เรื่องของการผจญภัยเชื่อว่าหลายคนต้องเคยมีเรื่องผ่านหูมาไม่มากก็น้อย แต่เรื่องที่เราจะเล่าในครั้งนี้ เป็นอีกเรื่องที่คู่ควรจะถูกจารึกเอาไว้ในฐานะตำนานเรื่องหนึ่ง ที่เต็มไปด้วย ความทุ่มเท ความตื่นเต้น และ ความหลงใหล บนเรื่องราวของ เฮลเก้ เพเดอร์เซน ชายผู้ใช้เวลากว่า 10 ปีท่องพิภพด้วย มอเตอร์ไซค์ BMW คู่ใจของเขา
ตำนานแห่งการผจญภัยของ สแกนดิเนเวีย
ชาวสแกนดิเนเวีย (ประกอบด้วยสวีเดน นอร์เวย์ และเดนมาร์ก) เป็นหนึ่งในเชื้อชาติที่หลงใหลในการผจญภัยมาตั้งแต่ครั้งบรรพบุรุษ เราจะเห็นผู้คนในแถบนี้ล่องเรือไปยังดินแดนต่างๆ ในสร้างชื่ออันเป็นตำนานอย่าง “ไวกิ้ง” มาแต่โบราณ แม้ยุคสมัยจะเปลี่ยนไปแต่นิสัยรักการท่องเที่ยว การผจญภัยไปในดินแดนใหม่ๆ อันไม่คุ้นเคยก็ยังคงเป็นคุณสมบัติเด่นของชนชาตินี้
เฮลเก้ เพเดอร์เซ็น นั้นมีเชื้อชาติ นอร์เวย์ จึงไม่แปลกที่จะสืบทอดคุณลักษณะเด่นของบรรพชนไว้อย่างเต็มเปี่ยม เพียงแต่เขาเลือกใช้มอเตอร์ไซค์เป็นพาหนะแทนที่จะใช้เรือใบเหมือนชาวนอร์สหรือ “ไวกิ้ง”แต่กาลก่อน
เพเดอร์เซ็นเติบโตขึ้นในเมืองคริสเตียนแซนด์ เมืองใหญ่ที่สุด 1 ใน 6 เมืองของนอร์เวย์ ชาวสแกนดิเนเวียรักการใช้พาหนะสองล้ออยู่แล้วโดยสายเลือด จึงไม่น่าแปลกใจที่เพเดอร์เซ็นจะชอบขี่มอเตอร์ไซค์ เขาเริ่มสนุกกับมันตั้งแต่ยังเด็กด้วยสกูตเตอร์ขนาด 50 ซีซี. ที่ใช้ท่องไปในเขตเมืองคริสเตียนแซนด์และใกล้เคียง ระหว่างนั้นความกระหายใคร่จะท่องโลกได้ถูกบ่มเพาะขึ้นตามวัย ในวัย 20 ต้นๆ เขาจึงซื้อมอเตอร์ไซค์ใหญ่แบบขี่ทางเรียบเป็นคันแรก คือ BMW R100/7 เครื่องยนต์บ็อกเซอร์ 4 จังหวะขนาด 1,000 ซีซี ที่แรงพอจะขี่ทางไกล ท่องไปได้ทุกที่
การผจญภัยในโลกกว้างของเพเดอร์เซ็น
เพเดอร์เซ็นสนุกกับการท่องเที่ยวในนอร์เวย์มากพอให้คิดได้ว่าโลกนี้ยังมีอะไรๆให้ค้นหาอีกมาก แต่ยังต้องการพาหนะคู่ใจที่ไว้ใจได้อยู่ มอเตอร์ไซค์ที่จะพาเขาออกสู่โลกกว้างต้องเป็นแบบวิบากที่ขี่ลุยได้ทุกสภาพถนน ประสบการณ์กับ R100/7 นั้นดีเกินกว่าจะมองหามอเตอร์ไซค์แบรนด์อื่น แล้วช่วงเวลาอันประจวบเหมาะก็มาถึงเมื่อ BMW เปิดตัวมอเตอร์ไซค์วิบาก (เอ็นดูโร) รุ่น R80G/S ในปี 1980 สำหรับเพเดอร์เซ็นแล้วมันเหมือนฝันที่เป็นจริง ไม่ต้องพิสูจน์อะไรอีกแล้ว เขาขายทุกสิ่งแล้วสั่งหนึ่งในสองคันแรกส่งตรงจากโรงงานในกรุงเบอร์ลิน เยอรมนี ถึงนอร์เวย์ทันทีในปี 1981 ตั้งชื่อมันว่า”โอลกา”(Olga) ด้วยความฝันว่าจะท่องไปให้ไกลตามใจปรารถนา ไม่มีโจทย์ในใจว่าต้องไปถึงไหนแต่รู้อย่างเดียวว่าอีกนานถึงจะกลับมานอร์เวย์อีก
