ทีมชาติไทยชุดยู23ปีที่ยังคาบลูกคาบดอก จะลิ่ว หรือ จะร่วงตกรอบในศึกเอเอฟซียู23ชิงแชมป์เอเชีย2020ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ แน่นอนว่าเกมนัดต่อไปที่จะชี้ชะตาเข้ารอบพบอิรักในวันอังคารที่ 14 ม.ค.63 ถือเป็นความหวังที่สำคัญมากๆ เพราะไทยจะตกรอบแรกไม่ได้ กับ 5 เหตุผลดังต่อไปนี้
1. ถ้าหากยู23ไทยตกรอบแรก … อากิระ นิชิโนะ กุนซือที่ดูแลควบทุกชุด ทั้งทีมชาติไทยชุดใหญ่ , ทีมชุดซีเกมส์ที่ตกรอบแรกไปแล้วเมื่อปลายปี2019 และชุดยู23คัดโอลิมปิกครั้งนี้อาจไม่ได้ไปต่อกับทีมชาติไทยในโปรแกรมต่อไป กล่าวคือ นิชิโนะ อาจไม่ได้รับการต่อสัญญาใหม่ ซึ่งสิ่งที่ทำไว้ในชุดใหญ่คัดบอลโลก อาจเกิดหยุดชะงัก ไม่ถึงปลายทางตามแผนที่วางไว้
2. ถ้าเกิดตกรอบแรกจริงๆ … นั่นหมายความว่า “ปรัชญานิชิโนะ” ที่ต้องการให้นักเตะทีมชาติไทยได้พักเยอะ ซ้อมน้อยๆ เก็บแรงไว้ใส่ในเกม90นาที นั่นจะกลายเป็นปรัชญาที่ผิดไปทันที ใช้กับฟุตบอลไทยไม่ได้
3. สุดท้ายถ้านิชิโนะพาไทยตกรอบแรก … จะเป็นการเอาชื่อเสียงมาทิ้งไว้ที่ประเทศไทย จากอดีตที่ อากิระ นิชิโนะ เคยใส่สูท ผูกไทด์ เดินผ่านพรมแดง พาทีมชาติญี่ปุ่นลงสนามฟุตบอลโลก2018รอบสุดท้ายที่รัสเซียมาแล้ว แต่พอมาทำทีมเล็กๆที่ยิ่งใหญ่อย่าง ทีมชาติไทย กลายเป็นว่า ผลงานไม่เข้าเป้า คนเขาจะหาว่า ฉายาที่สื่อตั้งให้อย่าง ซามูไรพลาสติก เขาตั้งให้แบบนี้ถูกแล้ว หรือเปล่า ?
4. ถ้าไม่มีชื่อทีมยู23ไทยในรอบ8ทีม … บรรยากาศมันจะกร่อยมาก ศรัทธาฟุตบอลไทยอาจหมดไปอีกครั้ง หลังจากผิดหวังมาแบบติดๆกัน 2 ไฟต์ติด ทั้งการตกรอบแรกซีเกมส์2019ที่ฟิลิปปินส์ และต่อด้วยเอเอฟซียู23ชิงแชมป์เอเชีย2020 ครั้งนี้
และ 5. ถ้ายู23ทีมชาติไทยต้องตกรอบแรกทั้งที่เกมแรกชนะบาห์เรนมา 5-0 … อาจส่งผลถึงความเชื่อมั่นใน “รัฐบอลสมยศ” ของ พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯที่เตรียมลงสมัครรับเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯวาระใหม่ในวันที่ 12 ก.พ.63 ด้วย
