์หนังที่นับจากคำว่าศูนย์

โอม อวิรุทธ์ อรรคบุตร ผู้บริหาร เซิ้ง โปรดักชั่น ได้เล่าให้ทาง NEXT PEOPLE ฟังว่าเซิ้งเกิดขึ้นจากการรวมกลุ่มของเด็กนักเรียนที่อยู่ศรีสะเกษ..

Home / TELL / ไทบ้านเดอะซีรีส์หนังที่นับจากคำว่าศูนย์
https://youtu.be/lF3BqXjb9tY

โอม อวิรุทธ์ อรรคบุตร ผู้บริหาร เซิ้ง โปรดักชั่น ได้เล่าให้ทาง NEXT PEOPLE ฟังว่าเซิ้งเกิดขึ้นจากการรวมกลุ่มของเด็กนักเรียนที่อยู่ศรีสะเกษ ซึ่งได้มาทำกิจกรรมด้วยกันแล้วก็ชอบทางด้านสื่อ คุณโอมเล่าว่าคิดว่าที่ไทบ้านมาไกลขนาดนี้เกิดจาก ‘ทีมเวิร์ค’ เกิดจากคนที่แข็งเรื่องของ ‘ไอเดีย’ ให้มั่นใจตัวเองแบบนั้น เราคิดถึงหลักความเป็นจริงแล้วมันจะไปได้ แล้วก็ให้เริ่มทำเลย

ระหว่างรอรับปริญญา “เซิ้งโปรดักชั่น” จึงถือกำเนิดขึ้น!

“เซิ้งมันเกิดขึ้นจากการรวมกลุ่มของเด็กนักเรียนที่อยู่ศรีสะเกษ เกิดมาจากเราทำกิจกรรมใน จ.ศรีสะเกษด้วยกันแล้วก็ชอบทางด้านสื่อ สักระยะหนึ่งเราก็แยกย้ายไปเรียนมหาลัยต่างคนต่างไปเรียนในสิ่งที่ตัวเองชอบ นิเทศฯ เหมือนกันหมด ไอเดียเกิดจากเนี่ยรับปริญญาช้า รอรับปริญญาประมาณปีนึงพอว่างปีนึงเสร็จปั๊บก็เลยตั้งโปรดักชั่นกัน โปรดักชั่นตอนแรกชื่อว่า มานี มานะ ผ่านไปอาทิตย์นึง กี้ (ตัดต่อ) โทรกลับมา โอมเราว่าชื่อเซิ้งไหม เพราะเราว่ามันคล้ายๆ อีสานมันน่าจะสนุก ก็เลยกลายเป็นเซิ้ง กี้ก็ทำโลโก้มา ดราฟเดียวผ่าน”

ก่อนจะเป็นหนัง “ไทบ้าน”

“พอได้บริษัทเสร็จปั๊บก็โทรหาพี่ศักดิ์ (ผู้กำกับ) เรามาทำซีรีส์อีสานไหม ยังไม่ได้ชื่อเรื่องนะแต่ทำอะไรก็ได้พี่ เห็นพี่ศักดิ์แกจะชอบคิดบทคิดไรไว้ ก็มาได้เรื่องไทบ้านได้ชื่อไทบ้าน ก็เลยกลายเป็นไทบ้าน เดอะซีรีส์ ตอนนั้นมันเป็นซีรีส์เลย 12 ตอนลงยูทูป พอเสร็จก็นั่งคิดกันว่าทำยังไงต่อ ศักดิ์ก็เลยว่าต้องทำทีเซอร์ว่ะไม่งั้นคนไม่เห็นภาพ เราก็แคสคนมาศักดิ์ก็เริ่มทำเพจ มีนักแสดงเข้ามา คนก็ไม่รู้จักคนนี้คือใคร คนนี้คือใคร แต่คาแรคเตอร์มันตลกบวกกับระหว่างนั้นก็ถ่ายทีเซอร์ รวมเงินกันก้อนนึงไปถ่ายทีเซอร์กัน”

หนังนอกกระแส สปอนเซอร์ไม่มี!

