ค่ำวันเสาร์นี้ ( 11 ม.ค.63 ) ทีมชาติไทยชุดยู23ปี เตรียมลงเล่นนัดที่สองของศึกเอเอฟซียู23ชิงแชมป์เอเชีย2020ที่จะพบกับออสเตรเลีย ที่สนามราชมังฯ เวลา 20.15 น. ช่อง 7 ถ่ายทอดสด แน่นอนว่าเกมนี้มีความหมายกับทีมชาติไทยอย่างยิ่ง เรามาดู 5 ประเด็นร้อนก่อนช้างศึกเตรียมบู๊ออสซี่ มีเรื่องไหนน่าสนใจกันบ้าง
1. อากิระ นิชิโนะ กุนซือชาวญี่ปุ่นของทีมชาติประเดิมเกมแรกด้วยชัยชนะเหนือ บาห์เรน 5-0 มี 3 คะแนนในมือ ส่วน ออสเตรเลีย ของกุนซือ เกรแฮม อาร์โนลด์ เกมแรกเสมอ อิรัก 1-1 มี 1 แต้ม หากต้องการลุ้นเข้ารอบต่อไป เกมนี้ต้องเอาชนะช้างศึกเจ้าภาพให้ได้ แต่หากเป็นทีมไทยที่คว้าชัยได้นั้น จะทำให้ทีมไทยผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายทันที โดยไม่ต้องลุ้นผลอีกสนามที่ อิรัก จะพบ บาห์เรน ด้วย
2. ทีมชาติไทยชุดยู23เป็นรองออสเตรเลียเรื่องสรีระความสูง ออสเตรเลียมีค่าเฉลี่ยความสูงของนักเตะอยู่ที่ 180.7 เซนติเมตร เป็นทีมที่มีค่าเฉลี่ยส่วนสูงอันดับ 3 ในทัวร์นาเมนต์นี้ ส่วนทีมไทยมีค่าเฉลี่ยความสูงที่ 177.3 เซนติเมตร รั้งอันดับ 8 ส่วนทีมที่สูงที่สุด คือ อิหร่าน ค่าเฉลี่ย 182.1 เซนติเมตร
3. เกรแฮม อาร์โนลด์ กุนซือยู23ออสเตรเลีย ถือเป็นอดีตศูนย์หน้าทีมชาติออสเตเลียช่วงปี 1985-1997 และเป็นอดีตกุนซือทีมชาติออสเตเลียที่เคยพาทีมบุกมาชนะไทย 4-0 ในศึกเอเชียนคัพ2007ที่สนามราชมังฯ วันที่ 16 ก.ค.2007 หรือเมื่อ 13 ปีที่แล้ว
4. ออสเตรเลียชุดยู23ครั้งนี้มีผู้เล่นที่ค้าแข้งอยู่ในยุโรป 9 ราย แต่ เกรแฮม อาร์โนลด์ เลือกส่งลงเป็น 11 ตัวจริงแค่ 3 รายในเกมแรกที่เสมอ อิรัก 1-1 เป็นแนวรับทั้ง 3 คน มี กาเบียล เคอร์ แบ็กขวาจาก อเล็กซานเดียร์ ของอิตาลี , อเล็กซ์ แกสบัช แบ็กซ้ายจาก อาร์ฮุส ของเดนมาร์ก และ ไดเลน ไรอัน เซนเตอร์ฮาล์ฟวัย 19 ปีจาก วิลเล่ม ทเว ในฮอลแลนด์
และ 5. สถิติตัวเลขผลงานในเกมแรก ออสเตรเลีย ที่เสมอ อิรัก 1-1 พวกเขามีโอกาสยิงประตูถึง 11 ครั้ง ยิงตรงกรอบ 4 ครั้ง ได้ประตูแค่ลูกเดียว ยิงไม่ตรงกรอบถึง 7 ครั้ง ได้ลูกเตะมุม 5 ครั้ง ส่วนทีมไทยในเกมที่ชนะบาห์เรน 5-0 มีโอกาสยิงประตู 13 ครั้ง ยิงตรงกรอบ 8 ครั้ง เปลี่ยนเป็นประตู 5 ครั้ง ยิงไม่ตรงกรอบ 5 ครั้ง ได้ลูกเตะมุมแค่ 3 ครั้ง