เพชรดำ เพชรยินดีอะคาเดมี นำทัพนักสู้ชาวไทย รถเหล็ก พี.เค.แสนชัยมวยไทย และ พงษ์ศิริ มิตรสาธิต บุกฟิลิปปินส์ ทำศึก ONE: FIRE & FURY วันที่ 31 มกราคมนี้
เปิดศักราชใหม่ 2020 อย่างสวยงาม สำหรับ วัน แชมเปียนชิพ หลังจากกลับมาจัดการแข่งขันสุดยิ่งใหญ่ที่ประเทศไทยเป็นประเทศแรก เมื่อวันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา และไม่ปล่อยให้แฟนๆ ต้องคอยนาน สิ้นเดือนนี้แฟนผู้รักศิลปะการต่อสู้เตรียมจดลงสมุดนัดได้เลย กับศึกครั้งที่สองของปีอย่าง ONE: FIRE & FURY
ศึกนี้จะจัดขึ้นในวันที่ 31 มกราคม ที่ มอลล์ ออฟ เอเชีย อารีน่า กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งแฟนชาวไทยสามารถรับชมได้หลายช่องทางทั้งโซเชียลมีเดียของ ONE Championship และแอปพลิเคชัน ONE Super App และเป็นธรรมดาที่ศึกนี้จะมีนักสู้เจ้าถิ่นจากแดนตากาล็อกขึ้นสังเวียนมากเป็นพิเศษถึง 6 คนจากทั้งหมด 11 คู่แข่งขัน รวมถึงนักกีฬาจากนานาประเทศที่เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลเพื่อชิงชัยในการแข่งขันครั้งนี้
สำหรับประเทศไทยส่ง 3 ขุนศึกเป็นตัวแทนประเทศเพื่อไปประกาศศักดาในฐานะนักสู้แดนสยาม ได้แก่ เพชรดำ เพชรยินดีอะคาเดมี, รถเหล็ก พี.เค.แสนชัยมวยไทย และ พงษ์ศิริ มิตรสาธิต ซึ่งพวกเขาจะต้องเจอกับใครในศึกนี้ เราไปดูกัน
เพชรดำ เพชรยินดีอะคาเดมี
รายนี้ห่างหายจากสังเวียนการต่อสู้ไปร่วม 5 เดือนเพื่อรักษาแผลใจ หลังพ่ายเสียเข็มขัดแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวต ให้ผู้ท้าชิงดีกรีแชมป์โลกคิกบ็อกซิ่ง 6 สมัย อิเลียส เอ็นนาฮาชิ เมื่อสิงหาคมที่ผ่านมา หลังเปิดศักราชใหม่ เพชรดำ จึงตัดสินใจหันมาเดินทางสายเดิมที่ถนัดในกติกามวยไทย และกำลังจะเปิดศึกกับยอดมวยดังจากญี่ปุ่น โมโมทาโร วัย 29 ปี ในกติกามวยไทย 3 ยก รุ่นฟลายเวต (61.2 กก.)
โมโมทาโร มีความอันตรายพอตัว จากผลงานการน็อกเจ้าตำนานมวยไทย สิงห์ทองน้อย ป.เตละกุล ด้วยเวลาเพียง 41 วินาที ซึ่งถือเป็นสถิติน็อกเอาต์รวดเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของ วัน ซูเปอร์ ซีรีส์ ทำให้ เพชรดำ ประมาทไม่ได้ทีเดียว
รถเหล็ก พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม
นักมวยไทยรุ่นใหญ่ รถเหล็ก พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม ซึ่งจะขึ้นชกก่อนอายุครบ 30 ปี เพียง 3 วัน หลายคนอาจมองว่าอายุมากแล้วสำหรับนักมวยไทย แต่เจ้าตัวยังยืนยันว่าสบายๆ เพราะตนไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ และมีตัวอย่างนักมวยรุ่นใหญ่ๆ ที่ยังเดินบนเส้นทางสายนี้อีกหลายคน ทั้ง น้องโอ๋ และ สามเอ ไก่ย่างห้าดาว ซึ่งต่างก็ เป็นแชมป์โลก วัน แชมเปียนชิพ ด้วยกันทั้งคู่
สำหรับ รถเหล็ก กำลังจะขึ้นชกเป็นครั้งที่สาม หลังจากเก็บชัยชนะได้สองไฟต์ต่อเนื่อง โดยครั้งนี้เขาจะเจอกับ คริส ชอว์ ซึ่งเป็นนักมวยสูงยาวชาวสก็อต ซึ่งจะมาเปิดตัวในศึกนี้เป็นครั้งแรก โดยมีความสูงถึง 180 ซม.เท่ากับคู่ต่อกรรายล่าสุดของ รถเหล็ก ขณะที่ รถเหล็ก สูง 168 ซม. ซึ่งเรื่องความสูงและช่วงชกนี้มีผลทำให้นักมวยได้เปรียบ-เสียเปรียบกันอยู่บ้าง แต่เมื่อเคยผ่านงานยากมาแล้ว การพบกันในกติกามวยไทย 3 ยก รุ่นแบนตัมเวต (65.8 กก.) ครั้งนี้ก็ไม่มีอะไรที่ต้องกลัว
พงษ์ศิริ มิตรสาธิต
ยอดนักสู้ในกติกาการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) เพียงไม่กี่คนของประเทศไทย พงษ์ศิริ มิตรสาธิต จะกลับไปเยือนสนามแข่งขันเดิมเป็นครั้งที่ 4 ซึ่งสนามนี้เหมือนมีอาถรรพ์ เพราะที่ผ่านมา พงษ์ศิริ เยือนแดนตากาล็อก 3 ครั้ง ยังไม่เคยคว้าชัยชนะกลับสู่มาตุภูมิได้แม้แต่ครั้งเดียว
ศึกนี้ พงษ์ศิริ จะต้องดวลเดือดกับนักสู้เจ้าบ้าน ลิโต อาดิวัง ที่เป็นอีกหนึ่งความหวังใหม่จากทีมยักษ์ใหญ่อย่าง ลาไคย์ อันโด่งดัง ซึ่งปั้นนักชกระดับแชมป์โลกมาแล้วถึง 4 คน ลิโต เป็นนักสู้ที่มีอาวุธครบเครื่องในท่านอน อันเป็นจุดอ่อนของ พงษ์ศิริ แต่ถ้าเขาสามารถประคองเกมยืนไว้ได้นานที่สุด และป้องกันการถูกเทคดาวน์ได้ เชื่อว่าชาวไทยก็มีโอกาสเฮสูงทีเดียว
นี่คือ 3 ไฟต์จาก 3 ขุนศึกไทยที่พวกเราชาวไทยไม่ควรพลาดชมในศึก FIRE & FURY นี่ยังไม่รวมคู่เอกที่รับรองความดุเด็ดเผ็ดมัน จากการประชันฝีมือระหว่างแชมป์และอดีตแชมป์โลก ONE รุ่นสตรอว์เวต (กติกาการต่อสู้แบบผสมผสาน-MMA) โจชัว พาซิโอ ปะทะ อเล็กซ์ ซิลวา ที่บรรดากูรูต่างไม่กล้าฟันธงว่าเข็มขัดเส้นนี้จะยังอยู่ที่เดิม หรือจะกระเด็นไปหรือไม่ ซึ่งแฟนๆ ผู้รักการต่อสู้สามารถหาคำตอบได้ในวันศุกร์ที่ 31 มกราคมนี้ เวลา 16.30 น.ทางโซเชียลมีเดียของ ONE Championship