เราทุกคนล้วนมีภาพฝันอนาคตในวัยเกษียณที่มีความสุขสบายและมั่นคง แต่การที่เราจะทำความฝันให้กลายเป็นจริงได้ ต้องอาศัยเทคนิคการวางแผนการออมเงินที่ดีด้วย ซึ่งการออมเงินมีมากมายหลายรูปแบบในแต่ละแบบก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป ดังนั้นก่อนตัดสินใจเลือกรูปแบบการออม เราควรดูก่อนว่าการออมแบบไหนที่เหมาะกับเรา
ออมเงินกับกอช.
เป็นรูปแบบการออมระยะยาวที่มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับคนไทยที่มีอายุตั้งแต่ 15-60 ปี นักเรียน นักศึกษา ผู้ประกอบอาชีพอิสระ พ่อค้าแม่ค้า ชาวไร่ชาวนา คนขับรถแท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์ เป็นต้น เพียงออมขั้นต่ำ 50 บาท หรือสูงสุดไม่เกิน 13,200 ต่อปี เดือนไหนมีน้อยก็ออมน้อย ถ้าเดือนไหนมีมากออมมาก รับเงินสมทบจากรัฐสูงสุด 100% หรือ 1,200 บาทตามช่วงอายุ และสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย โดยจะได้เงินคืนเมื่ออายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ ในรูปแบบเงินบำนาญรายเดือนไปจนกว่าจะเสียชีวิต
ฝากธนาคาร
การออมในรูปแบบนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบความเสี่ยง เพราะได้ดอกเบี้ยคงที่แถมเงินต้นยังคงอยู่ ซึ่งมีหลากหลายรูปแบบของการฝาก อาทิ บัญชีเงินฝากประจำ บัญชีเงินฝากแบบพิเศษที่มีดอกเบี้ยเป็นขั้นบันได บัญชีดอกเบี้ยปลอดภาษี การออมรูปแบบนี้เหมาะสำหรับใครที่มีเงินเย็นเก็บไว้นิ่งๆ ไม่หวังผลตอบแทนที่หวือหวา
ซื้อประกัน
เป็นการออมที่มาพร้อมกับความคุ้มครอง และมีแผนการประกันที่หลากหลาย ทั้งในกรณีที่เสียชีวิต ซึ่งบางแผนยังครอบคลุมรวมถึงการเกิดอุบัติเหตุ หรือรวมถึงทุพพลภาพอีกด้วย การออมในรูปแบบประกันจะได้ผลตอบแทนค่อนข้างสูง แต่มีระยะเวลาผูกพันที่ค่อนข้างนานอย่างน้อย 5 ปี เหมาะสำหรับผู้ที่มีรายได้แน่นอน
การซื้อกองทุน
เป็นการออมที่มีความเสี่ยงสูง แต่ก็ได้รับผลตอบแทนสูงเช่นกัน สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ และสามารถขายกองทุนเป็นเงินกลับมาเมื่อครบกำหนดเวลาได้อีกด้วย เช่น กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และกองทุนรวมเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว (SSF)
กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.)
กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือ กบข. เป็นรูปแบบการออมที่จัดตั้งขึ้นเพื่อสร้างความมั่นคงในวัยเกษียณให้แก่ข้าราชการ โดยส่งเงินสะสมทุกเดือนในอัตรา 3% ของเงินเดือนและรัฐบาลจะสมทบให้อีก 3% ของเงินเดือน ซึ่งเงินสมทบ ดังกล่าว สามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 500,000 บาท
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือ Provident Fund เป็นรูปแบบการออมที่ช่วยเพิ่มหลักประกันสำหรับพนักงานเอกชนได้มีเงินออมเพื่อไว้ใช้จ่ายยามเกษียณอายุ ลาออก หรือเสียชีวิต โดยจะหักจากเงินเดือนได้ตั้งแต่ 2-15% มาเป็น “เงินสะสม” ซึ่งนายจ้างจะจ่าย “เงินสมทบ” ในอัตราที่เท่ากันให้อีกส่วนหนึ่งด้วย
สำหรับผู้ที่สนใจสมัครและส่งเงินออมกับ กอช. เพื่อตอบโจทย์ความมั่นคงทางการเงิน พร้อมรับสิทธิประโยชน์การออมเงินจาก กอช. สามารถตรวจสอบสิทธิ์ก่อนการสมัครได้ที่แอป “กอช.” หรือเว็บไซต์ กอช. www.nsf.or.th หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่สายด่วนเงินออม 02-049-9000