คุณลุงพิเชษฐ์ เพชรรูจี หรือ ลุงบอม ชายผู้ที่รักและคลั่งไคล้หนังสือ ลุงบอมทำอาชีพขายหนังสือมาประมาณเกือบ 40 ปีแล้ว จุดเริ่มต้นก็คือการเก็บหนังสือที่ไปเขียนงานบทความจากนิตยสารนั้น นิตยสารนี้ กระทั่งมันเหลือเยอะแยะจนต้องเอามาขาย ซึ่งหนังสือในร้านของลุงบอมมีหลากหลายประเภทไม่ว่าจะเป็นหนังสือต่างประเทศ หนังสือการ์ตูนหลากหลายภาษา หนังสือแนวสะสม หนังสือพิมพ์เก่า หนังสือพิมพ์โบราณ วรรณกรรมและอื่นๆ อีกมากมาย ลุงบอมเล่าว่าเป้าหมายในการขายหนังสือของลุงคือ การขายและให้ความรู้แก่คนทั่วไป ใครจะมาก็สามารถเข้ามาได้ตลอดไม่จำเป็นต้องซื้อ มาคุยมาถามหาลุงบอมยินดีให้คำปรึกษาและยินดีบริการตลอด
จุดเริ่มต้นของ บอม บูธ บุ๊ค
“จุดเริ่มต้นก็การเก็บหนังสือที่ไปเขียนงานบทความจากนิตยสารนั้น นิตยสารนี้ จนกระทั่งมันเหลือเยอะแยะจนต้องเอามาขาย หมายถึงว่าเราซื้อมาเพื่อเป็นส่วนประกอบในการเขียนงานเท่านั้น ส่วนใหญ่จะเป็นหนังสือต่างประเทศโดยเฉพาะ ฝรั่งเศส เยอรมัน สเปน หรืออังกฤษ”
ร้านลุงบอมขายหนังสือแบบไหน?
“โซนนี้จะเป็นโซนหนังสือการ์ตูนหลากหลายภาษา ตั้งแต่ภาษาญี่ปุ่น ภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส แล้วก็ภาษาไทย เป็นแผนกการ์ตูน พวกนี้จะเล่มละ 100 บาททุกเล่ม”
“เหมือนกับพ็อกเก็ตบุ๊คด้านหลังมีประมาณเป็นพันเล่มกับ National Geographic พวกนี้จะ 100 เดียวทุกเล่ม อยู่ด้านหลัง”
“ส่วนด้านหน้าจะเป็นหนังสือแนวสะสม หนังสือพิมพ์เก่า หนังสือพิมพ์โบราณ หรือว่าวรรณกรรมเรื่องสั้น ถัดจากวรรณกรรมไปจะเป็นอาหารโบราณ อาหารโบราณเสร็จก็จะเป็นแนวแฟชั่น นาฬิกาโบราณ สี่ตั้งนี้จะเป็น Antique พร้อมกับ Arts แล้วก็ปนกับหนังสือโบราณที่อยู่ชั้นบน ตรงนี้จะเป็นการ์ตูนหน่อยนึง เป็นการ์ตูนเก่า ด้านนี้จะเป็นหนังสือโบราณมาก ร้อยกว่าปีของฝรั่งเศส ส่วนใหญ่จะเป็นหลักร้อยถ้ามันหาง่าย ถ้ามันหายากๆ ก็จะเป็นหลักพัน พวกนี้ก็จะเป็นตำรายาโบราณ เป็นเอกสารเก่าสมัย ร.5 แล้วก็จะมีเป็นพวกหนังสืองานศพที่เขาสะสมกันจากพวกงานศพเก่า”
“ชั้นด้านหลังพวกนี้จะเป็นวรรณกรรม แล้วก็เป็นหนังสือ Antique กับ Interior ถูกสุดก็ 100 บาท แพงสุดเป็นหมื่น ก็พวกหนังสือหายาก ตำราพระ ตำราอะไรต่ออะไร หรือหนังสืออายุร้อยกว่าปีขึ้นไป”
เสน่ห์คือความเก่า ที่มาคู่กับความเก๋าแบบคลาสสิค
“ความเก่า ความสวย ความหายาก หนังสือใหม่ ยิ่งใหม่เท่าไหร่ยิ่งถูก เพราะว่าคุณมีเงินเท่าไหร่ก็สามารถพิมพ์ใหม่ได้ แต่หนังสือเก่าเนี่ยให้คุณมีเป็นพันล้าน ร้อยล้าน คุณก็ไม่สามารถพิมพ์หนังสือเก่ามาได้”
บริการแบบใส่ใจแล้วจะได้ความเชื่อมั่น
“เราหาของความหายากของหนังสือให้กับลูกค้า ลูกค้าสั่งเราต้องหาให้ได้ ถ้าได้เราก็ได้ลูกค้าเท่านั้นเอง”
ความสุขแบบคนรักหนังสือ
“มีค่าทางจิตใจ ความสุขในการได้เป็นเจ้าของ นั่นคือความสุขของคนที่อยากได้หนังสือต่างกับคนที่อ่านหนังสือเพื่ออ่านแล้วผ่านไปไม่เหมือนกับคนที่เขาเก็บและสะสม คนเก็บสะสมเนี่ยเขาจะอ่านแล้วอ่านเล่า อ่านวนไป อ่านวนมา”
มากกว่ายอดขายคือการได้แลกเปลี่ยนความรู้
“การขายคือการได้ความรู้จากลูกค้าอีกที สิ่งที่ลุงหยุดไม่ได้และก็ไม่มีวันจบเลยก็คือการเรียนรู้ของลุงจากลูกค้า ลุงถือว่าลูกค้าคืออาจารย์ของลุงอีกที เพราะลูกค้าแต่ละคนเนี่ย มาหาของและมีความรู้มากมายกว่าลุงเยอะแยะแล้วก็หลากหลายสาขา เพราะฉะนั้นลุงก็เรียนรู้จากคนที่เขามาซื้อ บางทีลุงอธิบายให้เขาผิด อ้อนี่ลุงไม่ใช่นะ อย่างงั้นอย่างงี้นะ เพราะฉะนั้นการเรียนรู้ของลุงกับลูกค้าเนี่ยไม่มีวันที่สิ้นสุด”
เป้าหมายของชายผู้ที่ รัก และ คลั่งไคล้ หนังสือ
“เป้าหมายคือ การขายและให้ความรู้แก่คนทั่วไป ใครจะมา เข้ามาได้ตลอดไม่จำเป็นต้องซื้อ มาคุยมาถามหาพร้อมเมื่อไหร่ก็มา ยินดีให้คำปรึกษา ยินดีบริการตลอด”
ลุงบอมฝากร้าน
“ร้านของลุงจะมีอยู่ 2 สาขา สาขาหนึ่งก็คือ เกตเวย์ เอกมัย ส่วนสาขาสองก็คือ ดองกิ อยู่ชั้น 3 มาได้ทุกวัน เวลาเปิดก็ถ้าเป็นที่เกยเวย์ก็ประมาณ 11 โมง ถึงประมาณทุ่มครึ่ง สองทุ่ม ส่วนที่ดองกิก็ 10 โมงกว่าๆ ปิดประมาณทุ่มนึง แต่ต้องมาตอนกลางวันเช้าถึงเย็นผมอยู่ที่ดองกิ”