เพเดอร์เซ็นในวัย 27 จากเมืองคริสเตียนแซนด์มาพร้อมกับ ‘โอลกา’ ที่ควบลุยไปในเส้นทางอันห่างไกล สู่เมืองต่างๆ และผู้คนที่ไม่คุ้นเคยทั้ง จีน ปากีสถาน และที่อื่นๆ เขาได้พบบทเรียนมากมายและเหนือความคาดหมาย เช่น ถูกปรับจากการข้ามเขตแดนโดยไม่ลงทะเบียนมอเตอร์ไซค์ต่างชาติในจีน / หนังสือเดินทางถูกยึด / ถูกขังในค่ายทหารแถบชายแดนปากีสถานเพราะถูกคิดว่าเป็นบุคคลต้องสงสัย / เผชิญกับภูมิอากาศอันทารุณทั้งร้อนและหนาวในอาฟริกาและรัสเซีย ต้องขี่มอเตอร์ไซค์อยู่กลางขบวนทหารคุ้มกันในเคนยาให้ปลอดภัยจากการโจมตีของกองโจรโซมาเลีย วิ่งหนีอุตลุตเมื่อภูเขาไฟซากุระจิมะของญี่ปุ่นระเบิดขึ้นทันทีหลังกางเต็นท์เสร็จ
มากกว่ามอเตอร์ไซค์คู่ใจของตำนาน
ในทุกเหตุการณ์ ทุกความยากลำบาก ของเพเดอร์เซ็น จะมี R80 G/S ไปด้วยเสมอด้วยความที่เจ้าคันนี้เป็นมอเตอร์ไซค์รุ่นแรกของ BMW ที่ถูกออกแบบให้ใช้งานแบบ dual sport คือทำความเร็วได้ดีบนทางเรียบแต่ในขณะเดียวกันก็ลุยทางไกลได้ไม่พรั่นด้วยปริมาตรกระบอกสูบ 800 ซีซี. เร่งแซงได้ปลอดภัย ของเครื่องยนต์สองสูบยันแบบบ็อกเซอร์ระบายความร้อนด้วยอากาศให้กำลังขับเคลื่อน 50 แรงม้า ถังน้ำมันจุ 19 ลิตรครึ่งนั้นเพียงพอกับการลุยไกล 300-400 ก.ม. หรือถ้าต้องการจะทำระยะทางให้ไกลยิ่งขึ้นก็ต้องเปลี่ยนมาใช้ถังน้ำมันใหญ่พิเศษพร้อมถังสำรองจึงทำให้เขาสามารถฝ่าวิกฤติที่เหลือเชื่อมาได้ทุกครั้ง
เพเดอร์เซ็น กับการยอมรับจากทั่วโลก
การเรียนเพื่อเป็นช่างภาพและนักข่าวของเพเดอร์เซ็นนั้นลงตัว สำหรับการท่องโลกด้วยมอเตอร์ไซค์ เล่าเรื่องราวจากประสบการณ์ที่พบจากการท่องโลกบนอาน เพราะเขาสามารถสื่อสารได้ถึง 4 ภาษาคือภาษานอร์เวย์ อังกฤษ สเปนและภาษาเยอรมันการเผชิญโลกจึงไม่ใช่เรื่องยาก เพเดอร์เซ็นใช้เวลาถึง 10 ปีในการเขียน ถ่ายทำวิดีโอ ถ่ายภาพนิ่งตลอดเส้นทาง เพื่อแบ่งปันประสบการณ์และเรื่องราวของผู้คน วัฒนธรรม และบ้านเมืองอันไม่คุ้นเคยในที่ต่างๆรอบโลก ในระยะทางที่รวมกันได้นับหลายแสนไมล์ เขียนบทความลงสื่อทั้งแบบเอาต์ดอร์และมอเตอร์ไซค์นับสิบฉบับ เช่นนิตยสาร Cycle World, Motorcyclist และนิตยสารสารคดีที่มีผู้ติดตามอ่านอยู่ทั่วโลกคือ National Geographic นอกจากสิ่งพิมพ์เรื่องราวของเพเดอร์เซ็นปรากฏอยู่ในสื่อดิจิตอลมากมายทั้ง Discovery Channel, PBS, Wealth TV และสารคดีอื่นๆที่แพร่หลายไปทั่วโลก
