ONE มวยไทย รถถัง จิตรเมืองนนท์ แสตมป์ แฟร์เท็กซ์

ไม่ใช่แฟนทำแทนไม่ได้! “รถถัง” ปลอบ “แสตมป์” หลังเสียแชมป์โลก

(2 มี.ค.63) “รถถัง จิตรเมืองนนท์” แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต หลังหวานใจ “แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” พบกับความพ่ายแพ้ครั้งแรกใน วัน แชมเปียนชิพ ถึงกับเข็มขัดกระเด็นไปต่อหน้าต่อตา…

Home / SPORT / ไม่ใช่แฟนทำแทนไม่ได้! “รถถัง” ปลอบ “แสตมป์” หลังเสียแชมป์โลก

(2 มี.ค.63) “รถถัง จิตรเมืองนนท์” แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต หลังหวานใจ “แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” พบกับความพ่ายแพ้ครั้งแรกใน วัน แชมเปียนชิพ ถึงกับเข็มขัดกระเด็นไปต่อหน้าต่อตา เจ้าตัวที่นั่งดูผ่านจอจากเมืองไทย รีบโทรหาส่งกำลังใจไปสิงคโปร์ทันที

“รถถัง” ปลอบ “แสตมป์” หลังเสียแชมป์โลก

ความพ่ายแพ้ของ แสตมป์ ในศึก ONE: KING OF THE JUNGLE เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยเสียเข็มขัด ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นอะตอมเวต ให้กับคู่ปรับเก่าสุดแกร่งอย่าง “เจเน็ต ท็อดด์” ไม่ใช่เพียงเธอเท่านั้นที่กลั้นน้ำตาไม่อยู่ ปล่อยโฮทันทีหลังเดินลงจากเวที แต่ยังมีอีกคนที่มีความรู้สึกร่วมทุกข์ไปกับเธอด้วย นั่นคือแฟนหนุ่มเจ้าของตำแหน่งแชมป์โลกจากสังเวียนเดียวกันอย่าง รถถัง

“พอ แสตมป์ เดินลงมาจากเวทีไปห้องพักนักกีฬา เราก็โทรหากันเลย พอเห็นหน้ากันทางวิดีโอคอล เขาก็เริ่มบีบน้ำตาที่คาเฟ่ (หัวเราะ) ผมเลยแกล้งแหย่ไปว่า โดนต่อยตามาเหรอ ทำไมหน้าบาน เขาก็ยิ้มหัวเราะ ก็ผมอยากทำให้เขาหัวเราะไง”

การปลอบใจของ รถถัง ไม่ใช่แค่เพียงทำตัวตลกไปวันๆ ไร้สาระ เพราะหลังจากที่ แสตมป์ เริ่มคลายความเสียอกเสียใจ และกลับมาตั้งสติได้ เขาก็ช่วยเป็นคู่คิด วิเคราะห์ข้อผิดพลาด และให้คำแนะนำกับหวานใจเพื่อนำไปปรับปรุง

“ผมว่าน้องเขายังติดการยืนเต็มขาแน่นๆ แบบ MMA อยู่ คงเป็นเพราะปีที่ผ่านมาเขาลงแข่ง MMA 3 ไฟต์ และไม่ได้ชกคิกบ็อกซิ่งมาเป็นปี ทำให้เขาชินกับการยืนเต็มขาและรอจังหวะ พอมาชกคิกบ็อกซิ่งซึ่งมันต้องเข้าออกเร็ว และมีเวลาซ้อมคิกบ็อกซิ่งจริงๆ แค่เดือนกว่า ทำให้เขามีเวลาปรับตัวไม่ทัน”

“การออกอาวุธมันต้องเป็นธรรมชาติจากการที่เราฝึกกล้ามเนื้อบ่อยๆ จนมันจำ พอ แสตมป์ ซ้อม MMA มากๆ กล้ามเนื้อมันก็จำและทำแบบนั้นโดยอัตโนมัติ ยังมีจังหวะหนึ่งที่น้องเขาเกือบจะก้มลงไปเทกดาวน์ แล้วเขานึกขึ้นได้ว่ากำลังต่อยคิกบ็อกซิ่งอยู่”

ในฐานะนักมวยที่ผ่านสังเวียนผ้าใบมากว่า 300 ไฟต์ เขามองเห็นจุดดี-จุดด้อย ทั้งของ แสตมป์ และคู่แข่ง รวมถึงให้คะแนนตามสายตาตัวเอง

“ผมก็คิดต่างนิดหนึ่งนะ แต่ผมรู้ว่า ONE ให้คะแนนตามเนื้อผ้า ไม่ใช่ราคาเซียน เขาดูตามรูปมวยและการออกอาวุธ สำหรับ แสตมป์ ผมว่าน้องเขาได้เรื่องอาวุธที่เข้าเป้า แต่ เจเน็ต ได้ความขยันออกอาวุธและไว คือเขาได้ทรงคิกบ็อกซิ่ง เข้าออกเร็ว แต่ก็มาเสียตรงที่โดนเตะขาแล้วออกอาการ”

“ถ้าเทียบกับของเรา เราช้า พอเขาเข้ามาแต่ทำเราไม่ได้ เขาออกไว เราไปเตะแล้วมันวืด มันก็ดูเสียรูปมวย ก็เท่ากับเขาทำเราไม่ได้ เราทำเขาไม่ได้ แต่รูปมวยเขาดีกว่า”

“พอแสตมป์แพ้ ผมน้ำตาร่วงเหมือนกัน ผมต่อยแพ้เองยังไม่เคยร่วง ผมเข้าใจความรู้สึกเขา แต่ก็บอกเขาว่าไม่เป็นไร อย่าไปซีเรียส เมื่อมันไปได้ เราก็ชิงเอากลับมาใหม่ได้ ไม่ต้องไปเสียใจ เพราะยังไงเราก็ชนะใจคนดู”

นอกจากนี้ รถถัง ยังทิ้งท้ายอีกว่า หากมีโอกาสเขาอยากจะไปเป็นพี่เลี้ยงข้างเวทีให้ แสตมป์ ซะเอง จะได้ช่วยกับทีมแฟร์เท็กซ์คอยแก้เกมในแต่ละยก และอยู่เคียงข้างร่วมสุขในวันที่เธอลงจากเวทีด้วยชัยชนะ หรือแม้กระทั่งคอยซับน้ำตาปลอบใจหากครั้งใดไม่ใช่วันของเธอ