“พอขายสปอนเซอร์ผ่านไปปีนึงแล้วนะ ขายไม่ได้ไม่มีคนซื้อ มีแต่คนบอกว่าใครอะ พี่หม่ำเล่นไหม? เอาหม่ำมาเล่นสิ อีสานต้องหม่ำ เราก็เลยบอกว่าเราไม่มีเงินจ้างขนาดนั้น ก็คุยกันในกลุ่มว่าเอายังไงต่อ ศักดิ์เลยตัดสินใจว่าขอปล่อยทีเซอร์ลงออนไลน์ได้ไหม? ตอนนั้นก็ขัดแย้งกันอยู่ว่าถ้าปล่อยไปแล้ว แล้วไม่มีสปอนเซอร์เข้าล่ะ ของมันจะเสียหรือเปล่า? สุดท้ายแล้วศักดิ์ก็เลยตัดสินใจปล่อย พอปล่อยปั๊บก็เริ่มมีกระแสสักประมาณ 3-4 วัน ล้านวิว สุดท้ายแล้วก็คือได้นายทุนเป็นเฮียโต้ง ศรีสะเกษ แกขอเงื่อนไขอย่างเดียวก็คือว่าจะเจ๊งก็ได้ ไม่เป็นไร แต่ขออย่างเดียวต้องถ่ายที่ศรีสะเกษ โอเคเงื่อนไขมีแค่นั้นเราก็เลยถ่ายบ้านเกิดตัวเองก็เลยได้ใช้ทรัพยากรบ้านตัวเองโดยการผลักดันคนในพื้นที่ด้วย”

กว่าจะได้ออกฉาย มันไม่ง่ายอย่างที่คิด!

“พอทำหนังเสร็จมากุมขมับต่อคือกูจะไปฉายไหน ระหว่างถ่ายก็ไปวิ่งเรื่องโรงหนังด้วย เอาทีเซอร์เดิมไปบอก พี่ผมกำลังทำหนัง ผมไม่มีที่ฉาย ก็ไปเครือๆ หนึ่งในกรุงเทพฯ เหมาโรงพี่ไปเลย 1 โรงแถวนวนครเพราะว่าถ้าให้มาฉายในกรุงเทพฯ น้องต้องมีเงิน 2-3 หมื่นต่อโรงหนัง เหมาโรงพี่ไปเลย 2 หมื่นกว่าบาทแล้วก็เกณฑ์คนมาดู เราก็เลยแบบ ต้องมีเงินขนาดนึงเลยเหรอวะหนึ่งโรง ด้วยความไม่รู้ผมก็เลยบอกว่าพี่ผมไม่เอา ผมไม่มีเงินขนาดนั้น สุดท้ายเราก็ได้ MVP มาช่วยใจชื้นแล้วทีนี้ กลับไปบอกทีมงาน ทีมงานบอกเออกูได้ฉายแล้ว มีโรงฉายแล้ว”

ฉายวันแรก โรงหนังแตก

“พอหนังมันเริ่มฉายคนมันโรงแตก เพราะว่าโรงมันฉายน้อย หนังเราจะเข้าได้แค่โรงเดียวคือไม่ใช่หนังหลักหนังเกรดบี เหมาไปก่อนรอบนึง วันนึงมี 4 รอบอย่างงี้พอคนไปดูปั๊บรอบเต็มตั้งแต่รอบเช้า โรงหนังเริ่มผิดสังเกตมันมายังไงวะหนังเรื่องนี้ สุดท้ายแล้วหนังเรายืนระยะได้ประมาณ 3-4 อาทิตย์ เกือบเดือนนึง”

เริ่มต้นจากคำว่า “ศูนย์”

“พอองค์กรเรามันใหญ่ขึ้นจากทำงานกัน 7 คน 6 คน ตั้งแต่แรกตอนนี้ 50 60 แรกๆ กว่าจะมาทำไทบ้านภาคแรกได้ทะเลาะกันเกือบตาย เพราะว่าอะไร มองคนละมุม บางคนเชื่อ บางคนไม่เชื่อ บางคนไม่เข้าใจว่ามึงทำอะไร กูทำอะไร สุดท้ายก็ต้องมาคุยกัน พอคุยกันได้ก็ไปต่อกันได้ มีความยากนะของระดับวัยรุ่นที่มาบริหารจะเป็นแบบนี้จะเจอกันบ่อย อายุน้อยมาบริหารจะเกิดจากอารมณ์มาเป็นตัวตั้ง พี่คิดว่าที่ไทบ้านมาไกลขนาดนี้มันเกิดจาก ‘ทีมเวิร์ค’ เกิดจากคนที่แข็งเรื่องของ ‘ไอเดีย’ ให้มั่นใจตัวเองแบบนั้น เราคิดถึงหลักความเป็นจริงแล้วมันจะไปได้ แล้วก็ให้เริ่มทำเลย”