’10 Years on 2 Wheels’ 1 ทศวรรษ กับการก้าวสู่ความฝัน
นับเป็นเวลา 1 ทศวรรษของการท่องโลกด้วยมอเตอร์ไซค์ BMW เพเดอร์เซ็นได้เขียนหนังสือขึ้นเล่มหนึ่งคือ “10 Years on 2 Wheels” หลังจากกลับมานอร์เวย์ในเดือนกันยายน 1992 เป็นการรวบรวมประสบการณ์การท่องเที่ยวด้วยมอเตอร์ไซค์ตลอดเวลา 10 ปีด้วยระยะทาง 250,000 ไมล์ ใน 77 ประเทศ เป็นหนังสือเบสต์เซลเลอร์ที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ใฝ่ฝันจะเดินตามรอยของเขากับ “โอลกา” มอเตอร์ไซค์คู่ชีพตลอด 10 ปี
แต่นั่นไม่ใช่จุดจบของการเดินทาง เพเดอร์เซ็นมีความฝันและเขาอยากแบ่งปัน ต้นทศวรรษ 1990 เขาย้ายถิ่นพำนักจากนอร์เวย์มายังซีแอตเติล สหรัฐฯ แล้วตั้งบริษัททัวร์ด้วยมอเตอร์ไซค์ชื่อ GlobeRider ขึ้นตามความฝันในปี 1998 ด้วยวัตถุประสงค์คือเพื่อแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ด้านการท่องโลกด้วยมอเตอร์ไซค์ ครั้งนี้เพเดอร์เซ็นใช้ประสบการณ์ไปเพื่อพาผู้รักการท่องเที่ยวผจญภัยท่องไปในที่ต่างๆด้วยมอเตอร์ไซค์ ในที่ที่แปลกใหม่ซึ่งหลายๆแห่งยังไม่มีผู้ไปเยือนมาก่อน
นอกจากสหรัฐฯ “คณะทัวร์”ของเพเดอร์เซ็นยังไปได้ไกลแบบข้ามทวีป กิจกรรม GlobeRider World Tour เป็นกิจกรรมนาน 72 วันที่ทีมนักขี่มอเตอร์ไซค์ผจญภัยจำนวน 14 คนขี่มอเตอร์ไซค์คู่ใจจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นไปถึงนครมิวนิคในเยอรมนี แล้วจบลงด้วยการเยี่ยมชมมอเตอร์ไซค์ท่องพิภพคันแรกของเพเดอร์เซ็นคือ BMW R80 G/S “โอลกา” ที่ถูกเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์ยานยนต์ของ BMW มิวนิค
“นอกจากใจ ต้องรู้จักมอเตอร์ไซค์ของตัวเอง”
การเดินทางไกลด้วยมอเตอร์ไซค์แต่ละครั้งนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดคือใจ เพเดอร์เซ็นกล่าวว่า “ใจต้องมาก่อนครับ สิ่งที่ช่วยได้มากนอกจากใจแล้วคือร่างกายที่แข็งแรง ต้องพร้อม ต้องทนได้กับการขี่มอเตอร์ไซค์ระยะไกลมากๆ ที่สำคัญไม่แพ้กันคือคุณต้องรู้จักมอเตอร์ไซค์ของตัวเอง ต้องมั่นใจว่าได้ตรวจสอบมันให้พร้อมแล้วก่อนเดินทาง ลองบรรทุกสัมภาระดูให้เหมือนสภาพที่ต้องออกไปลุยกันจริงๆ แล้วลองขี่ดูเพื่อให้รู้ปัญหา แก้ไขเสียก่อนขณะยังอยู่บ้าน หรือถ้าเคยขี่ทางไกลมาแล้วก็ต้องจดจำความผิดพลาดในอดีตไว้เพื่อจะไม่ต้องพลาดซ้ำอีก ต้องแพ็คของให้เบาที่สุด ถ้าทริปก่อนมีของน้ำหนักมากแล้วไม่ได้ใช้ทริปนี้ก็ไม่ต้องขนมันไปอีก ลองดูแล้วจะรู้ว่าลดน้ำหนักได้มากเกือบครึ่งทีเดียว ทั้งแว่นตาทั้งยารักษาโรคต้องมีไว้ให้พร้อมรวมทั้งอุปกรณ์ช่างฉุกเฉินและเอกสารสำคัญๆด้วย”
มอเตอร์ไซค์จึงเป็นพาหนะที่นำมนุษย์เข้าถึงในหลายๆส่วนของพื้นพิภพนี้ในแบบที่ยานพาหนะอื่นเข้าไปไม่ได้ โดยเฉพาะเพเดอร์เซ็นนั้นได้ควบมอเตอร์ไซค์ BMW ลุยมาแล้วกว่า 100 ประเทศ ในระยะทางที่มากมายจนเกินจะจำ ในแต่ละทริปผู้ร่วมทางของเพเดอร์เส็นใช้มอเตอร์ไซค์รุ่นต่างๆของ BMW ทั้งแบบ GS และแบบ GS adventure เพราะเส้นทางที่จะบุกไปนั้นมีทั้งทางเรียบ ลูกรัง และมีบ่อยๆที่ต้องลุยเส้นทางวิบากที่แทบไม่เหลือสภาพถนนตามคำขอของลูกทัวร์ผู้ต้องการความท้าทาย
นอกจากใจและความพร้อมทั้งกายและมอเตอร์ไซค์ สิ่งที่เพเดอร์เซ็นคาดหวังคือความกลมเกลียวของทีม เขากล่าวว่า “เพราะการเดินทางทริปยาวๆนั้นไม่ใช่แค่ 3-4 วันหรือเป็นสัปดาห์แต่ต้องใช้เวลามากถึง 70 กว่าวัน มากที่สุดคือ 94 วันในการขี่ไปในหลายประเทศ ความสามัคคีในรูปแบบของทีมจึงสำคัญ ทุกคนต้องรู้จักกันต้องเข้ากันให้ได้ เราจะขี่กันเป็นกลุ่มเล็กๆกลุ่มละ 2-3 คันตามพิกัดจีพีเอสเส้นทางเดียวกัน ซึ่งจะมีประโยชน์มากในการทำงานเป็นทีมและการควบคุมความเร็ว ถ้าจะถามว่าอะไรคือจุดที่ตื่นเต้นหรือสนุกที่สุดในการเดินทาง ผมก็ตอบได้ว่าทุกทริปสนุกตั้งแต่เริ่มออกตัวแล้วครับ เราวางแผนไว้ไม่ให้ผู้ร่วมทางเบื่อ ด้วยเส้นทางเส้นทางที่หลากหลายให้ได้ใช้ทักษะกันครบ ได้เห็นขนมธรรมเนียมและวัฒนธรรมอันแปลกใหม่ ได้พักผ่อนเต็มที่ คุณจะได้ขี่ขึ้นเทือกเขาอันดีสที่สูงตระหง่าน ได้บุกฝ่าไปในธารน้ำแข็งที่หนาวเหน็บแล้วรู้สึกว่าโชคดีที่ได้ใช้มอเตอร์ไซค์เพราะพาหนะอื่นเข้าถึงตรงนั้นไม่ได้ เป็นประสบการณ์การท่องโลกด้วยมอเตอร์ไซค์ที่น่าประทับใจและจะตราตรึงในความทรงจำไปอีกนาน”
ปัจจุบันเฮลเก้ เพเดอร์เซ็นยังประกอบธุรกิจที่เขารักคือการทำธุรกิจท่องเที่ยวด้วยมอเตอร์ไซค์ ด้วยคติที่ยึดมั่นมาตลอดว่า “จงทิ้งรอยยางไว้ทั่วโลก” (Making Tracks Around the World) และมอเตอร์ไซค์ BMW เท่านั้นที่เขาเลือกใช้